นับเป็นนักการเมือง “นิวเจนบ้านใหญ่” ยืนอยู่ระดับแถวหน้าอีกคน ที่เลือดสีแดงข้นคลั่ก เพราะเป็นลูกหม้ออยู่ตั้งแต่สมัย “มอตโต้ตาดูดาวเท้าติดดิน”
ติดตามตัวตนของผู้มีนิกเนมว่า “บอย” นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ขยับมุมคิดถึงยุค “คิดใหญ่ทำเป็น” ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล ออกสตาร์ตบริหารประเทศไปกว่า 6 เดือน แต่กระแสนิยมยังตกเป็นรองพรรคคู่แข่งเท่าตัว แล้วทำอย่างไรถึงกู้ศรัทธากลับคืนมา
โดยพรรค พท.ต้องเรียกความเชื่อมั่นกลับมา พร้อมชี้ให้เห็นต้นเหตุตั้งแต่ฟอร์มรัฐบาล ที่นำโดยพรรคอันดับ 1 และพรรค พท.สนับสนุนเต็มที่ ไม่ได้ตั้งรัฐบาลแข่ง ถึงที่สุดแล้วตั้งไม่ได้ พอไม่ได้อย่างที่คาดการณ์เอาไว้ กลายเป็นบาปมาตกอยู่ที่พรรค พท.
ณ วันนี้ตั้งรัฐบาลแบบนี้พวกผมกลืนเลือด ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ แต่ประเทศไทยต้องไปต่อ รออีก 10 เดือน สว.หมดวาระ ถ้ารอประเทศจะเป็นอย่างไร ขาดโอกาสไม่รู้เท่าไหร่
...
พอตั้งรัฐบาลได้ตามกลไกประชาธิปไตย บริหารประเทศแบบควิก-วิน ผลักดันนโยบายตามที่สัญญาไว้กับประชาชน โดยยังไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินใดในรอบกว่า 6 เดือน
ขอฉายภาพให้เห็นนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ไป จ.สระแก้ว ติดชายแดนประเทศกัมพูชามีปริมาณการค้าขายกว่า 3 แสนล้านบาทต่อปี เฉพาะด่านสระแก้วก็กว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี
แต่ด่านศุลกากร การคมนาคมยังไม่โฟลว์ แม้กระทั่งอีอีซีหรือระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ชลบุรี-ระยอง-ฉะเชิงเทรา ไม่มีพื้นที่จังหวัดไหนติดชายแดน ทำไมไม่เอาสระแก้ว-จันทบุรี-ตราด-ปราจีนฯผนวกเข้าไป ผมกำลังผลักดันอีอีซีต้องเป็นทั้งภาคตะวันออก เพื่อดึงดูดนักลงทุน
เพื่อไทยถนัดพัฒนาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
นายกฯเชื่อมั่นเฉพาะด่านสระแก้วต้องโตอีก 3-4 เท่า
นายกฯ ที่ทำงานมา 6 เดือนกว่าโดยไม่รับเงินเดือน ใครรู้บ้าง ท่านให้ความสำคัญทุกจังหวัด และยังเป็นถึง “เซลส์แมน” เป็นสิ่งที่พรรค พท.ถนัดมาก ที่ผ่านมานายกฯ แต่ละท่าน ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ท่านนายกฯทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นเซลส์แมน นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เป็นเซลส์วูเมน
ผมเคยอยู่กับนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย สมัยเป็น รมว.ต่างประเทศ ผมไปกับท่าน นั่นแหละเซลส์แมนของประเทศไทย ไทยมีอะไรดี ออกไปเร่ขายของ เพื่อดึงดูดนักลงทุนทั่วโลก และนักท่องเที่ยวทั่วโลก
พรรค พท. โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค ก็พยายามเข้าพบทูตประเทศต่างๆ ให้เห็นถึงนโยบายรัฐบาล ล่าสุดไปเยือนประเทศกัมพูชา ในฐานะบทบาทของนักการเมือง แลกเปลี่ยนระหว่างพรรค ไม่ใช่ในนามประเทศ ไม่มีคำว่า “น้ำมัน” หลุดออกมาสักคำ
(กรณีพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ที่รัฐบาลเพื่อไทยถูกตั้งข้อสังเกตมีผลประโยชน์ทับซ้อนด้านพลังงาน โดยเฉพาะที่ น.ส.แพทองธารไปเยือนกัมพูชา)
รัฐบาลยังเหลือเวลาอีก 3 ปีกว่า สามารถสร้างผลงานให้พรรค พท.กลับมาได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งได้อย่างไร นายสรวงศ์ บอกถึงความเชื่อมั่นที่ทำให้ผลงานของรัฐบาลจับต้องได้ โดยด้านเศรษฐกิจในภาพรวม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม
ด้านงานยุทธศาสตร์ของพรรค พท.ก็เช่นกัน การอภิปรายรัฐบาลโดยไม่ลงมติของฝ่ายค้าน เราก็ไม่เป็นห่วง และหัวหน้าพรรคก็กำลังวางปฏิทินลงพื้นที่ในจังหวะที่ปิดสมัยประชุมสภาฯ ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.นี้
ที่ผ่านมาทุกคนในพรรคเห็นตรงกัน เราแข็งมากในงานออนกราวน์ลงพื้นที่ งานในพื้นที่ ไม่ทอดทิ้งประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาแต่ละพื้นที่ ยังทำงานการเมืองรูปแบบเดิมๆ ไม่เก่งออนแอร์ประกาศให้คนทั้งประเทศรู้ว่าเราทำอะไร ก็กำลังพยายามรีฟอร์มเรื่องนี้ โดยปรับยุทธศาสตร์การสื่อสารถึงประชาชน
จุดแข็งตามสโลแกนคิดใหญ่ ทำเป็น คิดนอกกรอบ สัญญากับประชาชนแล้วต้องทำ โดยดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายสเกลใหญ่ ย่อมมีอุปสรรค ก็ต้องช่วยพัฒนาเป็นสเต็ปให้ดีขึ้น เพื่อกระชากเศรษฐกิจของประเทศ
แม้ทุกหน่วยงานชี้ไม่ใช่วิกฤติเศรษฐกิจ แต่ผมยืนยันเป็นวิกฤติการเงิน
เมื่อถึงเวลาสิ่งที่เพื่อไทยผลักดัน ย่อมนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงใหญ่
ปรากฏการณ์ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้าพรรค พท. และเตรียมลงพื้นที่ต่างจังหวัด มีผลบวกต่อรัฐบาลอย่างไร นายสรวงศ์ บอกว่าแน่นอนมีทั้งคนรักและไม่ชอบ
ขอให้มองว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์ มีประโยชน์ต่อประเทศที่เป็นพ่อของหัวหน้าพรรค พท. และที่ท่านจะไปต่างจังหวัดก็ด้วยความคิดถึงประชาชน ถึงอย่างไรก็ลบประวัติศาสตร์ไม่ได้ในฐานะเป็นนายกฯ ที่ป๊อปปูลาร์
“ไปต่างจังหวัดขึ้นอยู่กับท่าน ไม่ใช่ภารกิจของพรรค มาเยี่ยมพรรคก็ดูลูกสาวทำงานอย่างไร ใครเป็นทีมงานบ้าง
บางคน โดยเฉพาะ สส.ใหม่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต มีแต่พ่อเล่าให้ฟัง บางคนที่เป็น สส.เคยทำงานร่วมกับท่าน ถึงกับน้ำตาคลอ
ฉะนั้นเหมือนหัวหน้าครอบครัวกลับบ้าน อย่าไปมองมุมการเมืองว่า มาสั่งการหรือจะมาทำอะไร มาถามผมมีนายกฯกี่คน นายกฯ คนเดียว เศรษฐา ทวีสิน หัวหน้าพรรคคนเดียว แพทองธาร ชินวัตร”
ทำให้ สส.ฮึกเหิม...เหมือนมีพลังขึ้นมา
เพราะช่วงที่อยู่ต่างประเทศ มีประสบการณ์เยอะมาก นวัตกรรมบางสิ่งบางอย่างที่พูดออกมา บางคนไม่รู้ด้วยว่ามันมีอยู่จริงในโลกใบนี้
ท่านอาจเป็นอีกกำลังเสริมหนึ่ง หัวหน้าพรรค พท.พูดไปแล้วว่า ไม่ใช่เฉพาะพรรค พท. รัฐบาลเศรษฐา ใครจะใช้หรือปรึกษาท่านได้หมด ในฐานะเป็นคนไทยคนหนึ่ง
รัฐบาลเริ่มผลักดันนโยบายเป็นผลงานจับต้องได้ งบประมาณปี 67 ใกล้ได้ใช้ และยังมีนายทักษิณช่วยเป็นที่ปรึกษา ตอนนี้มั่นใจแค่ไหน 3 ปีที่เหลือเลือกตั้งใหม่ พรรค พท.กลับมาทวงบัลลังก์อันดับ 1 นายสรวงศ์ บอกว่า ผลโพลที่ออกมาประชาชนอาจฝากความหวังไว้กับรัฐบาลเยอะ
เพราะที่ผ่านมาเคยใช้ระยะเวลาอันสั้นเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ ยังมีนโยบายอีกเยอะในทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษาที่ต้องทำให้กับประชาชน
มั่นใจเพื่อไทย มั่นใจนายกฯ เศรษฐาทำได้แน่นอน
แม้ที่ผ่านมาเคยเป็นรัฐบาลพรรคเดียวมาตลอด มีช่วงท้ายมีพรรคร่วมบ้างนิดหน่อย นี่เป็นครั้งแรกที่เป็นรัฐบาลผสม 11 พรรค การทำงานอาจไม่สมูทเหมือนตอนนั้น
แต่ความหลากหลาย ทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น โดยเฉพาะหลากหลายพรรค มี สส.ดูแลพื้นที่กระจายทั่วประเทศ เช่น ภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์ครองพื้นที่ตลอด ไม่เคยมีพรรค พท. วันนี้มีบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลกระจายเต็มภาคใต้
ไม่มีวลีกล่าวหาว่าเป็นรัฐบาลคลุมอีสาน คลุมภาคเหนือ คลุมภาคตะวันออก คลุมภาคใต้ วันนี้เป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ปัญหาหลากหลายในแต่ละพื้นที่ มีวิธีแก้ที่ต่างกัน เป็นที่มานายกฯ ต้องลงพื้นที่ต่างจังหวัดบ่อย เพื่อแก้ปัญหา และดึงศักย ภาพของแต่ละจังหวัดขึ้นมา ดึงของดีแต่ละจังหวัดขึ้นห้างสรรพ สินค้า ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
ทำบิสซิเนสแมชชิ่งกับห้างใหญ่ที่เป็นเจ้าสัว
พรรค พท.ตั้งรัฐบาลสลายเสื้อสี แต่วันนี้เริ่มมีขบวน การออกมาต่อต้านกระบวนการยุติธรรมกรณีคดี นายทักษิณ มั่นใจสลายเสื้อสีในระยะเวลาที่เหลืออีก 3 ปีกว่าได้อย่างไร นายสรวงศ์ บอกว่า ยอมรับการเมืองเปลี่ยน โดยสิ่งที่เปลี่ยนมากที่สุด คือประชาชน
ชอบพูดถึงบ้านใหญ่ๆ มันล้าสมัยไปแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือทำงานให้เป็นที่ประจักษ์กับประชาชน ในฐานะเลขาธิการพรรคต้องทำงานหนัก ช่วยหัวหน้าพรรค ช่วยสมาชิกพรรค ช่วยผู้สมัคร สส.ลงพื้นที่
และอยากให้แยกระหว่างตัวบุคคลกับพรรค ต้องแยกให้ออก แล้วย้อนกลับไปดูสิ่งที่ท่านโดนกระทำมาตลอด ตั้งแต่ถูกรัฐประหาร จนถึงคณะบุคคลที่จัดการกับท่าน และ 1 ปีที่รับโทษก็เป็นไปตามขั้นตอนกรมราชทัณฑ์ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล และพรรค พท.
เช่นเดียวกับเสื้อสี จริงๆ แล้วไม่มีแล้ว อาจมีบางคนบางกลุ่ม มีวิธีการ วิธีทางความคิดอาจแตกต่างกันไป
ทุกกลุ่มที่ออกมามีเจตนาดีต่อประเทศ
ประเทศ บ้านเมือง มันต้องมีทางออก.
ทีมการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม