นายกรัฐมนตรี ยืนยัน เงินดิจิทัล 10,000 บาท ถึงมือประชาชนในสิ้นปีนี้แน่นอน ย้ำ มีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ขอรอฟังข่าวดี 10 เมษายนนี้ มอง บอลไทย-เกาหลีใต้ ความกดดันสูงไปหน่อย

วันที่ 27 มีนาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 2/2567 ว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าเศรษฐกิจมีปัญหา มีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะจีดีพีเติบโตต่ำมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อไปเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่การเติบโตเศรษฐกิจสูงกว่า กระทรวงการคลังจึงเสนอความเป็นไปได้ของแหล่งเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นอกเหนือจากการออก พ.ร.บ.เงินกู้ โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ไปดำเนินงานและรายงานที่ประชุมใหญ่วันที่ 10 เมษายนนี้ พร้อมมอบให้กระทรวงพาณิชย์ สรุปหลักเกณฑ์ของร้านค้าและสินค้าและนำมารายงานที่ประชุมเช่นกัน ส่วนกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม และคณะกรรมการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (บอร์ดรัฐบาลดิจิทัล) ไปสรุปการพัฒนาระบบ และการจัดทำในลักษณะเปิด (Open Loop) เพื่อให้สถาบันและผู้ประกอบธุรกิจกระเป๋าเงินเข้าร่วมโครงการก็รายงานในที่ประชุมด้วยเช่นกัน 

...

ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้มอบหมายให้วางกรอบการตรวจสอบวินิจฉัยร้องทุกข์และกล่าวโทษ และการเรียกเงินคืนก็ต้องรายงานในที่ประชุมครั้งต่อไป ซึ่งในการประชุมของวันที่ 10 เมษายน 2567 จะได้ข้อสรุปทั้งหมดและเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนเมษายน พร้อมยืนยันว่ากรอบทุกอย่างเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่ นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลง คือ ไตรมาส 3 ลงทะเบียนร้านค้าและประชาชน ซึ่งในไตรมาส 4 เงินจะถึงมือประชาชนแน่นอน 

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การประชุมวันนี้ใช้เวลา 30 นาที ทุกคนในที่ประชุมเห็นด้วยในขั้นตอนทั้งหมด และก็ขอให้ฟังข่าวดีในวันที่ 10 เมษายนนี้ ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงบรรยากาศการชมฟุตบอลที่ทีมชาติไทยแข่งขันกับทีมชาติเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ (26 มีนาคม 2567) ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ว่า “บรรยากาศเครียดไปหน่อย เพราะบอลมันตึง เลยทำให้เครียดไปนิดนึง ความกดดันสูงไปหน่อย”