“พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” ยันไม่ใช่สายจันทร์ส่องหล้า ดีใจเหมือนกลับบ้านเก่า โดยย้ายเข้าทำเนียบไม่เครียด ให้ทำงานอะไรก็ทำ ความขัดแย้งต้องจบ หัวเราะ ไม่รู้ว่าเป็น “โจ๊กเนเวอร์ดาย” เผย ปลัดฯมอบหมายเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย-พ.ร.บ.ข่าวสารฯ
วันที่ 21 มีนาคม 2567 เมื่อเวลา 10.20 น. พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์หลังรายงานตัว ว่า วันนี้ได้เข้ามารายงานตัว ส่วนงานที่รับผิดชอบก่อนหน้านี้ก็ยังไม่ได้ประสานหรือส่งต่อให้ใคร และที่บางกระแสมองตนเองว่าที่รอดมาได้เพราะไปใกล้ชิด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อตอนไปบ้านที่จังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะตอนนั้นไปทำหน้าที่การรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ นายทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ย้ำว่าไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ส่วนครั้งนี้เป็นการแก้ปัญหาของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดความสามัคคีในหน่วย
เมื่อถามว่า คนมองว่าบิ๊กโจ๊กได้เปลี่ยนสาย ไปอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ส่ายหัว และพูดต่อว่าไม่มีสายไหน มีแต่เป็นรอง ผบ.ตร. ตอนนี้ให้มาทำหน้าที่นี้ก็ต้องทำ
ส่วนคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีเซ็นย้ายเมื่อวานนี้ เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่ามีความบกพร่อง และความขัดแย้งกันกับ ผบ.ตร. นั้น พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีต้องการแก้ปัญหาให้เกิดความสามัคคีกันในหน่วยงาน วันนี้ทุกคนก็ต้องทำหน้าที่ เพื่อประชาชนและส่วนรวม เรื่องส่วนตัวต้องทิ้งไปให้หมด ส่วนจะไปพบนายกรัฐมนตรี หรือเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหรือไม่ วันนี้มารายงานตัวกลับปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ถือว่าทุกอย่างเรียบร้อย จากนี้จะไปอยู่ห้องทำงาน และจะเข้ามาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลทุกวัน
...
เมื่อถามย้ำว่า ความขัดแย้งครั้งนี้ ถือเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงที่สุดจนถึงขั้นต้องจับนายตำรวจทั้งสองเข้ากรุในทำเนียบ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ความขัดแย้งทุกอย่างก็ต้องจบ เมื่อวานก็คุยกันหมดแล้ว องค์กรต้องอยู่และแข็งแรง ทำงานเพื่อประชาชน ลูกน้องต้องไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย
“วันนี้ปลัดฯ ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ มอบหมายงานด้านที่ปรึกษากฎหมาย และ พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ เรื่องการกระจายอำนาจ ก็จะต้องทำหน้าที่ให้ดี ไม่จำเป็นต้องกำชับลูกน้อง ว่าจะต้องไม่ขัดแย้งกัน ไม่ว่าจะเป็นสายใคร ก็คุยกันหมดแล้ว ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกันแน่นอน” พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์กล่าว
ส่วนที่มีการกล่าวว่า “บิ๊กโจ๊ก” มีชีวิตที่ 10 นั้น พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยืนยันว่าไม่ได้มีอะไร เมื่อเขาให้โอกาส ให้ทำงานก็ทำไป ไม่ว่าจะหน้าที่ไหนก็ต้องทำ และไม่รู้ว่าเป็น “โจ๊กเนเวอร์ดาย” พร้อมกับหัวเราะ
เมื่อถามว่าวันนี้ยังยิ้มได้ใช่หรือไม่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ก็ไม่ได้ไปมูอะไรทั้งสิ้น แต่จะต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ทำหน้าที่ต้องยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและศรัทธา ซึ่งทั้งหมดนี้คือหน้าที่ของข้าราชการแผ่นดิน ส่วนคดีต่างๆ ที่มีการฟ้องร้องพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ จะต้องนัดคุยกันอีกครั้ง เพราะมีหลายส่วน
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังกล่าวว่าขณะนี้ไม่รู้สึกเครียดอะไร จึงหัวเราะและยิ้มได้ อาจจะแตกต่างจาก ผบ.ตร. วันนี้เหมือนได้กลับบ้าน เพราะก่อนหน้าเคยถูกย้ายให้มาช่วยงานที่ทำเนียบแล้วครั้งหนึ่ง ยืนยันคำสั่งย้ายด่วนเมื่อวานนี้ไม่ได้รู้ก่อน ก็รู้พร้อมกันกับสื่อฯ ซึ่งสวนทางกับ ผบ.ตร.ที่บอกว่าทราบตั้งแต่เมื่อวาน แต่การสั่งการทั้งหมดเป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี และไม่ยืนยันว่าจะได้กลับไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ อยู่ที่นายกรัฐมนตรี
ภาพ : ธนัท ชยพัทธฤทธี