โฆษกรัฐบาล เผย ไทยครองอันดับ 2 กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียที่น่าลงทุนที่สุด จาก Milken Institute สหรัฐฯ เชื่อมั่นผลการทำงานรัฐบาล ดึงดูดการลงทุนเห็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ย้ำ เป็นช่วงเวลาดีที่สุดที่จะลงทุนในไทย

วันที่ 20 มีนาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการประกาศผลดัชนีโอกาสด้านการลงทุนระดับโลก (Global Opportunity Index หรือ GOI) ซึ่งจัดทำโดย Milken Institute สหรัฐอเมริกา พบว่าประเทศไทย ครองอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย (Emerging and Developing : E&D) ที่น่าลงทุนที่สุด (อ่านผลดัชนีโอกาสด้านการลงทุนระดับโลก

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ดัชนี GOI จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุนทั่วโลกที่มองหาโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศ และให้ข้อมูลแก่ประเทศต่างๆ ที่ต้องการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ โดยดัชนีนี้อิงตามตัวชี้วัด 100 รายการ แบ่งออกเป็น 5 หมวดหมู่ ได้แก่ 


1. การรับรู้ทางธุรกิจ 

2. พื้นฐานทางเศรษฐกิจ 

3. บริการทางการเงิน 

4. โครงสร้างเชิงสถาบัน

5. มาตรฐานและนโยบายระหว่างประเทศ 

ทั้งนี้ ประเทศไทย อยู่ในอันดับ 2 ในกลุ่ม E&D ในภูมิภาคเอเชีย โดยอันดับ 1-5 กลุ่ม E&D ในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ มาเลเซีย ไทย จีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม ส่วนในอันดับโลก ไทยอยู่ในอันดับ 37 สำหรับกลุ่ม E&D ในภูมิภาคเอเชีย รายการการรับรู้ทางธุรกิจไทยอยู่อันดับ 21 ในพื้นฐานทางเศรษฐกิจ อยู่อันดับ 22 บริการทางการเงิน อันดับ 29 โครงสร้างเชิงสถาบัน อันดับ 51 และมาตรฐานและนโยบายระหว่างประเทศ อันดับ 68 โดยประเทศที่น่าลงทุนที่สุดในโลก ได้แก่ เดนมาร์ก

...

อีกทั้งตามรายงาน ประเทศในกลุ่ม E&D ในภูมิภาคเอเชีย มีผลประกอบการที่ดีกว่าภูมิภาคอื่น ดึงดูดเงินทุนมากกว่าครึ่งหนึ่ง (53.2%) ไหลเข้าสู่ประเทศ E&D ระหว่างปี 2018-2022 เพิ่มส่วนแบ่งใน E&D มากขึ้น 7.3% จาก 45.9% ระหว่างปี 2013-2017

“นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญกับการเพิ่มศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ กำหนดนโยบายให้ทันสมัย สอดคล้องจูงใจนักลงทุน รวมทั้งพัฒนาและอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน (Ease of doing Business) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ไทยเป็นที่สนใจจากนักลงทุนต่างชาติ พร้อมกับได้ออกไปรับฟังว่าสิ่งสำคัญที่นักลงทุนรายใหญ่ระดับโลกต้องการคืออะไร เพื่อปรับกระบวนทัศน์และยุทธศาสตร์ของไทยให้ตอบรับกับความต้องการของนักลงทุนรายใหญ่ พร้อมกันนี้ Message สำคัญที่นายกรัฐมนตรีส่งต่ออย่างต่อเนื่องคือ ประเทศไทยเปิดแล้ว พร้อมรองรับการลงทุน และเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะลงทุนในประเทศไทย”