ฉายา “เดอะ เซลส์แมน” ที่นิตยสารไทม์นำมาพาดหัวขึ้นปก พร้อมรูปและบทสัมภาษณ์พิเศษคุณเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง สะท้อนมุมมองของสื่อต่างชาติที่มีต่อนายกฯเศรษฐาไม่ต่างจากสื่อมวลชนไทย ซึ่งผู้สื่อข่าวสายทำเนียบรัฐบาลได้ตั้งฉายาคุณเศรษฐาว่า “เซลส์แมนสแตนด์ชิน” หากตัดประเด็นตระกูลชินวัตรออกไป ภาพลักษณ์การทำงานของนายกฯเศรษฐาปรากฏชัดในการเป็นเซลส์แมนของประเทศไทย
การวางบทบาทที่เด่นชัดจนได้ขึ้นปกนิตยสารไทม์ถือว่าทำการตลาดได้ผลช่วยโปรโมตประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ตอกย้ำคำประกาศ ไทยพร้อมแล้วสำหรับการเปิดกว้างต้อนรับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก
6 เดือนในตำแหน่งนายกฯ คุณเศรษฐาเดินทางไปปฏิบัติภารกิจมากกว่า 10 ประเทศ อาทิ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี เพื่อพบปะเชิญชวนบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่มาลงทุนในไทย
เทรนด์โลกยุคนี้ ทุกประเทศล้วนมีเป้าหมายร่วมกันที่จะลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทุกครั้งที่นายกฯไปเชิญชวนนักลงทุนจึงต้องชู นโยบายเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ถ้ามาตั้งฐานการลงทุนในไทยก็จะไม่มีอุปสรรคหรือติดขัดเรื่องมาตรฐานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
เซลส์แมนไปเร่ขายของจะอาศัยแค่มาดดีอย่างเดียวไม่พอ แต่สินค้าต้องดีด้วย ประเทศไทยต้องวางโครงสร้างพื้นฐานและปรับปรุงกฎระเบียบที่อำนวยความสะดวกและลดอุปสรรคต่อการลงทุนของต่างชาติด้วย
เท่าที่เปรียบเทียบเนื้องานของแต่ละกระทรวง ต้องยกให้กระทรวงอุตสาหกรรมมีผลงานชัดเจนรองรับนโยบาย 8 ด้าน ตามวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND โดยเฉพาะด้านศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต และศูนย์กลางอาหาร
คุณพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ได้ผลักดันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยกำหนดมาตรฐาน EV แล้วเสร็จ 150 มาตรฐาน อยู่ระหว่างกำหนดมาตรฐานเพิ่มเติมอีก 29 มาตรฐาน รวมไปถึงการลงทุนในส่วนของแบตเตอรี่และการจัดการซากแบตเตอรี่ การปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อปเพื่อเพิ่มพลังงานสะอาด การพัฒนาระบบการรายงานด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อลดการปล่อยมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม สั่งยกระดับนิคมอุตสาหกรรม Circular เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ร่วมปรับผังเมืองใหม่ให้สอดรับกับการขยายตัวของเมืองที่เปลี่ยนไปเพื่อรองรับการลงทุนทั้งจากภายในและนอกประเทศ รวมทั้งผลักดันอุตสาหกรรมฮาลาล
เร่งตั้งกรมหรือองค์การมหาชนมาดูแลสินค้าผลิตภัณฑ์ฮาลาล
...
อย่างไรก็ตาม ยังมีบางกระทรวงที่แทบไม่มีผลงานมาโชว์ มีทั้งกระทรวงที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของพรรคเพื่อไทย และของพรรคร่วมรัฐบาลบรรดา รัฐมนตรีโลกลืม เหล่านี้ ถ้านายกฯไม่ลงไปไล่บี้ขันนอตถี่ๆ ก็คงเอื่อยเฉื่อยไม่ปั๊มเนื้องานออกมาดึงดูดนักลงทุน
วันที่ 26 มี.ค.นี้จะมีการแถลงภาพรวมการติดต่อขอรับการส่งเสริมการลงทุนในไทย จะได้ไขข้อสงสัยเสียทีว่า 6 เดือนที่เดอะเซลส์แมนไปโรดโชว์ไทยแลนด์นั้น ประสบความสำเร็จแค่ไหน มีลูกค้ารายไหนบ้างที่สนใจมาลงทุน คุณเศรษฐาจะเป็นนักขายมือทอง หรือเป็นเซลส์แมนไร้ยอด
ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวที่นายกฯเศรษฐาให้ความใส่ใจเป็นพิเศษนั้น ถือว่าทำได้ตามเป้าหมายระยะสั้น เป็นเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ช่วงไฮซีซันที่ผ่านมานักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยเยอะขึ้น และกระแสแรงต่อเนื่องไปถึงสงกรานต์
เมื่อวันศุกร์ที่แล้วก็มีการจัด เวิร์กช็อป หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว Tourism Hub ระดับโลก การเวิร์กช็อปแบ่งเป็น 5 กลุ่มได้แก่ 1.Must do in Thailand (สิ่งที่ต้องทำในไทย) 2.เมืองหลักชูเมืองรอง 3.การจัดงานระดับโลก World Class Event 4.การเชื่อมโยงอาเซียน 5.การสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว
นอกเหนือจากการโฆษณาประชาสัมพันธ์แล้ว ปัจจัยสำคัญอีกอย่างที่ไม่ควรละเลยคือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกตามสถานที่ท่องเที่ยว ขอให้ยึดหลัก“สะอาด สะดวก ปลอดภัย” เพื่อสร้างความมั่นใจและประทับใจนักท่องเที่ยว.
ลมกรด
คลิกอ่านคอลัมน์ "หมายเหตุประเทศไทย" เพิ่มเติม