สิ้นสุด 17 ปีที่รอคอย “ทักษิณ” ควง “อิ๊งค์” ไหว้ศาลหลักเมืองเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนบินกลับเชียงใหม่บ้านเกิด กุมมือลูกสาวตลอดทาง คนเสื้อแดงรอรับอบอุ่น โชว์มาดอดีตผู้นำซีอีโอดูการบริหารจัดการน้ำ พระผู้ใหญ่ให้พรอยู่กับบ้านเมืองไปชั่วชีวิต ไม่ต้องไปไหนแล้ว เจ้าตัวแจงอาการป่วยดีขึ้นตามลำดับ “พิธา” ขยับโปรแกรมลงเชียงใหม่บ้าง “เศรษฐา” ถกบิ๊กซีอีโอเยอรมนี พบ 2 ค่ายใหญ่ “Benz-BMW” จับเข่าคุยนายกฯเยอรมนี ก่อนรับปากหนุนไทยเข้าร่วม OECD โวมาครั้งนี้ประสบความสำเร็จสุด รอรับ ปธ.ไมโครซอฟท์ที่ไทย โต้กลับเสียงวิจารณ์ไปทั่วโลกแต่ไม่มีผลงาน ชี้ลงทุนเป็นแสนล้านต้องใช้เวลาคิด ขออย่าด้อยค่าประเทศตัวเอง คาดมีโอกาสได้พบ “นายใหญ่” อดีต กปปส.แซะฟื้นคืนระบอบทักษิณ

17 ปีที่รอคอย ในที่สุดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และครอบครัว ก็ได้เดินทางกลับ จ.เชียงใหม่ หลังไม่ได้กลับบ้านเกิดมานานถึง 17 ปี ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากครอบครัว นักการเมืองใหญ่ ข้าราชการระดับบิ๊ก รวมไปถึงกลุ่มคนเสื้อแดง

“ทักษิณ–อิ๊งค์” ไหว้ศาลหลักเมือง

เมื่อเวลา 05.19 น. วันที่ 14 มี.ค. ที่ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายก รัฐมนตรี พร้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายปิฎก สุขสวัสดิ์ บุตรสาวและบุตรเขยเข้าสักการะศาลหลักเมือง ทั้งนี้นายทักษิณใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีน้ำเงิน สีมงคลประจำวัน สวมแมสก์สีขาวและเฝือกอ่อนที่คอ เดินเข้าทางประตูศาลหลักเมืองฝั่งถนนหลักเมือง ข้างกระทรวงกลาโหม ก่อนหน้านี้ มีเจ้าหน้าที่พิธีการของศาลหลักเมือง มาจัดเตรียมชุดบวงสรวงชุดใหญ่รอไว้ตั้งแต่เวลา 04.00 น. ประกอบด้วย หัวหมู เป็ด ไก่ ปลานึ่ง กุ้งเผา ปูนึ่ง ของหวานมงคล ผลไม้มงคล 9 อย่าง ชุดบายสี เครื่องหมากพลู บุหรี่ ไข่ต้ม และพวงมาลัยดอกดาวเรือง จากนั้นสักการะหอพระพุทธรูปประจำศาลหลักเมือง ศาลหลักเมืองจำลอง และองค์พระหลักเมืองตามลำดับ หลังใช้เวลาสักการะ 26 นาที ก่อนเดินทางกลับนายทักษิณหันมายกมือรับไหว้ทักทายสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวเป็นจำนวนมาก ก่อนขึ้นรถเดินทางไปยังอาคารผู้โดยสารอากาศยานส่วนบุคคล ท่าอากาศยานดอนเมือง เดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่

...

กุมมือลูกสาวชมสวนราชพฤกษ์

ต่อมาเวลา 09.28 น. นายทักษิณพร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร นายปิฎก สุขสวัสดิ์ และหลานสาว เดินทางถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ มี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. มารอต้อนรับ จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถยนต์เลกซัสสีดำ ทะเบียน ขย 111 กรุงเทพมหานคร เข้าชมโครงการพืชสวนโลก ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อ.เมืองเชียงใหม่ ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่นายทักษิณผลักดันสมัยเป็นนายกฯ ก่อนถูกรัฐประหารปี 2549 มีนายภูดิท อินสุวรรณ์ อดีต สส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย นำพระพุทธรูปพุทธบารมี วัดทับคล้อ หน้าตัก 9 นิ้ว มามอบให้ ขณะที่นายทักษิณได้กล่าวทักทายคนเสื้อแดงที่มาต้อนรับอย่างเป็นกันเอง เป็นที่น่าสังเกตว่านายทักษิณมีสีหน้าสดใส สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าคราม กางเกงยีนส์ รองเท้าลำลอง แต่ยังคงสวมเฝือกอ่อนที่คออยู่ และเดินกุมมือ น.ส.แพทองธาร อยู่ตลอดเวลา ผู้สื่อข่าวถามว่ามาเชียงใหม่ครั้งนี้เปลี่ยนแปลงไปเยอะหรือไม่ นายทักษิณตอบเพียงสั้นๆว่า “เหมือนเดิม”

“ธรรมนัส–2 ปลัด” ดอดมารอรับ

สำหรับคณะที่เดินทางมาร่วมกับนายทักษิณ ประกอบด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มารอต้อนรับด้วย ตลอดทางมีพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

เสื้อแดงปักหลักรอที่วัดโรงธรรมฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้กลุ่มคนเสื้อแดงนัดรวมตัวให้กำลังใจนายทักษิณ ที่วัดโรงธรรม สามัคคี อ.สันกำแพง ในวันที่ 15 มี.ค. ทำให้บริเวณพืชสวนโลกมีกลุ่มคนเสื้อแดงมากันประปราย โดยเป็นคนเสื้อแดงจากจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ มาชูป้ายสีแดงรูปนายทักษิณ พร้อมข้อความนายกฯในดวงใจ และใส่เสื้อที่มีรูป น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับนายทักษิณ รวมทั้งยังมีการถือกระเป๋าผ้าสกรีนรูปนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง พร้อมลายเซ็น ด้านนางสำเนียง คงพลปาน ตัวแทนกลุ่มเสื้อแดง กล่าวว่า มาให้กำลังใจนายทักษิณ นายกฯในดวงใจ เป็นที่รักและเป็นนายกฯที่ดีที่สุด มีผลงานชัดเจน ประเทศชาติประชาชนมีกินมีอยู่ทุกคน สัมผัสได้ชัดเจน วันที่ 15 มี.ค. จะไปรวมตัวที่วัดโรงธรรมสามัคคี

โชว์มาดผู้นำซีอีโอดูบริหารจัดการน้ำ

ทั้งนี้นายทักษิณและครอบครัวพักรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านช้างม่อยกาแฟ มีนางบัวไหล เต็มดี อายุ 91 ปี ที่มานั่งรอรับ นางบัวไหลเคยเคลื่อนไหวในนามกลุ่มคนเสื้อแดงรักเชียงใหม่ 51 และลูกสาวนางบัวไหลยังเป็นเพื่อนสมัยเรียนกับนายทักษิณ ทันทีที่นายทักษิณเดินทางมาถึงได้เข้าไปทักทายและสวมกอดนางบัวไหล ขณะที่นางบัวไหลถึงกับร้องไห้ด้วยความดีใจ และอวยพรให้นายทักษิณมีสุขภาพดี หายจากอาการป่วยโดยเร็วเสร็จแล้วเดินทางมาที่อ่างเก็บน้ำหนองเขียว ห้วยหยวก ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ใกล้ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ มีนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย มาร่วมคณะเพิ่มเติม นายทักษิณรับฟังบรรยายสรุปโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำหนองเขียว ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บูรณะปรับปรุงให้เป็นแลนด์มาร์กและสถานที่ออกกำลังกายแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยนายทักษิณให้ความสนใจโครงการดังกล่าว พยายามสอบถามการบริหารจัดการน้ำ การผันน้ำเพื่อลดผลกระทบน้ำท่วม น้ำแล้ง ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าเป็นโครงการที่อยากผลักดันใช่หรือไม่ นายทักษิณตอบอย่างมีความสุขว่า เป็นโครงการที่ทางจังหวัดทำไว้ และตนมาดู

พระผู้ใหญ่ให้พรอยู่กับบ้านเมือง

จากนั้นนายทักษิณเข้ากราบนมัสการพระเทพมังคลาจารย์ (สมาน) ฉายา กิตฺติโสภโณ วัดท่าตอน พระอารามหลวง ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ พระเทพมังคลาจารย์ได้มอบลูกประคำไม้หอมกฤษณา และสมเด็จวัดปากน้ำปี 2535 คล้องคอ รวมทั้งได้มอบกำไลประคำสีฟ้าให้ น.ส.แพทองธาร โดยนายทักษิณถวายปัจจัยจำนวน 10,000 บาท เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่สวดให้พรพร้อมกล่าวว่า คาถาที่มอบให้เป็นคาถาฮักเน้อ คนฮักคนชอบ และอวยพรว่าขอให้อยู่กับบ้านกับเมืองไปชั่วชีวิต ไม่ต้องไปไหนแล้วประเทศนี้ ก่อนที่นายทักษิณและครอบครัว จะร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลากว่า 30,000 ตัว ประกอบด้วยปลาบึก 15 ตัว ปลาแรด 12 ตัว และปลากาดำ ปลากะโห้ ปลาแก้มช้ำ และปลาจาด เป็นต้น มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ร่วมปล่อยพันธุ์ปลาด้วย นอกจากนี้นายทักษิณและ น.ส.แพทองธาร ยังร่วมกันปลูกต้นรวงผึ้งด้วย

แจงอาการป่วยดีขึ้นตามลำดับ

ต่อมาเวลา 13.20 น. นายทักษิณเดินทางมายังหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สา ต.แม่สา อ.แม่ริม ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำ มี ร.อ.ธรรมนัส อธิบดีกรมชลประธาน และ ผวจ.เชียงใหม่ คอยอธิบายรายละเอียด ขณะที่นายทักษิณแนะนำเรื่องการนำน้ำต้นทุนมาบริหารและแจกจ่ายให้ประชาชนอย่างทั่วถึง อยากให้ปลูกต้นไม้ให้เขียวขจีมากกว่านี้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องอาการป่วย แต่นายทักษิณตอบเพียงสั้นๆว่า “อาการดีขึ้นตามลำดับ” ทั้งนี้มีกลุ่มชาวบ้านมาดักรอพบ และเข้ามาจับมือแสดงความดีใจที่ได้เจอ ซึ่งนายทักษิณได้สอบถามชาวบ้านว่าเดินทางมาจากไหน กลุ่มชาวบ้านตอบกลับว่า “มาจากน้ำตกแม่สา ห่างจากจุดนี้ประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อมารอเจอ” ขณะที่ น.ส.แพทองธารที่ยืนประคองนายทักษิณ พยายามบอกชาวบ้านที่พยายามจะเข้ามาสวมกอดและจับมือว่า “ให้ระวังแขน อย่าดึงแขน เพราะคุณพ่อยังเจ็บแขนอยู่” ชาวบ้านจึงกล่าวให้นายทักษิณสุขภาพแข็งแรง

คนเชียงใหม่ยินดีกลับบ้านเกิด

กระทั่งเวลา 14.10 น. นายทักษิณเดินต่อมายังคลองแม่ข่า ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวใหม่กลางเมืองเชียงใหม่ มีนายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และประชาชนมารอต้อนรับ ซึ่งนายทักษิณกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง ขณะที่ชาวบ้านพากันกล่าว “ยินดีที่ได้กลับบ้านเรา” จากนั้นนายทักษิณเดินไปยังบริเวณสะพาน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของถนนคนเดินคลองแม่ข่า โดย น.ส.แพทองธารอธิบายถึงบริเวณดังกล่าวว่าเป็นโอตารุเมืองไทย ที่จะมีนักท่องเที่ยวมาเดินเล่นในช่วงเย็น ซึ่งนายทักษิณสอบถามเกี่ยวกับการบริหารจัดการและการขุดลอกคลองกับ ร.อ.ธรรมนัส ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามถึงวัตถุประสงค์การลงพื้นที่ดูโครงการต่างๆ นายทักษิณกล่าวว่า “เพราะเป็นโครงการพิเศษ”

มื้อดินเนอร์สุดอร่อยกับคนใกล้ชิด

ช่วงเย็นที่ภัตตาคารเจี่ยท้งเฮง ฟ้าฮ่าม จ.เชียงใหม่ ร้านอาหารจีนเก่าแก่ชื่อดัง นายทักษิณพร้อม น.ส.แพทองธาร และคนในครอบครัวชินวัตรบางส่วน รวมถึงเพื่อนร่วมรุ่น 08 โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จำนวน 38 คน นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮดิ้งส์ จำกัด นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่ารมว. เกษตรและสหกรณ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และนักการเมืองท้องถิ่น ร่วมรับประทานอาหารเย็น ขณะที่นายทักษิณได้ทักทายสื่อมวลชนที่เคยติดตามทำข่าวอย่างเป็นกันเอง พร้อมกล่าวย้ำถึงอาการป่วยว่า “ดีขึ้นเยอะ เหลืออีกนิดหนึ่ง” โดยตัวแทนเพื่อนจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยมอบช่อดอกไม้กุหลาบสีแดง และร้องเพลงมาร์ชมงฟอร์ต ทำให้นายทักษิณดีใจปรบมือเป็นระยะ ก่อนเข้าไปสวมกอดตบไหล่ขอบคุณกลุ่มเพื่อนๆ สำหรับเมนูอาหาร ประกอบด้วย ออเดิร์ฟร้อน แฮกึ๊นทอด เห็ด หูหนูผัดไข่ หอยทรายผัดพริกสด ปวยเล้งผัดน้ำมันหอย เป็ดพะโล้ ขาหมูหมั่นโถ ปลากะพงต้มเผือก ต้มจืดเต้าหู้ผักกาดขาว ข้าวผัดปู

นายถาวร เสนเนียม
นายถาวร เสนเนียม

กปปส.แซะระบอบทักษิณคืนชีพ

ด้านนายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส. กล่าวว่า ตอนนี้ระบอบทักษิณฟื้นกลับมาแล้ว ควรถอดบทเรียนอย่าให้เรื่องส่อทุจริตหวนกลับมาอีก ทั้งเชิงนโยบายและทางกฎหมาย ทุจริตจนประชาชนทนไม่ได้ออกมาเดินขบวนไล่ มีฝ่ายตรงข้ามมายิง จากนั้นทหารปฏิวัติเป็นวงจรอุบาทว์ ขณะนี้องค์กรระหว่างประเทศชี้ว่าระดับการทุจริตของประเทศไทยอยู่ในขั้นวิกฤติ กรณีนายทักษิณถูกพิพากษาจำคุก 8 ปี กลับมาขอพระราชทานลดโทษเหลือ 1 ปี แต่นายทักษิณไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว ประชาชนจับตามองและเจ็บปวด การดูถูกจิตใจประชาชน คนทั่วไปไม่เชื่อว่าป่วย ไม่ติดคุกอย่าคิดว่ารู้สึกสบายๆ ไปเดินห้าง ไปภัตตาคาร ที่สาธารณะ ได้ยินคำว่า “ทักษิณออกไป รัฐบาลออกไป” ถ้ามีคำนี้จุดประกายขึ้นมาความขัดแย้งจะเกิดขึ้นอีก

ขู่อย่าซ้ำรอยนิรโทษสุดซอยให้ “ปู”

เมื่อถามว่ามองบทบาทของนายทักษิณจากนี้จะเป็นอย่างไร นายถาวรตอบว่า อย่าย่ำยีประชาชนแบบซ้ำซาก นายทักษิณไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งในรัฐบาลด้วยนิตินัย เพราะพฤตินัยสะท้อนมาแล้ว “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” คือโครงการรับจำนำข้าว และแน่นอนนายทักษิณมีอิทธิพลต่อรัฐบาลนายเศรษฐา เพราะเป็นเจ้าของพรรค มีเสียงข้างมาก 141 เสียง เขาไม่บอกหรอกว่าเขาสั่ง เขาขอ แต่ศึกษาเชิงลึกใครจ่าย คนนั้นมีอิทธิพลแน่นอน ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยากให้กลับมา แต่ถ้ากลับมาแบบเท่ๆ สวยๆ ประชาชนมีหัวใจมีความรู้สึก ปัญหาจะยิ่งทวีคูณขึ้นอีก ติดคุกต้องติด หรือจะนิรโทษกรรมก็แล้วแต่ว่าใครจะยกมือให้ แต่นิรโทษสุดซอย เมื่อวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.2556 มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นมาแล้ว ทุกอย่างหยุดชะงัก เกิดจากแค่ออกกฎหมายฉบับเดียว

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

“พิธา” ขยับโปรแกรมลงเชียงใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่า ช่วงสุดสัปดาห์วันที่ 16-17 มี.ค.นี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล มีกำหนดการเดินทางไป อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ร่วมภารกิจดับไฟป่า แก้ฝุ่นควันพิษ กับทีมงานพรรค ก.ก.ภาคเหนือ กำหนดการนี้มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม จากที่จะเดินทางไป จ.เชียงราย ดูภารกิจเกี่ยวกับดับไฟป่า แก้ฝุ่นควันพิษ แต่จากการตรวจสอบในพื้นที่ ได้รับแจ้งว่า พื้นที่จะลงไปนั้น ไฟได้มอดไปแล้ว จึงเปลี่ยนแผนไปที่ จ.เชียงใหม่แทน เป็นที่น่าสังเกตว่า ช่วงเวลาดังกล่าวตรงกับที่นายทักษิณ และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ลงพื้นที่พอดี

“เศรษฐา” ถกบิ๊กซีอีโอเยอรมนี

เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 13 มี.ค. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี ช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ยังอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และกิจกรรมคู่ขนาน พบหารือเอกชนชั้นนำของเยอรมนีต่อเนื่อง อาทิ ผู้บริหารบริษัท Schaeffler AG ผู้นำผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมหนักและยานยนต์ ในแบรนด์ FAG และ INA ที่กำลังพิจารณาขยายการลงทุนในไทย เน้นการลงทุน EV พบผู้บริหารบริษัท Draxlmaier บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเชี่ยวชาญนวัตกรรมระบบไฟฟ้าที่ทันสมัยและการตกแต่งภายใน โดย Draxlmaier มีบริษัทในเครือตั้งอยู่ในไทย ในนามบริษัท ดีทีเอส แดร็คเซิลไมเออร์ ออโทโมทีฟ ซีสเท็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด และพบผู้บริหารบริษัท Mahle GmbH ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ระบบเครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่อพ่วงเครื่องยนต์ชั้นนำเยอรมนี มีแผนขยายกิจการในเครือทั้ง 5 บริษัทในไทย รวมถึงขยายการลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนา มูลค่ารวม 3,039 ล้านบาท มากกว่ามูลค่าการลงทุนเดิมถึงร้อยละ 31

คุยสองค่ายใหญ่ “Benz-BMW”

จากนั้นนายกฯพบหารือผู้บริหารบริษัท Mercedes Benz ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยานยนต์พรีเมียมเยอรมนี มีบริษัทแม่ คือ Daimler AG ผลิตทั้งรถยนต์ รถบัส มอเตอร์ไซค์ และรถบรรทุก โดยชื่นชมนโยบายการสนับสนุนรถ EV ของไทย และพร้อมผลิตรถไฟฟ้ารุ่น EQS ผลิต battery ในไทย พร้อมดำเนินธุรกิจในไทยแบบระยะยาว ด้านนายกฯกล่าวชื่นชมบริษัทที่ถ่ายทอดเทคโนโลยี know-how กับ partner ในไทย และพบผู้บริหารบริษัท BMW AG ผู้ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ระดับพรีเมียมชั้นนำของโลก เครือบริษัท BMW Group ประกอบด้วยรถยนต์แบรนด์ต่างๆ อาทิ BMW, MINI และ Rolls-Royce มีการหารือนโยบาย EV ของไทย สอดคล้องแนวทาง BMW ผลิตรถไฟฟ้าในไทย โดย BMW เชื่อมั่นศักยภาพไทย

เชิญนายกฯเยอรมนีมาเยือนไทย

ต่อมาเวลา 18.00 น.ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีเยอรมนี นายเศรษฐาและนายโอลาฟ ชอล์ซ นายกรัฐมนตรีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศเต็มรูปแบบ จากนั้นทั้งสองฝ่ายร่วมหารือ four eyes การแถลงข่าวร่วมและการหารือระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำ นายเศรษฐากล่าวถึงความสัมพันธ์ไทยและเยอรมนีก้าวเข้าสู่บทใหม่ว่า ในฐานะไทยเป็นหุ้นส่วนที่เป็นประชาธิปไตย มั่นคง คาดเดาได้ และเป็นพันธมิตรกับเยอรมนีในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ขอบคุณเยอรมนีที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมเชิญนายกฯเยอรมนีเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และเสนอให้ยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ซึ่งจะมีการหารือรายละเอียดความร่วมมือต่อไป ภายใต้กลไกคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจไทย-เยอรมนี พร้อมขอรับการสนับสนุนจากเยอรมนีในการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป ซึ่งนายกฯเยอรมนียินดีสนับสนุน

รับปากหนุนไทยเข้าร่วม OECD

ด้านนายกฯเยอรมนีกล่าวว่า เยอรมนีให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อพัฒนาความร่วมมือ ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ น่ายินดีที่การค้าทวิภาคีระหว่างไทยและเยอรมนีเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 เยอรมนียินดีพิจารณาสนับสนุนไทยเข้าร่วมองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป โดยนายเศรษฐากล่าวในตอนท้ายของการหารือว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในไทยในโอกาสอันใกล้ ขอบคุณและหวังว่าจะได้ต้อนรับนายกฯเยอรมนีเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสต่อไปและเป็นพันธมิตรกับเยอรมนีในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ขอบคุณเยอรมนีที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมเชิญนายกฯเยอรมนีเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และเสนอให้ยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ซึ่งจะมีการหารือรายละเอียดความร่วมมือต่อไป ภายใต้กลไกคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจไทย-เยอรมนี พร้อมขอรับการสนับสนุนจากเยอรมนีในการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป ซึ่งนายกฯเยอรมนียินดีสนับสนุน

รับปากหนุนไทยเข้าร่วม OECD

ด้านนายกฯเยอรมนีกล่าวว่า เยอรมนีให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อพัฒนาความร่วมมือ ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ น่ายินดีที่การค้าทวิภาคีระหว่างไทยและเยอรมนีเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 เยอรมนียินดีพิจารณาสนับสนุนไทยเข้าร่วมองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป โดยนายเศรษฐากล่าวในตอนท้ายของการหารือว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในไทยในโอกาสอันใกล้ ขอบคุณและหวังว่าจะได้ต้อนรับนายกฯเยอรมนีเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสต่อไป

โวทริปนี้ประสบความสำเร็จสุด

ต่อมาเวลา 13.35 น. วันที่ 14 มี.ค.ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทยว่า การเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ และการเยือนเยอรมนี-ฝรั่งเศส จุดประสงค์หลักเพื่อสร้างความ เชื่อมั่นด้านยุทธศาสตร์ และการร่วมมือกับทุกประเทศ ปี 2568 จะเป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทย ยกระดับศิลปวัฒนธรรมไทย อาหาร และแฟชั่น จะมีมิชลินไกด์ระดับโลกมาแสดงสินค้าที่เมืองไทย ปารีสแฟชั่นโชว์ เริ่มต้นพูดคุยที่จะจัดฟอร์มูล่าอีที่ไทย นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส จะผลักดัน FTA หรือเขตการค้าเสรีเป็นหลัก ยกเว้นวีซ่าเชงเก้น ได้พบปะ 32 เอกชน อย่างที่เบอร์ลินพบปะภาคเอกชน 7 ราย เชื่อว่าการเดินทางครั้งนี้ประสบความสำเร็จที่สุด เมื่อถามว่าการจัดแข่งฟอร์มูล่าอี กับฟอร์มูล่าวัน สิ่งไหนจะเกิดก่อนกัน นายกฯตอบว่าฟอร์มูล่าอีเกิดขึ้นก่อนแน่นอน ฟอร์มูล่าวันจะเกิดขึ้นเร็วสุดในปี 2027

รอต้อนรับประธานไมโครซอฟท์

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเสียงวิจารณ์การเดินทางไปต่างประเทศของนายกฯ ยังไม่มีผลงานที่ชัดเจน นายเศรษฐาตอบว่าได้ยินมาตลอดที่ดำรงตำแหน่ง แต่การลงทุนในระดับแสนล้านไม่ได้ใช้เวลาตัดสินใจภายใน 2-3 เดือน บางเรื่องเป็นการต่อยอดจากรัฐบาลที่ผ่านมาในโครงการที่ดีๆ ไม่ใช่เป็นเรื่องของตนเพียงคนเดียว ข้าราชการกระทรวงต่างๆมีส่วนร่วมทำงานมาตลอด ทีมงานเตรียมการบ้านไว้เยอะมาก ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆจะบินเข้าไปเจอได้เลย ไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนการลงทุนของ data center จากบริษัท เช่น google หรือ microsoft บริษัทเหล่านี้ลงทุนเป็นแสนล้าน หรือ Tesla ที่ต้องการเข้ามาลงทุน จำเป็นต้องศึกษาสภาพแวดล้อม เรื่องของที่ดิน ต้องให้เวลาตรงนี้ ทุกอย่างต้องใช้เวลาที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ จากนี้ต่อไปเชื่อว่าจะทยอยเห็นผลงานมากขึ้น วันที่ 21 มี.ค. ประธานไมโครซอฟท์จะมาเยือนที่ทำเนียบรัฐบาล และมีหลายบริษัทระดับโลกที่มีการตกลงกันแล้ว แต่ขอเก็บไว้ก่อน

ขออย่าด้อยค่าประเทศตัวเอง

นายเศรษฐากล่าวว่า การอยู่ในตำแหน่งนี้ต้องพิสูจน์ตัวเองเรื่อยๆ การทำงานใหญ่ให้คนมาลงทุนเป็นล้านๆ ไม่ใช่แค่ตนเพียงคนเดียว จะชอบหรือไม่ชอบตน แต่ขออย่าด้อยค่าศักยภาพประเทศไทย ส่วนตัวไม่รู้สึกอะไรกับเสียงวิจารณ์ แต่เป็นห่วงข้าราชการที่ทำงานหนัก ไม่อยากให้เขารู้สึกท้อถอยกับเสียงติฉิน นินทาเหล่านี้ ส่วนเรื่องผ้าขาวม้าไม่ได้หาซื้อมาเพื่อเป็นผู้นำแฟชั่นจ๋า แต่เป็นผ้าขาวม้าของพี่น้องประชาชนนำมามอบให้ ผูกเอวให้ด้วยความรัก อยากช่วยตอบสนองเขาด้วยการนำผลิตภัณฑ์ดีๆ ไปให้ชาวโลกได้เห็นว่าเรามีผลิตภัณฑ์แบบนี้เหมือนกัน และต่างชาติสนใจ แต่ต้องใช้เวลา ตนพยายามเชื้อเชิญบริษัทแฟชั่นจากฝรั่งเศสให้มาดู ว่าสามารถประสานความร่วมมือตรงไหนได้บ้าง มีข่าวดีในความร่วมมือของบริษัทไทยและฝรั่งเศสจะจัดงานร่วมกัน

นายเศรษฐายังทวีตข้อความผ่าน Xว่า รัฐบาลจะประกาศวาระแห่งชาติ ผลักดันให้ปี 2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวของไทย Tourism Hub พร้อมผลักดันโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญไปควบคู่กัน เช่น สนามบิน รถไฟความเร็วสูง และโครงการแลนด์บริดจ์ ยกระดับศิลปวัฒนธรรมไทย อาหารไทย วงการแฟชั่นไทยให้เป็นที่ยอมรับของโลก ร่วมมือกับสมาพันธ์ระดับโลกผ่านการใช้วัตถุดิบไทยที่มีคุณภาพ เช่น ผ้าคราม เตรียมพร้อมรับอีเวนต์ระดับโลก เช่น F1, Michelin World Food Expo, Paris Fashion Show สร้างโอกาสให้ประเทศและคนไทย ทั้งหมดนี้เกิดจากความมุ่งมั่น ตั้งใจ มาทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน

นายกฯยินดีคนแห่รับ “ทักษิณ”

นายเศรษฐายังกล่าวถึงกรณีมีประชาชนไปต้อนรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ จ.เชียงใหม่จำนวนมากว่า เข้าใจท่าน มองว่าเป็นธรรมดา เป็น นายกฯมาตั้งกี่ปี ไม่ได้กลับบ้านมา 17 ปี รู้สึกยินดีด้วยที่ได้กลับไปบ้านเกิดเมืองนอน และยินดีด้วยที่มีประชาชนอยากมาพบเจอท่าน ที่ผ่านมาเคยพูดทุกเวทีว่านายทักษิณ เป็นนายกฯ ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดคนหนึ่ง นำพาประเทศไทยไปสู่ความเจริญได้ระดับหนึ่ง และได้เข้าสู่กระบวนการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เมื่อออกมาแล้วก็อยากกลับบ้านเกิด สำหรับภารกิจการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 15 มี.ค. จัดมาก่อนจะทราบว่านายทักษิณจะไปเชียงใหม่ ย้ำว่าเป็นเรื่องธรรมดา จ.เชียงใหม่เป็นบ้านเกิดท่าน และอดีตนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็อยู่ที่นั่น จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีของครอบครัวที่จะใช้เวลาที่เสียไป 17 ปี มาอยู่กับครอบครัว

หน.พรรคร่วมอยากไปพบทุกคน

เมื่อถามว่าการลงพื้นที่ของนายทักษิณ จะช่วยเรียกคะแนนนิยมให้พรรคเพื่อไทยด้วยหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่ทราบ แต่เชื่อว่ามีแฟนคลับพรรคเพื่อไทยไปด้วย นายทักษิณมีความผูกพันกับนักการเมืองทุกพรรคเพราะเป็นคนนิสัยใจคอโอบอ้อมอารี เชื่อว่าทุกพรรค และหัวหน้าพรรค ที่อยู่ในรัฐบาล มีความปรารถนาดีกับท่านทุกคน และอยากไปเยี่ยมเยียน ไม่มีอะไรเสียหาย ทุกรอยยิ้มที่เกิดขึ้นกับทุกอีเวนต์ในไทย เชื่อว่าจะทำให้สังคมเราแข็งแกร่งขึ้น เมื่อถามย้ำว่านายทักษิณออกมาเดินคู่ขนานกับนายกฯเป็นการเสริมศักยภาพรัฐบาลและปูทางอนาคตให้พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐาตอบว่า คงเป็นนัยด้านการเมือง แต่ไม่ติดขัดอะไรที่จะได้รับคำปรึกษาจากอดีตนายกฯหลายๆคน ทั้งนายอานันท์ ปันยารชุน นายสมชาย และนายทักษิณ แต่ละคนมีความรู้ความสามารถดีทั้งนั้น

คงมีโอกาสได้พบกันที่เชียงใหม่

เมื่อถามว่าลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ครั้งนี้ มีโอกาสพบกับนายทักษิณหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า คิดว่าคงมีโอกาส แต่ยังไม่ได้นัดหมาย ภารกิจของตนยังแน่น วันที่ 15 มี.ค.จะบินไปเชียงใหม่ตอนเย็น ไม่ได้นัดหมายเป็นกิจลักษณะ ได้ดูบรรยากาศวันนี้รู้สึกอบอุ่นดี ส่วนรัฐมนตรีและข้าราชการที่ไปต้อนรับ อย่างที่บอกว่านายทักษิณจากประเทศไทยไปเป็น 10 ปี ไม่ได้กลับบ้านเกิดมานาน ต้องเข้าใจว่าท่านเป็นนายกฯมายาวนาน มีพรรคพวกเพื่อนฝูงทางการเมืองเยอะ ถ้าไปด้วยความรักความปรารถนาดีก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้คิดอะไร เมื่อถามย้ำถึงความเหมาะสมที่มีข้าราชการไปรับในเวลาราชการ อาจถูกข้อครหาได้ นายเศรษฐาตอบว่า ต้องดูความเหมาะสมด้วย ไม่ได้ดูตารางว่านายทักษิณไปไหนบ้าง ใครจะไปต้องดูให้เหมาะสมให้ถูกต้องแค่นั้นเอง

ยังไม่ได้รับรายงานดิจิทัลวอลเล็ต

นายเศรษฐากล่าวถึงความคืบหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต หลังครบ 30 วัน ที่ให้คณะกรรมการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ตไปพิจารณาแนวทางของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอมายังรัฐบาลว่า ยังไม่ได้รับรายงาน ขอกลับไปสอบถามข้างในก่อน เมื่อถามว่าจะแถลงผลงานรอบ 6 เดือนวันไหน นายเศรษฐาตอบว่า แจ้งไปแล้วว่าเขียนผิด ไม่ใช่ฝ่ายค้านซักฟอกเต็มที่ เชื่อมั่นรัฐบาลพร้อมไม่ต้องตั้งทีมองครักษ์ ถ้าไม่เกินเลยขอบเขตการอภิปราย ไม่แตะต้องคนข้างนอกไม่มีปัญหา

ขอศาลเมตตาให้ประกันม็อบอดข้าว

อีกเรื่องที่สำนักประธานศาลฎีกา ถนนราชินี นายดาวดิน ชาวหินฟ้า หรือสมณะดาวดิน อดีตนักบวชสำนักสันติอโศก นำพระภิกษุ 2 รูป พร้อมมวลชนกลุ่มเคลื่อนไหวต้านมาตรา 112 อีก 10 คน เดินทางมายื่นหนังสือเปิดผนึกถึงประธานศาลฎีกา เรียกร้องให้คืนสิทธิการประกันตัวให้ผู้ต้องหากลุ่มทะลุวัง ที่อดอาหารประท้วงในเรือนจำ ประกอบด้วย น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง และนายมงคล ถิระโคตร หรือบัสบาส ให้ เหตุผลว่าสภาพร่างกายผู้อดอาหารทรุดโทรมอาจถึงแก่ชีวิตในไม่ช้า ความล่าช้าใดๆ มีความเสี่ยงสูงที่นำไปสู่ความสูญเสียอย่างไม่ควรจะเกิดขึ้น เพื่อรักษาไว้ซึ่งเมตตาธรรมอันเป็นธรรมขั้นพื้นฐานในคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ใคร่ขอโปรดพิจารณาให้สิทธิปล่อยชั่วคราวแก่นักกิจกรรมทั้งสี่ รวมถึงผู้ที่ยังถูกจองจำจากเหตุที่ถูกปฏิเสธการได้รับสิทธิในการปล่อยชั่วคราวจากศาล ด้วยเมตตาธรรมอันมีอยู่ในใจของผู้พิพากษาทุกท่าน ขณะเดียวกัน น.ส.ทานตะวันที่ถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ รังสิต เขียนจดหมายออกมาเผยแพร่ล่าสุด 13 มี.ค. ยืนยันจะอดอาหารต่อไป

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่