“อิ๊งค์” แย้มอาการป่วย “ทักษิณ” หลังได้พักโทษดีขึ้น อยากกลับเชียงใหม่บ้านเกิดไหว้บรรพบุรุษ รอจัดคิว สส.พท.เข้าพบ “นายใหญ่” เผยครอบครัวรีบโทร.ยินดี “อาปู” หลังรู้ผลศาลฎีกายกฟ้องคดีโรดโชว์ บอกอยากกลับมาช่วยเลี้ยงหลาน “ภูมิธรรม” ออกตัวปัญหา “ยิ่งลักษณ์” เบาสุด อวยแฟนคลับตั้งตารอแล้ว ลั่นไม่ผิดต้องคืนความยุติธรรม “ธนาธร” ย้ำจุดยืนต้องเท่าเทียม-เสมอภาค สว.หน้าเก่ารีบโดดขวางพักโทษ แซะ “ศรีธนญชัย” หาทางลอดช่อง “เศรษฐา” คิวไม่ว่างถกทวิภาคีผู้นำมาเลเซีย-ลาว-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ และ 6 บริษัทยักษ์ออสซีมาลงทุนเพิ่ม ก.ก.ตอก “บิ๊กป้อม” หนีสภาสง่างามหรือ

หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีโรดโชว์สร้างอนาคตประเทศ ไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ แกนนำพรรคเพื่อไทย รีบออกมาหยั่งกระแสคืนความยุติธรรม ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้กลับประเทศไทย

“อิ๊งค์” แย้มพ่ออยากกลับบ้านเกิด

เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 5 มี.ค. ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังได้รับการพักโทษว่า คุณพ่ออาการดีขึ้น มีความสุข ทางครอบครัวทยอยพาหลานๆไปพบ เมื่อถามว่านายทักษิณมีกำหนดการเดินทางไปไหนหรือยัง น.ส.แพทองธารตอบว่า ยังไม่มีแพลนที่ชัดเจน เพียงแต่พูดเฉยๆว่าอยากไปไหนบ้าง ส่วนที่มีข่าวว่าจะไป จ.เชียงใหม่ ช่วงกลางเดือน มี.ค. ยังไม่ได้ยืนยัน เพียงแต่พูดว่าอยากไปบ้านเกิดนานแล้ว ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยว่าจะลงพื้นที่ในรูปแบบใด เพียงแต่พูดว่าอยากไปไหว้บรรพบุรุษ ระหว่างที่นายทักษิณอยู่ต่างประเทศ พี่สาวได้เสียชีวิต ยังไม่เคยได้ไปไหว้ พูดไว้แต่ยังไม่กำหนดเวลา เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ได้รับประทานอาหารกับ สส.พท. ก็บอกว่าอยากให้พบนายในลำดับต้นๆอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นที่พรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ยังไม่กำหนดสถานที่

...

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

“อาปู” อยากกลับมาเลี้ยงหลาน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีโรดโชว์ไทยแลนด์ มีการพูดคุยกันแล้วหรือยัง น.ส.แพทองธารตอบว่า พูดคุยกันทันที พูดคุยกันแบบคนในครอบครัว น.ส.ยิ่งลักษณ์บอกว่า หากได้กลับจริงๆจะช่วยเลี้ยงหลาน ก็ตอบไปว่าได้เลย แต่กังวลว่าของเล่นที่คุณยายปูซื้อให้หลานจะเยอะเท่านั้น เวลาไปหาคุณยายปูซื้อของให้เยอะมาก เวลากลับมาหลานก็จะมีความสุข เราพูดกันแค่นี้ไม่มีอะไรจริงจัง “อิ๊งค์ดีใจและสงสาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ต้องเสียเวลาไป รวมถึงสงสารประเทศไทยที่ต้องเสียโอกาส ไม่เช่นนั้นคงมีอะไรดีขึ้นมาก หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ” เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีกำหนดการกลับประเทศแล้วหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า เห็นแหล่งข่าวหลายที่บอกว่ามีแพลนกลับบ้านแล้ว แต่ยืนยันว่ายังไม่มี บางที่ระบุวันที่ ก็ยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยเรื่องวันที่ แต่เราพูดถึงความหวังกันทุกปี “บ้านเราต้องมีความหวัง ตั้งแต่สมัยคุณพ่อ 17 ปีที่อยู่เมืองนอก ก็พูดทุกปีว่าจะกลับบ้าน เช่นเดียวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เราต้องให้ความหวังซึ่งกันและกัน”

ยังไม่มีแพลนแนวทางกลับไทย

เมื่อถามว่านักวิชาการวิเคราะห์ว่าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับไทย จะใช้โมเดลเดียวกับนายทักษิณ น.ส.แพทองธารตอบว่า “ยังไม่มีการพูดคุยกันในรายละเอียด และเป็นคนละคนกัน คงเหมือนกันไม่ได้” เมื่อถามย้ำว่าทีมทนายได้ดูแนวทางเอาไว้บ้างหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ตอนนี้ยังไม่มี ไม่มั่นใจว่าเรื่องต่างๆเคลียร์หมดแล้วหรือยัง แต่หวังว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะได้กลับบ้าน เพราะถึงอย่างไรก็ไม่สบายเหมือนอยู่บ้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคนที่ดูรายละเอียดอยู่แล้ว แต่ไม่ได้พูดอะไรเลย เมื่อถามว่าหลังทราบผลคดีโรดโชว์ นายทักษิณได้คุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์แล้วหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ทุกคนก็แสดงความยินดีในเรื่องของคดี แต่ไม่มีการแพลนอะไรทั้งสิ้น

“อ้วน” ชี้ปัญหา “ยิ่งลักษณ์” เบาสุด

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีมติเอกฉันท์ยกฟ้องในคดีโรดโชว์ เรื่องนี้พิสูจน์ได้ว่ามีกระบวนการจัดการที่ถูกต้อง ต้องให้กำลังใจและให้โอกาสกับคนทำงาน เมื่อถามว่าเมื่อคดีจบแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์สามารถเดินทางกลับไทยได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่สามารถตอบแทนได้ว่าอยากกลับมาหรือไม่ หรือยังประสงค์อยู่ต่างประเทศ เนื่องจากบุตรชายกำลังศึกษาอยู่ที่อังกฤษ แล้วแต่ท่าน คิดว่าปัญหาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เบาที่สุด อาทิ โครงการรับจำนำข้าว ยังต้องรอการพิสูจน์อีกหลายอย่าง มองว่าไม่ใช่เป็นการทุจริตแต่โดนมาตรา 157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เรื่องนี้พูดยาก และได้รับการตัดสินจากศาลบางส่วนไปแล้วว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร เรื่องเหล่านี้ต้องให้กำลังใจคนทำงาน ไม่เช่นนั้นคนจะไม่กล้าทำอะไรเลย

รีบอวยแฟนคลับตั้งตารอให้กลับ

นายภูมิธรรมกล่าวว่า “ขอให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และอยากให้กลับประเทศ ถ้ากลับมาได้จะเป็นเรื่องดี เพราะแฟนคลับประชาชนที่เคยเห็นผลงานก็อยากให้กลับมาโดยเร็ว ตนเองก็รอต้อนรับท่านเต็มที่เหมือนกัน ในฐานะอดีตนายกฯเป็นที่เคารพรักของทุกคน และเป็นที่รักของผมด้วย” นายภูมิธรรมกล่าว เมื่อถามว่า ต้องเตรียมชี้แจงกับประชาชนอีกกลุ่มที่อาจมีข้อสงสัยว่าจะใช้วิธีเดียวกับนายทักษิณ นายภูมิธรรมตอบว่า จะมาแบบไหนไม่มีใครทราบ เพราะเป็นเรื่องของคดี จะเอา น.ส.ยิ่งลักษณ์มาเปรียบเทียบกับกรณีนายทักษิณไม่ได้ คนละคดีกัน กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์หลายคดีจบไปแล้ว จะจัดการอย่างไรยังเป็นปัญหา คดีแพ่งจบไปแล้ว แต่บ้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกยึดไปแล้ว จะทำอย่างไร ต้องเข้าใจประเด็นนี้ ต้องคืนความเป็นธรรมให้กับท่าน

ลั่นไม่ผิดต้องคืนความยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่อดีตนายกฯทั้ง 2 คนกลับมาอยู่ในไทย จะส่งผลดีต่อสถานการณ์การเมืองอย่างไร นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่น่าเกี่ยวกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องการคืนความเป็นธรรม ถ้าคนไม่ผิดเราจะมาตั้งเงื่อนไขทางการเมืองก็ไม่ถูก อยู่ดีๆจะมาบอกห้ามอย่างนั้นอย่างนี้ มันเป็นสิทธิพลเมือง ที่ผ่านมามีการเรียกร้องให้พิสูจน์ท่านก็พิสูจน์แล้ว เมื่อคดีจบไม่มีความผิดอะไร เป็นเรื่องของความเข้าใจผิด แล้วจะไม่ให้โอกาสท่านได้กลับประเทศ แล้วมาตั้งคำถามว่ากลับมาแล้วจะมีผลทางการเมืองได้อย่างไร มันไม่ใช่จุดเริ่มต้นที่ถูกต้อง ต้องเริ่มต้นที่ว่าท่านได้รับความยุติธรรมหรือไม่ ผิดจริงหรือไม่ เมื่อท่านไม่ผิด ไม่ได้รับความยุติธรรมก็ต้องคืนความยุติธรรมให้ท่าน ตั้งคำถามแบบนี้แย่เหมือนกัน อคติมากไปหน่อยหรือไม่ แบบนี้คนคงอยู่ประเทศนี้ยากแล้ว

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

“ธนาธร” ขอเท่าเทียม-เสมอภาค

ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ อาจกลับไทยตามรอยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า ต้องเรียนว่าไม่ได้ตามข่าวการเมืองรายวัน แต่ถ้าพูดถึงจุดยืนสำหรับเรื่องนี้ คงมี 2 ประการ คือ ประการแรก ถ้าเราเชื่อว่าทุกคนในประเทศไทยเท่าเทียมกัน ควรได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาคกัน พูดถึงเรื่องนี้ก็นึกถึงนักต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิ เรียกร้องประชาธิปไตย ที่ไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว ยังอยู่ในคุก ขอเรียกร้องไปยังฝ่ายผู้มีอำนาจและรัฐบาลว่า การจะทำให้ประเทศอยู่ด้วยกันอย่างร่มเย็น สงบสุข ความเป็นธรรมต้องมี ความเสมอภาค และการบังคับใช้กฎหมายต้องเท่าเทียมกันทั้งหมด ประการที่สอง ต้องกลับมายืนยันอีกครั้งว่าการทำรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 ที่กระทำต่อนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และกระบวนการที่นำไปสู่การเอาผิด ด้วยกระบวนการที่ไม่ถูกต้อง ต้องยึดความเป็นธรรม และต้องยืนยันในหลักการตรงนี้ด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อถามว่าแสดงว่าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเดินตามรอยนายทักษิณ ก็เป็นสิทธิที่สามารถกลับเข้าสู่กระบวนการปกติได้ใช่หรือไม่ นายธนาธรตอบว่า ไม่รู้ว่าทั้งนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับมาด้วยเหตุผลอะไร มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร

สว.หน้าเก่ารีบโดดขวางพักโทษ

นายสมชาย แสวงการ สว. กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังมีคดีที่ศาลตัดสินจำคุก 5 ปีอยู่ ในฐานะคนไทยสามารถกลับเข้าประเทศได้ตลอด แต่กลับเข้ามาแล้วต้องยอมมารับโทษติดคุก 5 ปีตามที่ศาลเคยตัดสินไว้คดีจำนำข้าว หากจะใช้เกณฑ์พักโทษเหมือนนายทักษิณ มีข้อสงสัยว่าถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์อายุไม่ถึง 60 ปี ไม่เข้าเกณฑ์พักโทษเหมือนนายทักษิณที่อายุ 70 ปี รวมถึงการพักโทษต้องเป็นโรคที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถ้าดูจากการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ต่างประเทศ ยังคงแข็งแรง วันก่อนไปชิมอาหารอยู่สิงคโปร์ ร่าเริง ไม่เข้าเงื่อนไขขอพักโทษ ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับไทยต้องเข้ารับโทษในเรือนจำ คนไทยเห็นแล้วว่าระบบยุติธรรม กรมราชทัณฑ์มีปัญหา ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับประเทศไปอยู่ชั้น 14 โดยอ้างว่าป่วยเพื่อรอพักโทษ วิกฤติศรัทธากระบวนการยุติธรรมจะยิ่งมาก หากเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เข้าไปอยู่ในเรือนจำจะกี่วันก็ตามแล้วขอพระราชทานอภัยโทษ สังคมรับได้ แต่ถ้ามาแบบวิธีเหาะเหินเดินอากาศ กระบวนการยุติธรรมจะวิกฤติซ้ำ

แซะ “ศรีธนญชัย” หาทางลอดช่อง

เมื่อถามว่าคิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับหรือไม่ นายสมชายตอบว่า ไม่รู้ แต่มีคนพยายามสร้างเงื่อนไขศรีธนญชัยทางกฎหมาย ปัญหาไม่ได้อยู่ที่กฎหมาย แต่อยู่ที่การเลือกใช้วิธีลอดช่องกฎหมาย วันข้างหน้าคนที่เอื้ออำนวยน่าจะได้รับผลทางกฎหมาย เมื่อวันที่ 4 มี.ค. กมธ.สิทธิมนุษยชนและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เชิญตัวแทนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้แจงถึงการตรวจสอบกรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ คิดว่าเรื่องนี้จะมีผลในวันหน้าต่อการประพฤติปฏิบัติมิชอบของฝ่ายข้าราชการ เป็นบทเรียนให้ข้าราชการ เพราะคนที่ได้รับประโยชน์ได้กลับประเทศ คงไม่มารับผิดชอบข้าราชการประจำ ต่อให้ข้าราชการเกษียณอายุไปแล้ว ก็หนีอาญาไม่ได้ ถ้ามีข้อมูลเพียงพอ ข้อเท็จจริงไม่เปลี่ยน มีคดีที่ข้าราชการติดคุกแทนนักการเมืองมากมาย ที่ชัดเจนคือกระทรวงพาณิชย์ในคดีจำนำข้าว ทั้งข้าราชการ กระทรวงการคลัง กรมสรรพสามิต ใครอยากได้ตำแหน่งแล้วไปอาสาทำ ถึงจะรับความชอบในวันนี้แต่รับความผิดในวันหน้า

“ทวี” ยันยังไม่มียื่นขออภัยโทษ

ที่โรงแรมทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น ถนนแจ้งวัฒนะ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า ยังไม่มีการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษรายบุคคล การขออภัยโทษรายบุคคลสามารถดำเนินการได้โดยตรง แต่ส่วนใหญ่ต้องส่งเรื่องมาที่กระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่ายังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าว หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเดินทางกลับประเทศไทย และประสงค์ขอพระราชทานอภัยโทษรายบุคคล สามารถยื่นเรื่องโดยตรงกับกระทรวงยุติธรรมได้ แต่ในกรณีอื่นๆ กรมราชทัณฑ์ต้องส่งเรื่องมาให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณา สำหรับความคืบหน้าการจัดทำระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง หรือระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ ล่าสุดได้รับรายงานว่าคณะทำงานยังดูในรายละเอียดให้ครบถ้วนรอบด้าน ว่าจะมีผู้ต้องขังรายคดีใดบ้างที่มีเกณฑ์ได้รับการพิจารณา อาจใช้เวลาสักระยะเพื่อจัดทำระเบียบให้เหมาะสมกับผู้ต้องราชทัณฑ์ทุกราย ยังยืนยันว่าระเบียบดังกล่าวที่ประกาศลงนาม ไม่ได้มีไว้เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง

ผู้นำไทย-มาเลย์ถกความร่วมมือ

เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 5 มี.ค. (ตามเวลาท้องถิ่นนครเมลเบิร์น เร็วกว่าไทย 4 ชั่วโมง) ที่โรงแรม The Langham นครเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ (2024 ASEAN-Australia Special Summit) ฉลองวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ ระหว่างวันที่ 4-6 มี.ค. ทั้งนี้ นายเศรษฐาหารือทวิภาคีดาโต๊ะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เสนอแนวคิดส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยง 6 ประเทศ พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดราคาค่าบัตรโดยสารเครื่องบินที่มีราคาสูง ในโอกาสนี้ไทยและมาเลเซียพร้อมอำนวยความสะดวกการผ่านแดน ให้เกิดเป็นผลรูปธรรมชัดเจน ฝ่ายมาเลเซียยินดีสนับสนุนการลงทุนความมั่นคงด้านอาหาร และอาหารฮาลาลของไทย หารือเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในโอกาสนี้ทางมาเลเซียหยิบยกประเด็นเรื่องยางพาราขึ้นหารือ ขณะที่นายเศรษฐาแนะนำมาเลเซียเกี่ยวกับกิจกรรม ITB ที่เบอร์ลิน ถือเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่สำคัญ รวมทั้ง MIPIM 2024 ที่เมืองคานส์ เวทีสำคัญของโลกด้านโครงสร้างพื้นฐานและอสังหา ริมทรัพย์ เป็นโอกาสสำคัญให้ไทยนำเสนอโครงการแลนด์บริดจ์

ทอดน่องโชว์แฟชั่นมิกซ์&แมตช์

หลังนายเศรษฐาหารือกับนายกฯมาเลเซียเสร็จ ได้พักเบรกเดินเล่นบริเวณหลังโรงแรมที่พักใกล้กับสะพาน Evan Walker เลียบแม่น้ำ Yarra โดยใส่ชุดสูทสากล สวมผ้าพันคอซึ่งเป็นผ้าขาวม้าสีเหลือง-ดำ ที่ชาวบ้าน จ.กาฬสินธุ์ มอบให้ระหว่างลงพื้นที่ พร้อมโพสต์ภาพและข้อความระบุว่า “มีเวลาพักเบรกช่วงสั้นๆ ก่อนพบผู้นำหลายประเทศ เลยพาทีมงานออกมาเดินยืดเส้นยืดสายนิดหน่อย ที่เมลเบิร์นประมาณ 15 องศา เลยหยิบเอาผ้าขาวม้าที่ได้มาจากพี่น้อง จ.กาฬสินธุ์ มาเป็นผ้าพันคอ สีสวยเข้ากับสูทพอดี ส่วนถุงเท้าน่ารักมาก ลายโคอาล่า พล.อ.เดวิด เฮอร์ลีย์ ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลียมอบให้ตอนไปเยือนไทย ตั้งใจใส่มาเยือนออสเตรเลีย”

2 บ.ยักษ์ใหญ่ออสเตรเลียสนลงทุน

จากนั้นเวลา 10.00 น. นายเศรษฐาพบหารือกับบริษัทเอกชนออสเตรเลีย ได้แก่ นายแอนดรูว์ ฟอร์เรสต์ AO, Executive Chairman and Founder ผู้บริหาร Fortescue บริษัทเหมืองแร่ใหญ่ของออสเตรเลีย ปัจจุบันเป็นบริษัทถลุงสินแร่เหล็กอันดับ 4 ของโลก ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ และแบตเตอรี่อีวี แสดงความสนใจเข้ามาลงทุนอุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่ไฮโดรเจน และไฮโดรเจนสีเขียวในไทย จากนั้นพบหารือ นายปีเตอร์ ฟอกซ์ AM, Executive Chairman ผู้บริหาร Linfox ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์อัจฉริยะออสเตรเลีย มีสำนักงานและศูนย์ควบคุมสำหรับภูมิภาคในไทย มีการลงทุนมาตั้งแต่ปี 1993 จำนวน 12 แห่ง เพื่อให้บริการกระจายสินค้าไปยังร้านค้าปลีกและร้านอาหารมากกว่า 4,000 ร้าน มีพนักงานกว่า 6,000 คน และบริษัท subcontract กว่า 3,000 แห่ง นายเศรษฐากล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีรถบรรทุกขนส่งสินค้าต่อวันกว่า 2,000 คัน มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยผู้ขับขี่ มีแผนจะตั้งศูนย์ regional traffic control fleet หรือคลังสินค้าควบคุมความเย็นในไทย นำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามา พร้อมการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ในโอกาสนี้ Linfox สนใจเข้าเป็นผู้ให้บริการใน cold storage facility หรือสิ่งอำนวยความสะดวกห้องเย็น ปัจจุบันบริษัทให้บริการแก่บริษัทต่างๆ ในไทย เช่น โลตัส กลุ่มบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ ใช้ไทยเป็นศูนย์กลางครอบคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ฉลอง 30 ปี สะพานไทย-ลาวแห่งที่ 1

ต่อมานายเศรษฐาพบหารือทวิภาคีนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว พร้อมกล่าวเชิญมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และยินดีที่ได้เริ่มโครงการแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน ไทยพร้อมสนับสนุนและผลักดันแนวคิดส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยง 6 ประเทศ (Six Countries, One Destination) สนับสนุนแคมเปญ “ปีแห่งการท่องเที่ยวลาว (Visit Laos Year 2024)” และขอ สปป.ลาวเร่งรัดกำหนดที่ตั้ง Common Control Area (CCA) หรือพื้นที่ควบคุมร่วมกันในฝั่ง สปป.ลาว เพื่อลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายผู้ประกอบการทั้ง 2 ฝ่าย ในการนำเข้าและส่งออกสินค้า โดยไทยเห็นควรให้ตั้งที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) เป็นที่แรก และตามที่ สปป.ลาวมีคำขอ ไทยยินดีสนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการซ่อมสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย-เวียงจันทน์) พร้อมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี ในวันที่ 21 เม.ย.นี้

หารือทวิภาคีนายกฯออสเตรเลีย

นอกจากนี้ นายเศรษฐายังพบหารือทวิภาคีกับนายแอนโทนี แอลบาเนซี นายกฯออสเตรเลีย พร้อมเชิญเยือนไทยอย่างเป็นทางการภายในปีนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องส่งเสริมการค้าทวิภาคี โดยเฉพาะการจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (Thailand-Australia Free Trade Agreement : TAFTA) ที่เติบโตมากถึงร้อยละ 186 ปรับปรุงความตกลงให้ทันสมัยสอดคล้องบริบทปัจจุบันมากขึ้น นายเศรษฐาเน้นย้ำไทยมีจุดเด่นเป็นศูนย์กลางความมั่นคงด้านอาหาร ผลิตภัณฑ์การแพทย์ และการส่งเสริมสุขภาพ โครงการแลนด์บริดจ์ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ไทยให้ความสนใจส่งเสริมการลงทุนและเรียนรู้แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดจากออสเตรเลีย รวมถึงด้านการท่องเที่ยวและการศึกษา พร้อมจัดทำเอ็มโอยูร่วมกัน โดยเสนอให้ส่งเสริมเที่ยวบินตรงมากขึ้น เพิ่มจำนวนโควตา Work and Holiday Visa ไทย-ออสเตรเลีย รวมถึงแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี และพัฒนาบุคลากรทางการทหาร การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศต่อต้านการค้ามนุษย์ ออสเตรเลียเป็นตัวอย่างที่ดีการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

ชวนนายกฯนิวซีแลนด์เยือนไทย

ที่โรงแรม Langham Melbourne นายเศรษฐาหารือทวิภาคีกับนายคริสโตเฟอร์ ลักซอน นายกฯนิวซีแลนด์ ทั้ง 2 ฝ่ายชื่นชมความสัมพันธ์อันยาวนานถึง 68 ปี นายเศรษฐากล่าวว่า ไทยเป็นหนึ่งในประเทศพันธมิตรเก่าแก่ที่สุดของนิวซีแลนด์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หวังอย่างยิ่งทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันอย่างแข็งขัน ผลักดันความสัมพันธ์และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ทราบว่านายกฯนิวซีแลนด์ตั้งใจจะมาเยือนไทย เป็นโอกาสอันดีของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อผลักดันความร่วมมือในสาขาต่างๆที่มีศักยภาพร่วมกัน ขณะที่นายกฯนิวซีแลนด์สนใจมาเยือนไทย พร้อมนำคณะนักธุรกิจในภาคการเกษตร การศึกษาพลังงานสีเขียวมาด้วยในช่วงเดือน เม.ย.

ดึง 4 บริษัทยักษ์เพิ่มลงทุนในไทย

ทั้งนี้ นายเศรษฐายังพบหารือกับเอกชนรายใหญ่ออสเตรเลีย 3 บริษัท ได้แก่ Redflow ผู้ผลิตระบบกักเก็บพลังงาน ด้านเทคโนโลยีสังกะสี-โบรมีนมีฐานผลิตในออสเตรเลียและไทย มีแผนลงทุนเพิ่มเติมในไทย พบผู้บริหาร ANCA Mr. Martin Ripple, CEO, ANCA Group ผู้นำด้านการผลิตเครื่องขึ้นรูป CNC (CNC Grinding Machine) และระบบเครื่องจักรที่ควบคุมโดยอัตโนมัติ ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ รถยนต์ ยา ฯลฯ มีโรงงานผลิต 2 แห่ง คือออสเตรเลียและไทย ที่ต้องการขยายฐานการผลิตเครื่องจักร แต่ติดขัด FTA ของไทยที่ยังไม่ครอบคลุม นายกฯจึงให้ รมว.ต่างประเทศ และผู้แทนการค้าไทยเร่งรัดเจรจาข้อตกลงการค้ากับประเทศต่างๆ เช่น EU และยังพบผู้บริหาร NextDC Mr.Craig Scroggie, CEO และ Managing Director ผู้นำอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูล (Data Center) ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในออสเตรเลีย บริษัท NextDC ที่ตั้งในไทย มีบริษัท Microsoft Amazon และ NVIDIA เป็นลูกค้าหลัก อยากขยายการลงทุนสร้าง Data Center ใน กทม. ต่อมา Dianne Sandoval ผู้บริหาร Hesta กองทุนบำเน็จบำนาญผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพเข้าพบนายกฯ พร้อมชักชวนเพิ่มลงทุนร่วมกับบริษัทไทย Hesta สนใจลงทุนด้าน Green transformation Health care และสนใจพลังงานสะอาด และการเกษตรสมัยใหม่

ร่วมพิธีต้อนรับ “สโมกกิงเซเรโมนี”

กระทั่งเวลา 15.48 น. นายเศรษฐาเข้าร่วมพิธีต้อนรับผู้นําประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างเป็นทางการ ในการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ ฉลองวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ นายกฯได้ทวีตข้อความผ่าน X ว่า ชมพิธีสโมกกิงเซเรโมนี (Smoking Ceremony) หรือพิธีควัน พิธีต้อนรับโดยชนพื้นเมืองวูรุนเจรี เฟิสต์ เนชันส์ เอลเดิร์ส (Wurundjeri Firs Nations Elders) ผู้อาวุโสของชนพื้นเมืองจะเผาใบสมุนไพรในภาชนะและปัดควันเข้าตัวผู้นำแต่ละคน ทั้งนี้ ตั้งใจมาดึงดูดให้ออสเตรเลียเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น มีส่วนร่วมมากขึ้นในการพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาคและไทย โดยเฉพาะการเชื่อมโยงการค้า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนสีเขียว โดยเฉพาะโครงการแลนด์บริดจ์ และการพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า จากนั้นร่วมงานเลี้ยงต้อนรับเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นําประเทศสมาชิกอาเซียน ที่ห้อง The Great Hall ณ National Gallery of Victoria

ปลื้มมาเลย์สั่งซื้อยางพาราไทย

นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า มีโอกาสหารือทวิภาคีผู้นำประเทศต่างๆ พบผู้บริหารบริษัทชั้นนำของออสเตรเลีย กับนายกฯมาเลเซียได้พูดคุยกันถึงการเปิดพื้นที่ชายแดนส่งเสริมเศรษฐกิจ และการเดินทางไปมาหาสู่ดียิ่งขึ้น ส่งเสริมความร่วมมือเชื่อมโยง 6 ประเทศ พูดคุยเรื่องตั๋วเครื่องบินที่มีราคาแพงเป็นอุปสรรค ความร่วมมืออาหารฮาลาล และเรื่องยางพาราที่มาเลเซียต้องการนำเข้าจำนวนมาก จึงประสานให้กระทรวงพาณิชย์ติดต่อขายยางให้มาเลเซีย ถือเป็นข่าวดี ขณะนี้ราคาค่อนข้างสูง เพราะในสต๊อกมีน้อย ยังได้พูดคุยเรื่องฟุตบอลที่หลานของท่านเชียร์ทีมอาเซนอล ล่าสุดแฮปปี้เพราะชนะ 6-0 คงมีโอกาสได้เตะฟุตบอลกับหลานท่าน สำหรับถุงเท้าลาย “โคอาลา” ที่ใส่ พล.อ.เดวิด เฮอร์ลีย์ ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย มอบเป็นของขวัญ 2 คู่ ช่วงที่มาเยือนไทย อีกหนึ่งคู่เป็นลายกิ้งก่าและจิงโจ้ วันที่ 6 มี.ค.จะดูชุดที่ใส่ว่าเหมาะกับถุงเท้าอีกลายหรือไม่

ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล

ก.ก.ลั่นไม่ซักฟอกไร้สาระให้ รบ.ดูดี

อีกเรื่องที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ไม่อยากทำเนื้อหาสาระเหมือนการเมืองยุคก่อนๆที่ต้องเปิดทุกปี ที่นักการเมืองสมัยเก่าหลายคนออกมาวิจารณ์ตนว่าทำตัวเกี้ยเซียะกับรัฐบาล ไม่ยอมอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือถ้าเปิดแล้วพูดเรื่องส่วนตัวรัฐมนตรี คงไม่ทำ ต้องมีเนื้อหาสาระที่จับต้องได้ ไม่ใช่แค่เปิดอภิปรายตามสิทธิแล้วไร้สาระ นั่นแหละเกี้ยเซียะของจริง ทำให้รัฐบาลดูดีขึ้นมาทันที ย้ำว่าสามารถเปิดอภิปรายแบบไม่ลงมติได้ และมีโอกาสมากกว่าการเปิดอภิปรายแบบลงมติแน่นอน เมื่อถามถึงข้อมูลใหม่ๆที่ไม่เคยเปิดมาก่อน นายปกรณ์วุฒิตอบว่า มีเยอะ เราไล่เรียงเก็บข้อมูลกันอยู่ตลอด อาจยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ มี 40-50 เรื่องที่เก็บเอาไว้ ภายในสัปดาห์นี้ต้องเห็นความชัดเจน

ย้อนศร “บิ๊กป้อม” นี่รึความสง่างาม

นายปกรณ์วุฒิกล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่า หาก สส.พรรค ก.ก.อยากพบ ให้ไปหาที่บ้านว่า เราเป็น สส.ทำงานอยู่ที่สภาฯ ไม่อยากไปหาใครที่บ้าน และหากมองย้อนกลับไป พล.อ.ประวิตรระบุว่าลงสมัคร สส.เพื่อความสง่างาม ขอถามว่านี่หรือคือความสง่างาม พล.อ.ประวิตรระบุว่า ไม่มาสภาฯแล้วผิดตรงไหน เป็นคำตอบในตัวเองอยู่แล้ว ประชาชนพิจารณาได้ เป็น สส.ด้วยกันก็อยากเจอที่สภาฯ ไม่อยากเจอที่อื่น ส่วนปัญหา สส.พรรค พปชร.ยึดห้องหลังบัลลังก์ประธานสภาฯ ไม่ควรมีใครมีสิทธิพิเศษ ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ประธานสภาฯไม่ควรปล่อยให้เป็นแบบนี้

“ธนาธร” ชี้ ก.ก.ไม่เกี้ยเซียะ พท.

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เกี้ยเซียะพรรคเพื่อไทยไม่เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ไม่น่าจะมี เข้าใจพรรคก้าวไกล เพราะสมัยพรรคอนาคตใหม่ ตนเป็นหัวหน้าทีมทำข้อมูลเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องบอกว่า ถ้าเราอยากจะยกมาตรฐานการเมืองให้สูง ข้อมูลต้องมีคุณภาพ เนื้อหาหนักแน่น รัฐบาลทำงานได้ 6-7 เดือน การจัดงบภายใต้รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ยังไม่เห็นชัด ต้องให้ความเป็นธรรม และต้องเข้าใจพรรคก้าวไกลว่า ถ้านำข้อมูลที่ไม่หนักแน่นมาอภิปรายจะเป็นผลเสีย เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเครื่องมือสำคัญที่สุดในการตรวจสอบของฝ่ายค้าน หากทำพร่ำเพรื่อไม่มีข้อมูลเพียงพอ จะทำให้พรรคก้าวไกลไม่สง่างาม ไม่ใช่เรื่องเกี้ยเซียะอะไร แต่พรรคก้าวไกลต้องการทำธงไว้ในมาตรฐานงานสภาฯที่มีคุณภาพ

“ลุงป้อม” สั่งลุย พปชร.สัญจรใต้

ช่วงบ่ายที่พรรค พปชร. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมพรรค พปชร.ว่า ขอบคุณที่ทุกคนร่วมมือจัดกิจกรรม พปชร. สัญจรครั้งที่ 2 จ.หนองคาย จนประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะได้สานสัมพันธ์เข้าพบนายกฯ สปป.ลาว แก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ขอให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์กิจกรรมพิเศษเตรียมจัดสัญจรครั้งที่ 3 ในภาคใต้ ขอให้คงกิจกรรมที่สร้างประโยชน์ให้กับประชาชน วางนโยบายการช่วยเหลือลงมือปฏิบัติให้เกิดผลตกถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่