นายกฯเฮี้ยบสั่งอธิบดีกรมบัญชีกลาง ลงดาบตัดเกรดบริษัทผู้รับเหมา สางปัญหาก่อสร้างบนถนนพระราม 2 “สุริยะ” เรียกถกผู้รับเหมาก่อนลงพื้นที่ตรวจหน้างาน วางมาตรการคุมเข้มเป็นรายเดือนเริ่มทันที เม.ย. ไล่ตั้งแต่ขอความร่วมมือ ตักเตือน ตัดเกรดลดชั้น หากยังเอื่อยเฉื่อยลงโทษขั้นร้ายแรงบอกเลิกสัญญาส่งไม้ให้ “สำนักก่อสร้างสะพาน” ลุยงานต่อทันที การันตีปี 2568 ปิดตำนานก่อสร้าง 7 ชั่วโคตรได้แน่

ความสุขของประชาชนสองฝากถนนพระราม 2 และผู้สัญจรไปมาที่ทนทุกข์อยู่กับการก่อสร้างต่อเนื่องกันหลายโครงการมายาวนานจนกลายเป็นการก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร เริ่มมีความหวังขึ้นแล้ว เมื่อนายกรัฐมนตรีสั่งเร่งแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เมื่อเวลา 07.57 น. วันที่ 4 มี.ค.ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ก่อนเดินทางไปนครเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย ได้เรียกนางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง พูดคุยประมาณ 15 นาที ก่อนที่นายกฯเปิดเผยว่า เรียกเข้ามาพูดคุยเรื่องการตัดเกรดผู้รับเหมา อย่างที่บอกว่าจะมีการอัปเกรดขึ้นไปเรื่อยๆ หากผลงานไม่ดีจะไม่มีการให้เกรด ดังนั้น เกรดจะขึ้นได้ลงได้ ถือเป็นกระบวนการและขั้นตอนที่เราพิสูจน์สามารถควบคุมผู้รับเหมาให้ปฏิบัติตามสัญญาได้ ไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อน โดยเฉพาะถนนที่ไม่เสร็จตามเวลา เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างที่ต้องมีการแก้ไข

...

ต่อมานายกฯทวีตข้อความผ่าน Xว่า ปัญหาการก่อสร้างบริเวณถนนพระราม 2 ส่งผลกระทบกับประชาชนเป็นอย่างมาก เชิญทางอธิบดีกรมบัญชีกลาง มาเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา และหามาตรการลงโทษบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ เลื่อนเกรดให้กับบริษัทก่อสร้างที่ทำงานดีสำเร็จลุล่วงแล้ว บริษัทใดทำงานล่าช้าไม่ส่งงานตามกำหนด งานไม่ได้คุณภาพให้ตัดเกรดลงมา เป็นบทลงโทษจะทำให้เกิดความกระตือรือร้นรับผิดชอบ อธิบดีกรมบัญชีกลางรับไปเร่งหามาตรการ เพื่อนำไปสู่แนวทางปฏิบัติอย่างเร่งด่วนแล้ว

ช่วงสายวันเดียวกัน ที่กระทรวงคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนบริษัทผู้รับเหมา ก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ก่อนลงพื้นที่ตรวจสภาพการก่อสร้างที่ล่าช้าในช่วงบ่าย นายสุริยะเปิดเผยหลังการหารือว่า ตามที่เป็นข่าวโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ดำเนินงานมานานจนได้ชื่อว่าเป็นถนน 7 ชั่วโคตร ก่อสร้างบนถนนพระราม 2 เริ่มมาตั้งแต่ปี 2513 และขยายช่องจราจรมาอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง 2 สัญญาของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โครงการทางยกระดับทางหลวง (ทล.) 35 บางขุนเทียน-เอกชัย 8.3 กิโลเมตร (กม.) 3 สัญญา และโครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 เอกชัย-บ้านแพ้ว 16.3 กม. 10 สัญญา ภายใต้การดูแลของ ทล. ผู้รับเหมาส่วนใหญ่รับปากเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน มิ.ย.2568 มีเพียง 2 สัญญาในโครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 ตอน 4 จุดเริ่มต้นบริเวณ กม.25+734-กม.26+998 อ.เมืองสมุทรสาคร รวมระยะทาง 1.264 กม. และตอน 6 จุด เริ่มต้น กม.28+664-กม.29+772 ระยะทางรวมราว 1.108 กม.ที่จะแล้วเสร็จในช่วงเดือน ธ.ค.2568 เพราะ 2 สัญญานี้เป็นทางเชื่อมต่อ (แลมป์) ขึ้น-ลงต้องใช้เวลามากกว่า แต่ถือได้ว่าภายในปี 2568 จะปิดตำนานก่อสร้างบนถนนพระราม 2 คืนพื้นผิวการจราจรทั้งหมด งานก่อสร้างนี้จะเป็นเซตสุดท้าย ได้กำชับผู้รับเหมาในโครงการก่อสร้างทั้งหมดนี้ให้แล้วเสร็จภายในปี 2568

นายสุริยะกล่าวว่า กระทรวงได้มอบหมายให้ ทล.และ กทพ.เจ้าของโครงการ ตรวจติดตามความคืบหน้างานก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนรายเดือน หากพบล่าช้ามากกว่า 50% ให้ขอความร่วมมือผู้รับเหมาเร่งรัด ผู้รับเหมาทุกรายยินดีให้ความร่วมมือตรวจติดตามความคืบหน้า และประชุมร่วมกันในทุกๆ 2 เดือน หากผู้รับเหมารายใดไม่ให้ความร่วมมือจะใช้มาตรการพิจารณาปรับลดชั้น ขึ้นบัญชีดำเพื่อให้มีผลต่อการเข้าร่วมประมูลโครงการในอนาคต และที่ร้ายแรง คือการบอกเลิกสัญญา แต่หากผลงานดีจะปรับเพิ่มชั้นไปจนสู่การเป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษ โดยจะนำมาใช้คุมเข้มผู้รับเหมาได้ในเดือน เม.ย. เริ่มจากขอความร่วมมือ ตักเตือน ก่อนพิจารณาลดชั้นผู้รับเหมาที่ขึ้นบัญชีกับกรมบัญชีกลาง จากชั้นพิเศษลดลงเป็นชั้น 1 จะมีผลต่อการรับงานครั้งถัดไป หรือไปถึงขั้นการบอกเลิกสัญญา ยืนยันว่าการบอกเลิกสัญญาจะไม่กระทบต่องานก่อสร้างล่าช้าไปอีก เพราะปัจจุบัน ทล.มีหน่วยงานที่ชื่อว่า สำนักก่อสร้างสะพาน ที่มีความพร้อมเข้าไปดำเนินการก่อสร้างให้งานเดินหน้าต่อเนื่อง ส่วนมาตรการระยะเร่งด่วน ได้มอบให้ ทล. พิจารณาแผนขยายระยะเวลาก่อสร้างเพิ่มเติมโดยเฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ ในช่วงที่การจราจรน้อยกว่าปกติ และจะเบี่ยงการจราจร หรือสลับช่องจราจรให้ก่อสร้างได้ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน และการจราจรต้องไม่ติดขัด เป็นหลัก

ขณะที่นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รมว.คมนาคม ยังได้มอบหมายให้เร่งรัดการศึกษาโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายนครปฐม-ชะอำ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ให้แก่ประชาชน เชื่อมต่อจากมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่เปิดให้บริการแล้ว ตัดผ่านมาทางนครปฐม และปลายทางไปยังแหล่งท่องเที่ยว อ.ชะอำ ปัจจุบันโครงการมอเตอร์เวย์สายนครปฐม-ชะอำ อยู่ระหว่างศึกษาโครงการ และที่ผ่านมาพบว่า มีแนวเส้นทางที่อาจส่งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยของประชาชน กระทรวงได้มอบหมายให้ ทล.แบ่งระยะโครงการก่อสร้างออกเป็น 2 ส่วน เร่งดำเนินการช่วงที่สามารถทำได้ก่อน คือช่วงนครปฐม-วังมะนาว ส่วนช่วงวังมะนาว-ชะอำ ให้ศึกษาปรับเส้นทางลดผลกระทบประชาชน

ต่อมาเวลา 16.30 น. ที่ศูนย์บริหารจัดการจราจรและลดอุบัติเหตุ กรมทางหลวง อ.เมืองสมุทรสาครนายสุริยะ นายชยธรรม์ พร้อมด้วยนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นำคณะลงพื้นที่ตรวจโครงการก่อสร้างและติดตามการบริหารและการจัดการจราจรบนถนนพระราม 2 โดยมีนายผล ดำธรรม ผวจ.สมุทรสาคร นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม และนายศิรสิทธิ์ สงนุ้ย สส.สมุทรสาคร พรรคก้าวไกล และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยนายสุริยะกล่าวว่า ขอให้ ทล.พยายามดูแลในช่วงจราจรหนาแน่นให้หยุดก่อสร้าง ให้ก่อสร้างเฉพาะช่วงกลางคืน ช่วงเทศกาลก็ให้หยุด จากนั้นนายณัฐพงษ์กับนายศิรสิทธิ์ได้ยื่นหนังสือรวบรวมความคิดเห็นของประชาชนต่อการใช้ถนนพระราม 2 ให้กับนายสุริยะพิจารณา

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่