“ภูมิธรรม” สอน “พิธา” ก่อนวิจารณ์ต้องเข้าใจจริง ว่าเป็นที่ดินรูปจากหน่วยงานไหน แบบใด ดักทางอย่าพูดเอาใจประชาชนอย่างเดียว กวักมือเรียก อยากแก้ปัญหามาคุยกัน บอกเรียกแล้วถ้าไม่มาก็เรื่องของเขา
วันที่ 3 มี.ค. 67 เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุระหว่างลงพื้นที่ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ว่า การให้สิทธิในการเช่าที่ดินราชพัสดุหนองวัวซอ ไม่ใช่การให้กรรมสิทธิ์ ประชาชนไม่มีความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินว่า เรารับฟังแต่อยากเรียกว่า หากเป็นคนเข้ามาทำงานจริงๆ แล้ว รู้กฎระเบียบต่างๆ การแก้ไขปัญหาต่างๆ มีกระบวนการ ที่ดินของประชาชนมีหลายรูปแบบ การแก้ไขปัญหาต้องเริ่มที่ความเป็นจริง ทุกคนล้วนปรารถนาให้ประชาชนมีสิ่งที่ดีที่สุด แต่การจัดการปัญหาต้องเข้าใจความเป็นจริง การให้สิทธิต้องขึ้นอยู่กับพื้นที่ หากเป็น ส.ป.ก.จะเป็นรูปแบบหนึ่ง ที่ป่าสงวนฯ เป็นอีกแบบหนึ่ง ที่ราชพัสดุก็เป็นอีกแบบหนึ่ง การวิจารณ์โดยไม่คำนึงถึงเนื้อหา พูดเพื่อใช้ในทางการเมืองตนว่า ต้องหลีกเลี่ยง อยากให้มาคุยให้เกิดการแก้ไขปัญหาจริงๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความเห็นของนายพิธาเป็นเพราะความเข้าใจผิดหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่า เป็นความเข้าใจผิดหรือไม่ แต่อยากให้ฝ่ายค้านดูความเป็นจริง และช่วยกันแก้ไขปัญหาประเทศชาติดีกว่า นั่งพูดแล้วพยายามมองให้เป็นประเด็นการเมือง เมื่อถามย้ำว่า มองว่าเป็นการตีกินทางการเมืองหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า จะตีกินหรือไม่ ประชาชนเป็นคนตัดสิน แต่ต้องดูเจตนารมณ์ วันนี้ รัฐบาลพยายามทำให้ประชาชนอยู่ได้อย่างเหมาะสม หากจะมาบอกว่าแค่นี้ไม่ใช่สิทธิทำกินจริงๆ ไม่ได้ดูเลยว่า ปัญหาที่ดินของประเทศมีกี่ลักษณะ มีประเด็นอะไรบ้าง รัฐบาลต้องแก้ไขจากสภาพที่เป็นจริง ตนว่า นายพิธาต้องไปดูรายละเอียดอะไรต่างๆ ให้มากขึ้นก่อนวิจารณ์ อย่าหยุดเฉพาะเรื่องเดียวแล้วเอาใจพี่น้องประชาชนอย่างเดียว และก่อนจะวิจารณ์ควรไปดูว่า ที่ดินแต่ละส่วนมีความแตกต่างกันอย่างไร กฎหมายเอื้ออำนวยให้แค่ไหน เรามีกฎหมายอยู่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากกฎหมายที่มีอยู่ไม่เหมาะสมก็มาเสนอว่ากฎหมายนั้นมีข้อจำกัดอย่างไร รัฐบาลชัดเจน อะไรแก้ไขได้ก็แก้ไข อะไรที่ยังไม่ได้ก็หาทางออก
...
“อยากให้ดูในรายละเอียดแล้วค่อยมาคุยกัน ผมพร้อมนั่งคุยด้วยถ้าอยากคุย แต่ต้องคุยบนพื้นฐานที่ยอมรับความเป็นจริงก่อน เพราะมันหมดฤดูหาเสียงแล้ว หรือว่า อาจจะเริ่มต้นใหม่ จะหาเสียง อบจ.หรือเปล่า ก็ไม่รู้ แต่ผมว่า มาคุยกันดีกว่าว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร และนี่ผมเชิญแล้ว หากไม่มาคุยก็เป็นเรื่องของเขา ถ้าอยากมาคุยติดต่อมาได้ หากจะไม่มาก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา” นายภูมิธรรม กล่าว