คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรัฐมนตรีคลัง แถลงเช้าวันที่ 22 ก.พ. ประกาศวิสัยทัศน์ประเทศไทย 8 ข้อ “IGNITE THAILAND จุดพลังรวมใจไทยต้องเป็นหนึ่ง” ผ่านโทรทัศน์ไปทั่วประเทศ หวังนำประเทศไทยก้าวสู่อันดับ 1 ของภูมิภาค 8 วิสัยทัศน์ที่นายกฯ “เศรษฐา” ประกาศไปนั้น ผมเห็นด้วยทุกวิสัยทัศน์ ภาวนาขอให้ทำได้จริงๆ แต่ที่น่าเสียดายอย่างยิ่งก็คือ ใน 8 วิสัยทัศน์ ที่ นายกฯเศรษฐา ประกาศออกไปนั้น กลับไม่มีวิสัยทัศน์เรื่อง “การศึกษา” ซึ่งสำคัญที่สุดอยู่ด้วยเลย

อย่างไรก็ตาม นายกฯเศรษฐา ได้พูดถึงการศึกษาในช่วงปิดท้ายว่า “โอกาสทางการศึกษาที่จะต้องได้รับการพัฒนา โดยรัฐบาลจะเป็นผู้กำหนดมาตรฐาน เปิดช่องทางการเรียนรู้ใหม่ๆ สร้างกลไกที่เอื้อให้เอกชนมีส่วนร่วม ตั้งแต่การพัฒนา Content การทำ Play–based learning พร้อมทั้งผลักดันเด็กไทยอ่านภาษาอังกฤษ ต่อยอดภาษาต่างประเทศได้ด้วย”  นายกฯพูดถึงการศึกษาไทยแค่นี้จริงไปดูเอกสารได้

ผมอยากยกตัวอย่างคำไว้อาลัย นายลีกวนยู อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์จากเกาะเล็กๆ ที่ไม่มีทรัพยากรอะไรเลย กลายมาเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในภูมิภาค และเป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าที่สุดติดอันดับท็อป 10 ของโลกทุกปี รัฐมนตรีศึกษาสิงคโปร์ กล่าวในคำอาลัยว่า “แม้ว่าสิงคโปร์ในยุคก่อร่างสร้างตัว จะมีทรัพยากรที่จำกัด แต่ลีกวนยูให้ความสำคัญเป็นพิเศษในเรื่อง “การศึกษา” เพราะเชื่อว่าทรัพยากรที่ดีที่สุดของสิงคโปร์ก็คือ “คนสิงคโปร์””

เช่นเดียวกับ ประเทศไทย ถ้า “คนไทยยังเป็นอยู่อย่างนี้” และรัฐบาลไม่สนใจเรื่อง “การศึกษา” อย่างจริงจัง อนาคตประเทศไทยก็คงไม่มีทางแซงหน้าสิงคโปร์ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาค  รวมทั้ง วิสัยทัศน์ 8 ข้อ ที่ประกาศไปนั้น ก็อาจจะไปไม่ถึงฝั่งฝัน เช่นเดียวกับ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่กลายเป็นหนึ่งในอุปสรรคของประเทศไทย

...

ประเทศจีน ตอนที่ “มังกรร่างเล็ก” เติ้งเสี่ยวผิง ผู้นำสูงสุดจีนประกาศ “นโยบาย 4 ทันสมัย” ในปี 1978 1.อุตสาหกรรมทันสมัย  2.การเกษตรทันสมัย 3.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทันสมัย 4.การทหารทันสมัย เพื่อนำประเทศจีนก้าวไปอยู่แถวหน้าในเวทีโลก สิ่งแรกที่ มังกรเติ้ง ทำเลยก็คือ คัดนักเรียนจีนที่เรียนเก่งนับแสนๆคน ให้ทุนออกไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศทั่วโลก เพื่อนำความรู้ใหม่ๆ กลับมาพัฒนาประเทศจีน ตามนโยบาย 4 ทันสมัย มังกรเติ้งส่งนักเรียนจีนออกไปเรียนทุกปี  แม้จะไม่กลับมาบ้าง ก็ไม่เป็นไร เมื่อ “คนจีนรุ่นใหม่” ที่เต็มไปด้วยวิทยาการใหม่ กลับบ้านมาทำงานที่ประเทศจีนนับแสนนับล้านคน ก็สามารถสร้างประเทศจีนให้เป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกในเวลาอันสั้นเพียง 46 ปี นับจากวันประกาศนโยบาย 4 ทันสมัย

ล่าสุด เวียดนาม ประเทศเพื่อนบ้านไทยที่เคยล้าหลังไทยมาก เศรษฐกิจบ้านเมืองเสียหายจากสงคราม แต่วันนี้เวียดนามกลับแซงหน้าไทยหลายด้าน เช่น ข้าว เวียดนามก็ปลูกข้าวต่อไร่ได้มากกว่าชาวนา ไทยเกือบเท่าตัว แต่ชาวนาไทยยังปลูกได้เท่าเดิมและจนกว่าเดิม

ข้อมูลล่าสุดที่กล่าวขวัญกันในไลน์ช่วงนี้ เป็นข้อมูลจาก ยูเนสโก ระบุว่า ปี 2021 เวียดนามส่งนักเรียนออกไปเรียนต่อชั้นอุดมศึกษาในประเทศต่างๆ ถึง 137,022 คน มากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน จุดหมายปลายทางยอดฮิต 5 อันดับแรกคือ ญี่ปุ่น  44,128 คน เกาหลีใต้ 24,928 คน สหรัฐฯ 23,155 คน ออสเตรเลีย 14,111 คน แคนาดา 8,943 คน และชาวเวียดนามยังทยอยส่งไปเรียนไม่หยุดเช่นเดียวกับจีนตอนสร้างประเทศสู่ 4 ทันสมัย

อันดับ 2 อินโดนีเซีย 59,224 คน อันดับ 3 มาเลเซีย 48,810 คน อันดับ 4 ประเทศไทย 28,609 คน อันดับ 5 ฟิลิปปินส์ 26,219 คน อันดับ 6 สิงคโปร์  19,508 คน เทียบกับประชากร 5 ล้านคนของสิงคโปร์แล้วก็เป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมาก

อีกปีสองปี นักเรียนนอกเวียดนามหลายแสนคน จะทยอยกลับไปทำงานที่ประเทศเวียดนาม แล้วไทยจะสู้เวียดนามได้ไหม? เป็นคำถามที่ท้าทาย นายกฯเศรษฐา อย่างยิ่ง.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ "หมายเหตุประเทศไทย" เพิ่มเติม