นายกฯ สั่ง "พวงเพ็ชร" ประสาน กทม.ลุยงาน ย้ำ นักท่องเที่ยวต้องประทับใจตั้งแต่ก้าวแรก เห็นด้วย ทำงานที่บ้าน (Work From Home) แก้ PM 2.5 ขอบคุณ ผู้บริหาร กทม.ทำงานเข้มแข็ง โยน "สุริยะ" แถลงเรื่องรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

เมื่อเวลา 08.50 น. ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง เป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าในการเร่งรัดการพัฒนากรุงเทพมหานคร โดยมี นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยนายกฯ กล่าวว่า ยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาเยือนกทม.เป็นครั้งแรก แม้เราจะพยายามกระจายความเจริญไปต่างจังหวัด แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ากทม.คือประเทศไทยเล็กๆ จากนโยบาย จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง 8 ข้อ เกือบทุกข้อเกี่ยวข้องกับ กทม. หลายเรื่องยังขาดการซัพพอร์ตจากหน่วยงานอื่นๆ หลายๆ ท่านต้องเข้ามาช่วยกันทำให้ดีขึ้น จากนี้อยากให้มีการประสานกันมากขึ้น โดยให้ นางพวงเพ็ชร เป็นผู้ประสาน อย่างเรื่องการลอกท่อ ลอกคลอง หน่วยงานต่างๆ ต้องมาคุยกันวางแผนจัดระบบมาว่า หน่วยงานไหนของฝ่ายความมั่นคง ของฝ่ายทหาร จะมาช่วย เริ่มต้นตั้งแต่คลองไหน ซอยไหน หากต้องการให้ช่วยผลักดันตรงไหนก็ยินดี ส่วนเรื่องการจราจร ต้องมีการประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เชื่อว่าที่ผู้ว่าฯ ได้ทำนโยบายมาคิดว่าดีขึ้น เพียงแต่การสื่อสารของเราอาจจะยังด้อยไปนิด เรื่องนี้จะส่งผลกับการท่องเที่ยวหากเราทำอะไรดีอยู่แล้ว เผยแพร่ในช่องทางการสื่อสารของทางรัฐบาล และจะได้เชิญคนที่อยู่ต่างประเทศให้เข้ามาท่องเที่ยวไทย เรื่องของแท็กซี่ที่ไม่ยอมกดมิเตอร์จริงๆ ต้องเห็นใจเขาเหมือนกัน หากกดมิเตอร์ในช่วงที่รถติดจริงๆ มิเตอร์ไม่ขึ้นเขาก็ไม่ได้ตังค์ จึงฝากไว้เรื่องระบบมิเตอร์เพราะเทคโนโลยีใหม่ๆ มีแล้ว ให้เปลี่ยนไปตามกลไกการแข่งขันที่สมบูรณ์จริงๆ

...

"ส่วนเรื่องแท็กซี่ ไกด์ผีต่างๆ เป็นมะเร็งที่กัดกร่อน วงการท่องเที่ยวของประเทศไทย ตรงนี้ต้องฝากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลตรงนี้ดีๆ การที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาอยากให้ก้าวแรกจนก้าวสุดท้ายเกิดความสะดวกสบายและมีความประทับใจ ไม่ว่าจะขั้นตอนต่างๆ ในสนามบิน หากหลุดมาแล้วเจอไกด์ผี ก็เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม จึงอยากจะฝากตรงนี้ไว้" นายกฯ กล่าว...

นายเศรษฐา กล่าวว่า ในเรื่องของความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ ปีนี้เป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา เราอยากทำให้เมืองสะอาดขึ้น นโยบายของผู้ว่าฯ ตอนที่มาใหม่ๆ ก็ดีในเรื่องของการทำให้สายไฟลดน้อยลง หากมีผลงานแล้วในถนนบางเส้นบางสายทำเสร็จแล้ว ควรจะมีภาพก่อนทำและหลังทำ เรื่อง PM 2.5 เป็นเรื่องสำคัญ การที่ผู้ว่าฯ ประกาศ Work From Home แล้วเห็นผลอย่างชัดเจน ทำให้รถยนต์น้อยลงไป 9% ถ้าเกิดการประสานที่ดี รัฐบาลก็จะประกาศพร้อมกัน อาจจะเป็นการให้หน่วยงานราชการทำงานจากที่บ้านเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ต่างคนต่างพยายามทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น

จากนั้นนายกฯ ตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ กทม. พร้อมกล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้มาพบพวกท่าน เห็นถึงความตั้งใจผ่านแววตาของทุกคน ทราบว่าทุกคนปฏิบัติหน้าที่ได้ดีแค่ไหน เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในยามที่กรุงเทพฯ ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ไฟไหม้ โควิด-19 ระบาด ฝุ่นพิษปกคลุมท้องฟ้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาตรการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ ขอขอบคุณคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ทุกคนของทุกภาคส่วน ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง ร่วมมือร่วมใจกันพัฒนากรุงเทพฯ ให้มีความเจริญก้าวหน้าตลอดมา ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้กรุงเทพมหานครสามารถขับเคลื่อนการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพตลอดไป

จากนั้นเวลา 09.35 น. นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นจังหวะที่ดี เพราะเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ได้แถลงวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” 8 ด้าน ซึ่งหลายๆ ข้อเกี่ยวข้องกับทางกรุงเทพฯ ปฏิเสธไม่ได้ ส่วนปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในหมู่เยาวชน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องจัดการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพราะพบถึงขั้นทำบุหรี่ไฟฟ้าเป็นรูปกล่องนม ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเยาวชน เป็นเรื่องที่ไม่ควร ทั้งเรื่องการนำเข้าการเข้มงวดศุลกากรก็ต้องตรวจค้นมากยิ่งขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เมื่อถามถึงนโยบายค่าโดยสารรถไฟ 20 บาทตลอดสาย เห็นว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3 ปีหน้า ไม่ทราบว่ารัฐบาลจะมีการแก้ไขสัญญาสัมปทานอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ขอให้รมว.คมนาคมเป็นผู้แถลง

เมื่อถามว่า มีการพิจารณาย้ายท่าเรือคลองเตย การปรับเปลี่ยนตรงนี้ในมุมมองของนายกฯ ได้มีการชั่งน้ำหนักเรื่องการขนส่งที่มีมูลค่าของท่าเรือคลองเตย กับน้ำหนักเรื่องการแก้ปัญหาฝุ่นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เป็นคำถามที่ดี มันจะต้องดูให้ครบทั้งองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพัฒนา ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง เฟส 2 และเฟส 3 ถ้าตรงนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว จะต้องล้อกันไป โดยที่จะต้องไม่กระทบกับการส่งออก

ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า ท่าเรือคลองเตยอยู่ในแผนวาระฝุ่นแห่งชาติอยู่แล้ว ตั้งแต่ปี 2562 ความจริงแล้วเป็นเรื่องที่อาจจะต้องมีการทบทวน ว่ามันเวิร์กหรือไม่เวิร์กขนาดไหน แต่จะเห็นตัวอย่างจากทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ท่าเรือที่อยู่ในเมืองเขาย้ายออกข้างนอก เรามีปัญหาเรื่องการควบคุมน้ำทะเลที่หนุนสูง เพราะหากมีเรือใหญ่เข้ามา แล้วน้ำทะเลหนุน เราจะควบคุมอย่างไร เพราะมีหลายปัจจัย ซึ่งคิดว่านายกฯจะให้ศึกษารายละเอียดให้รอบคอบอีกครั้ง

เมื่อถามอีกว่า ในวาระ 4 ปี นายกฯ อยากเห็นอะไรใน กทม. ในเรื่องการพัฒนามากที่สุด นายกฯ กล่าวว่า มีหลายมิติ ท่านผู้ว่าฯ เองก็พูดไปแล้วทั้งเรื่องความสะอาด ความปลอดภัย การจราจร เรื่อง PM 2.5 และเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของรถแท็กซี่ คนหาบเร่แผงลอย ต่างๆ เหล่านี้ต้องได้รับความเป็นธรรม และทำให้กทม.เป็นเมืองที่น่าอยู่ เมื่อถามต่อว่า การทำงานกับผู้ว่าฯ กทม.จะไม่มีความขัดแย้งกัน สามารถทำงานร่วมกันได้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าท่านดูจากภาษากาย ท่านคงทราบว่าไม่มีปัญหาอะไรกันเลย ท่านผู้ว่าฯ เชิญผมมา ผมก็ยินดีที่มาและขอขอบคุณด้วย ซึ่งเราเองมีการคุยกันตลอดเวลา ไปที่ทำเนียบรัฐบาลเจอกัน 5-6 คน พูดคุยกันตลอดเวลา ยกหูสายตรงได้ตลอด เรื่องนี้ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้นเลย และไม่เคยมีด้วย"