นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ ประกาศข่าวร้ายว่า จีดีพี ประเทศไทยปี 2566 โตต่ำเตี้ยแค่ 1.9 เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่าเป้าที่สภาพัฒน์มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยปี 2566 จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 2.5 เปอร์เซ็นต์

ข้อสำคัญ แย่กว่าจีดีพีปี 2565 ที่ขยายตัว 2.6 เปอร์เซ็นต์!!

“แม่ลูกจันทร์” ไม่แปลกใจ เพราะอาการย่ำแย่เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3 ที่จีดีพีขยายตัวต่ำสุดติ่งเพียง 1.4 เปอร์เซ็นต์

และไตรมาส 4 ล่าสุด จีดีพีขยายตัว 1.7 เปอร์เซ็นต์

ทำให้รวมทั้งปี จีดีพีโตกระด้อกระแด้แค่ 1.9 เปอร์เซ็นต์

แต่ที่น่าตกใจคือการส่งออกปี 2566 ติดลบถึง 1.7 เปอร์เซ็นต์

และงบลงทุนภาครัฐที่ติดลบไปถึง 4.6 เปอร์เซ็นต์

ต้นเหตุเกิดจากงบประมาณรายจ่ายรัฐบาลปี 2567 ล่าช้ากว่าปกติไปถึงครึ่งปี

นี่คือ 2 ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยปี 2566 ทรุดลงอย่างชัดเจน

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า การที่จีดีพีปี 2566 โตต่ำเตี้ยเพียง 1.9 เปอร์เซ็นต์ เป็นสัญญาณเตือนว่าเศรษฐกิจไทยยังอ่อนแอและเปราะบาง

ทำให้สภาพัฒน์ต้องรีบหั่นเป้าจีดีพีปี 2567 จากที่คาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 2.7 เปอร์เซ็นต์

เหลือแค่ 2.2 เปอร์เซ็นต์!!

หรือโตกว่าปี 2566 เพียง 0.3 เปอร์เซ็นต์

โดยคาดว่าการส่งออกปีนี้จะกลับมาเป็นบวก 2.9 เปอร์เซ็นต์ (จากที่เคยตั้งเป้าว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ถึง 3.8 เปอร์เซ็นต์)

ถึงเวลากลับสู่โลกแห่งความจริง

เศรษฐกิจไทยยังไม่เปรี้ยงปังอย่างที่คาดกัน

“แม่ลูกจันทร์” มองว่าการที่จีดีพีประเทศไทยปีล่าสุดขยายตัวจิ๊บๆเพียง 1.9 เปอร์เซ็นต์

แม้เศรษฐกิจไทยยังไม่ถึงขั้นวิกฤติก็จริง

แต่อาจถลำลึกไปถึงจุดวิกฤติ หากชะล่าใจว่าเศรษฐกิจไทยโตเองได้โดยไม่จำเป็นต้องกู้เงินไปกระตุ้นเศรษฐกิจอีกก้อนโต

...

เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นเต็มตัว

การลงทุนจากต่างประเทศยังกะปริด กะปรอย

การส่งออกที่คาดว่าจะบวก 2.9 เปอร์เซ็นต์ จึงยังลูกผีลูกคน

ที่เบาใจได้อย่างเดียวคือ รายได้จากการท่องเที่ยวที่กำลังดีวันดีคืน

รายได้จากการท่องเที่ยวน่าจะดันจีดีพีปี 2567 ให้พลิกกลับมาบวกได้แน่นอน

แต่ลูกตุ้มที่ถ่วงเศรษฐกิจไทยคือ วิกฤติหนี้สินครัวเรือน ทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบที่ทำให้กำลังซื้อประชาชนตกฮวบๆต่อเนื่องมาหลายปี

โครงการแจกเงินดิจิทัลหนึ่งหมื่นบาทให้ประชาชน 50 ล้านคน เพื่อเพิ่มกำลังซื้อไปกระตุ้นเศรษฐกิจจึงต้องเดินหน้าต่อไป

เพราะปัญหาใหญ่คือ รายได้ประชาชนไม่พอใช้พอกิน

เปรียบเหมือนคนป่วยโรคโลหิตจาง ทำให้ปริมาณเม็ดเลือดแดงที่ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนจากปอดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆไม่เพียงพอ

คนเป็นโรคโลหิตจางจึงมีอาการเหนื่อยเพลีย หายใจไม่เต็มปอด ร่างกายชำรุดทรุดโทรม ฯลฯ

การอัดฉีดเงินดิจิทัลใส่กระเป๋าประชาชนคือการเพิ่มเม็ดเลือดแดงในร่างกายทำให้หายป้อแป้ไปได้ชั่วคราว

สรุปว่าตัวเลขจีดีพีปีนี้เข้าทางรัฐบาลเศรษฐาเต็มเปา!!

แล้วจะรอช้าทำไมล่ะโยม??

“แม่ลูกจันทร์”

คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม