วันนี้ (7 ก.พ.) สมเด็จฯฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จึงเป็นโอกาสดีงามที่ “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” จะหยิบยกประเด็นความร่วมมือพัฒนาแหล่งพลังงานพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา 26,000 ตร.กม. ซึ่งมีแหล่งนํ้ามันดิบและหลุมก๊าซธรรมชาติประเมินมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านบาท ขึ้นมาใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างยุติธรรม
ถ้าการพูดคุยเจรจา “เศรษฐา-ฮุน มาเนต” สำเร็จได้โดยเร็ว??
เราจะมีแหล่งก๊าซธรรมชาติปริมาณมหาศาลมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้อีกไม่ตํ่ากว่า 30 ปี
โดยไม่ต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติราคาโคตรแพงให้ปวดกระดองใจ
ถ้าจับมือกันได้ ประเทศกัมพูชา และประเทศไทยจะมีรายได้จากค่าภาคหลวงและส่วนแบ่งรายได้จากสัมปทานอีกกว่าหนึ่งแสนล้านบาทต่อปี!!
ข้อสำคัญ หลุมก๊าซธรรมชาติ “แหล่งเอราวัณ” ในอ่าวไทยก็ร่อยหรอลงทุกวัน
แหล่งก๊าซธรรมชาติในเมียนมา ทั้ง “แหล่งยาดานา” “ แหล่งเยตากุน” ก็ใกล้จะหมดอายุการใช้งาน
จึงเป็นไฟต์บังคับให้นายกฯเศรษฐาต้องรีบเจรจากับนายกฯฮุนมาเนต ให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว
เพราะกว่าจะดูดนํ้ามันดิบและก๊าซธรรมชาติขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้ ต้องใช้เวลาดำเนินการอีกไม่ตํ่ากว่า 5 ปี!!
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าช่วงนี้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชากำลังหวานเจี๊ยบอย่างแรง
มีแนวโน้มว่าการเจรจาระหว่างนายกฯไทยกับนายกฯกัมพูชาจะลงเอยได้ด้วยดี
แต่...มีเสียงท้วงติงจากฝ่ายความมั่นคงว่าต้องเจรจาปักปันเขตแดน 2 ประเทศให้เสร็จก่อนแล้วจึงค่อยเจรจาร่วมพัฒนาแหล่งพลังงานพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล
เพราะหากเจรจาแหล่งพลังงานก่อน ไทยอาจเสียเปรียบกัมพูชา??
...
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าขืนรอให้การเจรจาปักปันเขตแดนให้จบคงต้องรอไปอีก 10 ปี 20 ปี
เพราะกว่าจะตีเส้นเขตแดนได้ทีละคืบทีละศอก ต้องใช้เวลาสำรวจสภาพ พื้นที่และพิสูจน์หลักฐานกันอีกยืดยาว
ฉะนั้น ในช่วงวิกฤติก๊าซธรรมชาติ ขาดแคลน
ควรเน้นเป้าเจรจาร่วมพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติให้จบก่อน
เพราะแหล่งก๊าซธรรมชาติคือ ปัจจัยหลักที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย!!
ส่วนการเจรจาปักปันเขตแดนทางบก ทางทะเล ซึ่งยักแย่ยักยันมากว่า 70 ปี ยังมีเวลาเจรจาต่อไปอีกยาวนาน
“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยกับ “นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกฯและ รมว.พลังงาน ที่เสนอให้จัดตั้งบริษัทบริหารกลาง ซึ่งมีรัฐบาลกัมพูชา และรัฐบาลไทยเป็นหุ้นส่วนกัน
เพื่อจัดสรรผลประโยชน์จากแหล่งพลังงานอย่างยุติธรรม
“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าอุปสรรคที่ทำให้การพัฒนาแหล่งพลังงานพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาต้องชักเข้าชักออกมา 20 ปี
เพราะไปเน้นเจรจาปักปันเขตแดนเป็นประเด็นหลัก
การพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติเป็นประเด็นรอง
เรื่องง่ายจึงกลายเป็นเรื่องยาก เรื่องสั้นจึงกลายเป็นเรื่องยาวด้วยประการฉะนี้แลเฮย.
“แม่ลูกจันทร์”
คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม