ซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจฐานเสียงพรรคก้าวไกล เทียบ 3 ปีก่อน เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ชี้ “พิธา” และก้าวไกล ตรงจริตความต้องการเปลี่ยนแปลงของคนรุ่นใหม่ 

วันที่ 28 มกราคม 2567 สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง สำรวจฐานเสียงพรรคก้าวไกลวันนี้ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ อายุ 18 ปีขึ้นไป รวมจำนวน 1,142 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 25-27 มกราคม 2567

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบผลสำรวจระหว่างเดือนกรกฎาคม 2563 กับมกราคม 2567 เกี่ยวกับการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชน ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้งจะเลือกพรรคก้าวไกลหรือไม่ ผลสำรวจพบว่า ในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ฐานเสียงของพรรคก้าวไกลพุ่งพรวดเท่าตัว จากร้อยละ 16.7 ขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 37.3 

เมื่อจำแนกตามช่วงอายุ พบว่าส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่มากที่สุดคือ ร้อยละ 76.2 ในกลุ่มคนอายุต่ำกว่า 20 ปี, ร้อยละ 48.8 ในกลุ่มคนอายุ 20-29 ปี, ร้อยละ 33.7 ในกลุ่มคนอายุ 30-39 ปี, ร้อยละ 28.8 ในกลุ่มคนอายุ 40-49 ปี, ร้อยละ 19.6 ในกลุ่มคนอายุ 50-59 ปี และร้อยละ 22.2 ในกลุ่มคนอายุ 60 ปีขึ้นไป

ขณะที่เมื่อแบ่งออกตามกลุ่มอาชีพ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.2 ในกลุ่มนักเรียนนักศึกษาเลือกพรรคก้าวไกล รองลงมาคือกลุ่มคนว่างงาน ร้อยละ 43.5, กลุ่มพนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 39.4, กลุ่มคนค้าขายส่วนตัว ร้อยละ 32.5, กลุ่มข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐ ร้อยละ 31.0, กลุ่มเกษตรกรและรับจ้างแรงงานทั่วไป ร้อยละ 21.3 และกลุ่มแม่บ้านผู้เกษียณอายุ ร้อยละ 15.2 ตามลำดับ ส่วนการจำแนกตามภูมิภาค พบว่ากระแสพรรคก้าวไกลมาแรงในภาคใต้ อยู่ที่ร้อยละ 45.2 รองลงมาคือ ภาคกลาง ร้อยละ 40.3, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ร้อยละ 39.4, กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 38.4 แต่ในภาคเหนือ พบเพียงร้อยละ 9.7

...

รายงานของซูเปอร์โพล ระบุ ชี้ให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลมีฐานเสียงเพิ่มสูงเท่าตัวในช่วงระยะเวลา 3 ปี และมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยยังเหนียวแน่นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มนักเรียนนักศึกษา ตามด้วยกลุ่มพนักงานบริษัทเอกชน และกำลังเติบโตในภาคใต้มากที่สุดในการสำรวจล่าสุดนี้

ส่วนปัจจัยที่ทำให้พรรคก้าวไกลได้รับคะแนนนิยมเพิ่มสูงขึ้น จากการวิเคราะห์พบความเชื่อมโยงกับความนิยมในตัว นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และปัจจัยเชื่อมโยงอื่นๆ หลายปัจจัย เช่น การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การใช้บอต (BOT) ในเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทำให้เกิดการกระจายข้อมูลข่าวสารของพรรคก้าวไกลและของ นายพิธา ตรงกับจริตความต้องการเปลี่ยนแปลงของคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นศรัทธาในพรรคก้าวไกล และในลักษณะเฉพาะตัว นายพิธา ทั้งในเรื่องการศึกษาดี มีความรู้ความสามารถ มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล การสื่อสารดีทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศที่มากกว่าภาษาอังกฤษ ความสง่างาม ความดูดีมีเสน่ห์ของ นายพิธา เช่นกัน

ขณะเดียวกัน ยังมีปัจจัยอื่นๆ เสริมประกอบควบคู่ไปกับการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และบอต (BOT) ในการจัดแคมเปญ สร้างสรรค์และกระจายข้อมูลข่าวสารของนโยบายพรรคก้าวไกล และสิ่งที่พรรคก้าวไกลและที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของพรรคก้าวไกล ทำหรือสนับสนุน ผ่านเทคโนโลยีสื่อสารยุคดิจิทัล ทำให้ นายพิธา บรรดา สส.ของพรรค  และพรรคก้าวไกล สามารถใช้สื่อดิจิทัลให้ข้อมูลและความเห็น รวมถึงบุคลิกภาพและการกระทำที่ถูกนำส่งไปยังกลุ่มแฟนคลับ ประชาชน ผู้นิยมศรัทธาชื่นชอบพรรคก้าวไกล และ สส.ของพรรคอย่างหลากหลาย และมีประสิทธิภาพ ส่งผลทำให้พรรคก้าวไกลและ สส.ของพรรคก้าวไกล ได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มข้น จนถึงขั้นตัดสินใจจะเลือกและชักชวนคนอื่นๆ ให้เลือกด้วย เป็นลักษณะของการผูกพัน (engagement) ระหว่างความสนใจ ค่านิยม ทัศนคติของฐานเสียงประชาชนแฟนคลับและตัวตนของพรรคก้าวไกลได้อย่างลงตัว ถึงวันนี้จึงยากที่จะเหนี่ยวรั้งไว้ได้ เพื่อรอวันแลนด์สไลด์ของพรรคก้าวไกลทั้งประเทศ