หลบหน่อย พระเอกมา ถึงตรงนี้เชื่อว่า “ด้อมส้ม” ก็คงยังไม่หายดีใจ ชื่นใจที่ขวัญใจอย่าง “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯจากพรรคก้าวไกล พ้นบ่วง
หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย รอดปมถือหุ้นสื่อ ไม่พ้นจากตำแหน่ง สส.
คัมแบ็กสภาฯ ทำหน้าที่ผู้แทนฯหน้ามนต่อ ไม่รอแล้ว
เพียงแต่ในภาวะครึกครื้นนั้น สำหรับ “ทิม พิธา” แม้จะออกตัวว่าไม่รู้สึกอะไร แต่ของจริงก็คงมีทั้งถอนหายใจเพราะโล่งอก และ “เป่าปาก” ไปพร้อมกัน
เหนื่อยยากกับวิบากกรรม และยังต้องเหนื่อยต่อ กับคิวร้อนที่ยังต้องลุ้นเหนื่อยอีกรอบ
ดีเดย์ 31 ม.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคำร้อง ข้อกล่าวหานายพิธา และพรรคก้าวไกล ที่แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ยกเลิกมาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองฯหรือไม่
เป็นอีกช็อตลุ้นเสียวของ “พิธา” เรียงคิวมาติดๆ
ถึงแม้รายการนี้ ตามคำร้องแค่ขอให้พิธาและพรรคก้าวไกล “ยุติการกระทำ” ยังไม่หนักอึ้งถึงขั้น “ยุบพรรคก้าวไกล”
แต่ถ้าคำวินิจฉัยส่งผลทางลบ ก็คงไม่พ้นมีคิวปั่นป่วนตามมา
...
นอกจากขับเคลื่อน เคลื่อนไหว แตะกฎหมายแก้ปมร้อน ม.112 ลำบาก เมื่อจุดขายเป็นจุดเสี่ยง ที่มากกว่านั้นคือผลที่ตามมา นอกจาก กกต.ตรวจสอบต่อแล้ว
ยังมี “หัวเชื้อ” บรรดานักร้องไม่พลาดเล่นต่อ ยื่นเรื่องให้ “ยุบพรรค”
อย่างไรก็ดี ปมระทึกขวัญค่ายส้มแม้ยังต้องรออีกขยักพักใหญ่ แต่เวลานี้ทีมพรรคก้าวไกลประมาทไม่ได้ ยังไงก็ต้องมองประเมินฉากทัศน์ให้ครบ
ในสถานการณ์ที่รู้ตัวกันดี ตกเป็น เป้าหมายเลข 1 ท้าทายโครงสร้างประเทศ
โดนเอาปูนป้ายหัว ต้องถูก “บริหารจัดการ”
แน่นอน ถึงตรงนี้ทัพก้าวไกลพร้อมรับทุกสถานการณ์ ในจังหวะต้องปั่นโปรไฟล์ทำแต้ม ทำงานเป็นระบบแนวใหม่โดนใจแฟนๆ ตรึงมวลชนเป็นผนังทองแดงกำแพงส้ม ยันต่อกรเกมกำจัด
ไม่แปลกที่ล่าสุด หลังคัมแบ็กสภาฯ “พิธา” ก็ประกาศทันที จะเดินหน้าสแกนตรวจสอบรัฐบาล
ฮึ่มๆอาวุธครบมือ ทั้งบอมบ์บาซูกา หรือใช้แนวรบทหารราบ
แพลมๆจองกฐินคิวซักฟอก อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลยกประเด็นขู่ ทั้งปมไร้ประสิทธิภาพการบริหาร พฤติกรรมไม่เหมาะสม รวมทั้งยกกลิ่นตุๆ ขุดปม “โกง” มาขู่แฉแล้วเหมือนกัน
ในจังหวะของสถานการณ์เกมอำนาจที่มีปัจจัยทำให้เกิดภาวะซับซ้อนซ่อนเงื่อน
ขั้วพลิกสวิงไปมา กลายเป็น 3-4 ก๊กประเทศไทย
อีกทางก็มีแนวร่วมมุมกลับ สว.ที่เคยตั้งป้อมอัดค่ายส้ม ฉีกออกมาเดินสายแถบและเส้นทางเดียวกันเฉย โดยบางปีกในสภาสูงเข้าชื่อครบ 1 ใน 3 หรือ 84 เสียง เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ
นำโดย 3 ทหารเสือ ตัวทำเกม ทั้ง “เสรี สุวรรณภานนท์-สมชาย แสวงการ-คำนูณ สิทธิสมาน”
แว่วว่าจะขุดปมมาซักฟอก ทั้งนโยบายเรือธงดิจิทัลวอลเล็ต ประเด็นการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนตามเอ็มโอยู 44 ไทย-กัมพูชา เสี่ยงเสียเปรียบ และปมใหญ่ สถานะการคุมขังอดีตนายกฯในโรงพยาบาล ฯลฯ
เรื่องร้อนประเด็นแรงล้วนๆ ไม่เสียวก็ไม่ได้
อย่างไรก็ดี อีกมุมหนึ่งในภารกิจสุดท้ายสายลากตั้ง ลากรัฐบาลขึ้นเขียง แปร่งๆแปลกๆ ชนิดเครือข่ายอำนาจระแวง จับสัญญาณกันยกใหญ่
เริ่มมีกระแสข่าวเร่ง “ตัดตอน” ล็อบบี้ สว.ถอนชื่อในญัตติกันแล้ว
เพราะแม้รายการนี้ไม่ถึงขั้นเด็ดขั้วรัฐบาล แต่หวาดเสียวเวทีด่าฟรี เขย่าขย่มกันหนักๆก็ทำเซได้
เมื่อบวกรวมการจองคิวของ “พิธา” และก้าวไกล ฮึกเหิมตรวจสอบรัฐบาล เป็นแนวรบร่วมแนวต้าน
แม้จะไม่ถึงขั้นสนธิกำลังกัน แต่เมื่อถาโถมมาหลายทิศ กลายเป็นจังหวะเร้าเกมป่วน
ไม่ประมาทฝ่ายหาช่องจ้อง “ปลิดขั้ว” อาจสวมรอยแฝงตัวในคิวนี้.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม