"พัชรวาท" ฮึ่มแก้ฝุ่นพิษ ลั่นมาตรการไหนไม่ได้ผลต้องทบทวน มั่นใจ พ.ร.บ.อากาศสะอาด เป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ

เมื่อวันที่ 21 ม.ค.67 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้รับรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งอยู่ในช่วงที่น่าห่วงใย เนื่องจากมีระดับค่าฝุ่นปานกลาง จนถึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน แม้ว่าได้เตรียมการและบูรณาการกับหลายภาคส่วนแล้วก็ตาม โดยในส่วนของ ทส.ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปกำกับดูแล ตามภารกิจล่วงหน้าไว้อยู่แล้ว ทำให้หลายพื้นที่สถานการณ์เบาบางลง ขณะเดียวกันยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ต้องช่วยกันควบคุมแก้ไข โดยเฉพาะช่วงนี้เข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวอ้อย และเตรียมพื้นที่ท้องนาเพื่อเริ่มฤดูกาลเพาะปลูกใหม่ จึงทำให้มีการเผาในปริมาณสูงขึ้น แม้จะให้มีการจับตาอย่างใกล้ชิด ก็ยังพบว่ามีการลักลอบเผา ส่วน กทม.และปริมณฑล ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากมลพิษจากท่อไอเสียและโรงงานอุตสาหกรรม จึงได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งการตรวจตรารถควันดำให้มีมาตรการเข้มข้น ตรวจ จับ ปรับ ตามความเหมาะสม เพื่อให้ได้เกิดความตื่นตัว ร่วมมือกับภาครัฐในการแก้ไขปัญหา

"จากนี้ไปมาตรการต่างๆ จะมีความเข้มข้นมากขึ้น อะไรที่ทำไปแล้วไม่ได้ผลก็จะต้องมีการทบทวน ปรับปรุง เราพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ขอให้ประชาชนมั่นใจ และขณะนี้เครื่องมือสำคัญในการจัดการกับฝุ่น PM 2.5 คือ ร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด กำลังเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ จะใช้เวลาแปรญัตติ 15 วัน ถือว่ารัฐบาลได้ผลักดันร่างกฎหมายอย่างเร่งด่วน" พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว

...

ทั้งนี้ เชื่อว่าหากร่างกฎหมายผ่านขั้นตอนของสภา และมีการประกาศใช้จริง จะสามารถบริหารจัดการปัญหามลพิษทางอากาศได้อย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทั้งในประเทศและมลพิษข้ามพรมแดน