นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน พูดอยู่ตลอดเวลาว่า เศรษฐกิจของประเทศไทย ถดถอยซบเซามาอย่างต่อเนื่องโดยวัดจาก จีดีพี หรือการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 1% กว่ามาหลายปี เหตุผลนี้จึงต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้ยาแรง นั่นคือ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงินดิจิทัลประชาชนคนละ 10,000 บาท ซึ่งรัฐบาลย้ำชัดเจนว่า ไม่ใช่เป็นการแจกเงินช่วยประชาชน แต่เป้าหมายคือการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง

ดังนั้น หัวใจสำคัญ ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านของกระทรวงการคลัง จะผ่านไปได้หรือไม่ เพราะตามระเบียบการกู้เงินนอกงบประมาณของกระทรวงการคลังจะต้องเป็นเหตุด่วน เหตุร้าย กรณีฉุกเฉินที่จะนำมาชดเชยเยียวยาเศรษฐกิจของประเทศเท่านั้น

คำถามคือ เศรษฐกิจอยู่ในช่วงวิกฤติหรือไม่

เป็นเรื่องลำบากที่จะตอบคำถามนี้ มีทั้งความรู้สึก กฎหมายและทฤษฎี ที่จะต้องนำมาเป็นบทสรุปสุดท้าย บ้านเราในอดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่เคยมีเรื่องทำนองนี้ กระทรวงการคลังจะขอกู้เงินมาเยียวยาในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนในทิศทางเดียวกับแบงก์ชาติ อาทิ วิกฤติการระบาดของโควิด-19 วิกฤติค่าเงินบาท เป็นต้น

คนที่ตอบคำถามนี้ด้วยหลักการ เหตุและผลอย่างเป็นทางการธนาคารแห่งประเทศไทย ประเด็นที่ว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวช้ากว่าที่คาด และเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำหรือติดลบ ควรจะลดดอกเบี้ยนโยบาย

ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยมองว่าดอกเบี้ยนโยบายขณะนี้เหมาะสมแล้ว โดยพิจารณาจากหลักการ อะไรเป็นแก่น อะไรเป็นกระแส จากภาพรวมเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมา สิ่งที่เป็นไปตามคาดคือ เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว จากการกลับมาของนักท่องเที่ยว ภาคบริการ และอุปสงค์ภายในประเทศ เป็นแรงขับเคลื่อนหลักของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขจีดีพี เงินเฟ้อ จำนวนผู้มีงานทำ มีแนวโน้มในการฟื้นตัว แต่ยังไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร

...

และไม่เป็นไปตามที่คาดไว้จากจำนวนนักท่องเที่ยว ระยะเวลาการท่องเที่ยวและการใช้เงิน ภาคการผลิตและส่งออกที่ยังฟื้นตัวช้า เป็นการสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างและศักยภาพของเศรษฐกิจที่แท้จริง

ที่ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อไม่ติดลบ ไม่ได้หมายความว่า ราคาปรับลดลงล่วงหน้า ไม่สะท้อนกำลังซื้อหรืออุปสงค์ที่หดไป แต่ไม่ใช่ภาวะเงินฝืด เงินเฟ้อลดลงจากราคาพลังงาน อาหาร ที่เป็นผลจากมาตรการอุดหนุนของภาครัฐ

ทำให้ เงินเฟ้อติดลบส่วนใหญ่เป็นปัจจัยเฉพาะไม่ยั่งยืน กำลังซื้อไม่ได้แผ่ว เงินเฟ้อคาดการณ์ยังอยู่ในระดับ 2% และสะท้อนถึงปัจจัยภาคการผลิตที่คลี่คลายลง

ปัญหาใหญ่คือ หนี้ภาคครัวเรือนสูงมาก ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการบริโภค และหนี้บัตรเครดิต ซึ่งเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต ถ้าปรับอัตราดอกเบี้ยต่ำเกินไป จะเป็นการซ้ำเติมปัญหา

สรุปคือ ภาพรวมเศรษฐกิจ ยังไปได้เท่าที่ควร เป็นจุดตั้งต้นที่ดี เศรษฐกิจภาพรวมขยายตัว ภาคการเงินมั่นคง ภาคต่างประเทศเข้มแข็ง มีจุดแข็งต่อยอดพัฒนาเศรษฐกิจได้

จะเป็นคำตอบว่าดิจิทัลวอลเล็ตจะผ่านด้วยหรือไม่ แบงก์ชาติกับรัฐบาลเป็นคู่ขนานที่ต้องจับตา.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ "คาบลูกคาบดอก" เพิ่มเติม