พรรคฝ่ายค้านจี้นายกฯ นำร่างกฎหมาย "อากาศสะอาด" เข้าสภา ขอพิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วน รวมทุกร่างในคราวเดียวกัน ช้าสุดคือพรุ่งนี้ตอนเช้า ดักทาง ไม่อยากให้เป็นเกมสกัดขาทางการเมือง

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 10 ม.ค. 2567 ที่รัฐสภา สส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ร่วมแถลงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลงนามบรรจุร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อากาศสะอาดของฝ่ายค้านเข้าเป็นเรื่องเร่งด่วนในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 11 ม.ค. 2567

โดยนายภัทรพงษ์ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดที่จะเข้าสภาฯ ในวันที่ 11 ม.ค.นี้ มีเพียง 4 ร่าง จากทั้งหมด 7 ร่าง ซึ่งร่างของฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล และพรรค ปชป. ที่นายกฯ ยังไม่ลงนาม ซึ่งตนได้ยินมาว่า สาเหตุเป็นเพราะร่างของพรรคก้าวไกลไม่เหมือนกับร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตนยืนยันว่าไม่จริง เพราะหลักการและเนื้อหาของเราเป้าหมายมีเป้าหมายเดียวกัน คือ แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 เหมือนกัน ฉะนั้นความแตกต่างตรงนี้เชื่อว่าไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ไม่ก่อให้เกิดปัญหาในชั้นกรรมาธิการแน่นอน เพราะความแตกต่างในร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลและรัฐบาล จะช่วยเสริมสร้างให้กฎหมายฉบับนี้สมบูรณ์มากที่สุดจากปัญหาที่เรื้อรังมานาน

“ในส่วนของความแตกต่างของพรรคก้าวไกล และรัฐบาล แตกต่างกันที่ความผิด และโทษของผู้กระทำความผิด ย้ำว่าร่างของพรรคก้าวไกลจะมีการเอาผิดไปถึงผู้ประกอบการ นายทุนปลูกข้าวโพด โดยผู้ประกอบการจะต้องทำรายงานทั้งระบบว่าดำเนินการอย่างไร เพราะที่ผ่านมาในสภายังมีการรับรายงานถึงปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ผมเพิ่งได้รับข่าวจากวิปรัฐบาลว่าจะผลักดันร่างของฝ่ายค้าน ให้เข้าสู่สภาในวันพรุ่งนี้พร้อมกันให้ได้ ดังนั้นตนหวังว่านายกรัฐมนตรีจะเห็นตรงกันในจุดนี้ ไม่มองว่าความแตกต่างจะสร้างความขัดแย้ง” นายภัทรพงษ์ กล่าว

...

ขณะที่ นายร่มธรรม กล่าวว่า พรรค ปชป. ได้ยื่นร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ เป็นการผลักดันของเพื่อนๆ พรรค ปชป. ที่เห็นปัญหาเหล่านี้มาอย่างยาวนาน ซึ่งมลพิษทางอากาศเป็นปัญหาใหญ่ และเรื้อรังมานาน ประชาชนทุกวัยล้วนได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในประเทศไทย วันที่ 11 ม.ค. จะเป็นวันที่ดีที่เราได้ผลักดันกฎหมายที่จะมาแก้ไขควบคุมประเด็นมลพิษทางอากาศอย่างจริงจัง แต่ก็เป็นที่น่าเศร้าใจที่ร่างกฎหมายเรื่องนี้ถูกบรรจุแค่ 4 ฉบับ เป็นเรื่องน่าเศร้าใจ หากร่างกฎหมายของพวกเราไม่ได้ถูกพิจารณาในวันพรุ่งนี้ ร่างกฎหมายของพวกเรามีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกัน แต่จุดประสงค์เดียวกัน ดังนั้นจำเป็นยิ่งที่จะนำร่างทุกร่างกฎหมายในเรื่องนี้มาพิจารณาร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนจะได้เห็นภาพและเปรียบเทียบได้ จึงขอส่งเสียงถึงนายกรัฐมนตรี และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ร่างกฎหมายที่พวกเราพยายามผลักดันได้รับการพิจารณาพร้อมกันทุกร่างในวันที่ 11 ม.ค. ทั้งนี้ทุกคนต้องการให้มีกฎหมายนี้ออกมาบังคับใช้เพื่อแก้ไขมลพิษทางอากาศ เพื่อทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ คืนลมหายใจให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน

เมื่อถามว่า คิดว่าจะทันในวันพรุ่งนี้หรือไม่ นายภัทรพงษ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบเวลาช้าที่สุดคือพรุ่งนี้ตอนเช้า พร้อมย้ำว่าไม่อยากให้เป็นเกมสกัดขาทางการเมือง.