ยกระดับมาตรฐานไปได้ระดับหนึ่ง เวทีประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 2567 ผ่านมาครึ่งทาง ภาพรวม สส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลมีพัฒนาการไปในทางที่ดี

ต่างฝ่ายต่างว่ากันตรงๆเนื้อหาสาระการจัดทำงบฯบริหารประเทศ

ส่วนเรื่องลีลาโวหาร ลูกเหน็บแนมกระแทกกระทั้น ตอบโต้กันไปมา คิวประท้วงของ สส. แม้จะมีบ้างก็เป็นแค่น้ำจิ้ม สีสันในเวทีอภิปราย

โดยที่โดดเด่น “ต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้นำฝ่ายค้าน เปรียบเปรยชัด การจัดงบฯแบบมีข้อจำกัดของ “รัฐบาลรวมการเฉพาะกิจ” ที่รวมตัวเพื่อแก้วิกฤติอำนาจฝ่ายจารีต

เลยต้องแบ่งปันอำนาจ แบ่งกันกินแบ่งกันใช้ จัดงบฯเลื่อนลอย

ย้ำให้เห็นภาพรัฐบาลสูตรพลิกขั้ว มั่วนิ่มมั่วฝ่าย

และที่คืนฟอร์มเก่า ฝ่ายค้านมืออาชีพ “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เล่นบทถนัดกว่าอยู่ฝ่ายบริหาร ชำแหละงบฯแบบเนื้อๆเน้นๆ

แต่แน่นอน ไม่ลืมของแถม แทรกด้วยลีลาโวหาร ถ้อยคำเชือดเฉือน ทั้งเปรียบเปรย “งบฯเป็ดง่อย” รัฐบาล “นักกู้ถุงเท้าชมพู” ไปจนกระทั่งหยิบยกฉายาผู้นำที่สื่อตั้งไว้ “เซลส์แมนสแตนด์ชิน” มาสะกิดสะเกา

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

...

ก่อนปูทางเข้าสู่เป้าที่ตั้งใจแฉลบโยงกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และแน่นอนเอ่ยถึงสถานะ “ผู้นำจิตวิญญาณเพื่อไทย” จนมีคิวประท้วงจาก สส.รัฐบาล

ยี่ห้อ ปชป.ขนานแท้ แบบ “อู๊ดด้า” ไม่พลาดทิ่ม “โจทก์เก่า” นายใหญ่ตระกูลชินฯ

นอกนั้น สส.ฝ่ายค้านก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ตามมาตรฐาน โดยเฉพาะบรรดาผู้แทนฯยังเจนฯรุ่นใหม่จากค่ายสีส้ม พรรคก้าวไกล ทำการบ้าน แบ่งประเด็น วางคิวอภิปราย เนื้อหางบฯในแต่ละด้าน

ไล่ชำแหละแบบไม่มีนอกสคริปต์ ลดดีกรีลีลาที่มุ่งเอาใจโลกโซเชียลฯที่เคยติดหล่ม

ช่วยอัปเกรดเวทีสภาฯไปอีกระดับ เป็นโมเดลให้ค่ายอื่นๆต้องปรับตัวสู้

แต่ทั้งหมดทั้งปวงที่โฟกัสจับจ้องจริงๆ หนีไม่พ้นผู้นำฝ่ายบริหาร “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” ต้องนำทีมรัฐบาล ขึ้นบัลลังก์ทำหน้าที่ชี้แจงร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 2567 โดยไม่มีเลขาฯคอยอ่านสคริปต์ให้เหมือนบริหารธุรกิจ ต้องแจกแจงแผนงบฯเอง ชนิดอ่านเอกสารแจกแจงเกือบ 2ชั่วโมง

แน่นอน แม้ไม่ถึงขั้นโดดเดี่ยวกลางฟลอร์ อย่างน้อยก็มีรัฐมนตรีช่วยตอบคำถาม โดยเฉพาะภาคการจัดทำงบฯ “รมต.หนิม” จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ช่วยแบ่งเบาชี้แจง

แต่สาระหลัก “นายกฯเศรษฐา” เลี่ยงไม่ได้ต้องมีคำตอบ ทั้งในเวทีงบฯ และชาวบ้านนอกสภาฯ

ประเด็นยังค้างคาให้ต้องเคลียร์ ทั้งตัวเลขหนี้สาธารณะ ทะลุ 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ของจีดีพี หนี้สะสมรวมกว่า 11 ล้านล้านบาท ก่อหนี้ตัวใหม่จะไหวหรือไม่

โดยคิวนี้ผู้นำแจงเอง กรอบตัวเลขหนี้ยังอยู่โซน “สีเขียว” ยังอยู่ในวินัยการเงินการคลัง สรุปยังกู้เพิ่มได้แน่นอน สรุปรวมที่ถูกตั้งคำถามคือเรื่องการใช้เงิน ส่วนใหญ่เป็นปมโยงนโยบายเรือธง “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส แก้เหลื่อมล้ำ”

ทั้งจ่อกู้เงิน 5 แสนล้านบาท ใช้แจกโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งโครงการซอฟต์พาวเวอร์ ทั้งคิวโยกเงินชดเชยสารพัดมาตรการ ตรึงราคาน้ำมัน ไฟฟ้า พักชำระหนี้ อัดฉีดเกษตรกร ฯลฯ

เช่นเดียวกับที่วนลูปถกเถียง โยงจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต กับความจำเป็นต้องใช้เงินอัดฉีดหลายแสนล้าน กับเศรษฐกิจวันนี้ “วิกฤติ” หรือ “ไม่วิกฤติ”

ถูกทีมงานพรรคก้าวไกลไล่บี้ทวงถามต่อเนื่อง รวมทั้งที่ตั้งข้อสังเกตสูตรพิสดาร ปั้นตัวเลขเศรษฐกิจ

หลายปมที่ผู้นำต้องตามเคลียร์ให้ชัด

เพราะไม่ใช่แค่ฝ่ายค้าน แต่วันนี้ชาวบ้านร้านตลาดก็อยากได้คำตอบเช่นกัน

จะได้เงินดิจิทัลแน่นอนเมื่อไหร่ ใช้เงินจากที่ไหน ผิดกฎหมายหรือไม่ แล้วที่จะก่อภาระหนี้สินประเทศมหาศาล มีแผนตามชำระหนี้ และมีความคุ้มค่าเพียงใด

ที่สำคัญ ที่ป่าวประกาศจะ “รื้อ” โครงสร้างพลังงาน ลดค่าใช้จ่ายช่วยชาวบ้านถาวร ทำได้จริงหรือ

สรุปคือโจทย์ใหญ่คือ การฟื้นเศรษฐกิจปากท้องที่ยังเป็นภารกิจหลัก ภารกิจยาวๆของผู้นำ

เพราะที่เคลียร์แบบควิกวิน แก้ปัญหาเฉพาะหน้ายังไม่พอ.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม