“สุดาวรรณ” แจงในที่ประชุมสภาฯ งบ ก.ท่องเที่ยว เพิ่มแค่ 5.59% ไม่ใช่ 230% เร่งยกระดับกิจกรรมท้องถิ่นให้เป็นงานระดับนานาชาติ ดึงดูดนักท่องเที่ยว ขณะที่ปี 2567 หนุนท่องเที่ยวเมืองรอง เพิ่มเส้นทางใหม่ๆ

เมื่อเวลา 23.45 น. วันที่ 3 มกราคม 2567 น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตอบการอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในวาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ขอตอบในประเด็นการจัดสรรงบประมาณ และการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยใช้การท่องเที่ยวเป็นกลไกในการขับเคลื่อน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ความสำคัญกับการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวในไทย รวมทั้งกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อทริปให้มากยิ่งขึ้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงจำเป็นต้องบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มีการส่งเสริม ยกระดับ กิจกรรมระดับท้องถิ่นให้เป็นงานระดับนานาชาติ 

ขณะเดียวกัน ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และการตัดถนนเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ใช่เพียงเพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่นำมาซึ่งความสะดวกสบายของประชาชน และชุมชนในพื้นที่ สามารถสร้างความเจริญและความกินดีอยู่ดีของประชาชนในพื้นที่ และยังสร้างความปลอดภัยในการเดินทางอีกด้วย

ส่วนประเด็นคำถามถึงเงินอุดหนุนกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศต้องบรรจุในงบกลาง น.ส.สุดาวรรณ ชี้แจงว่า เป็นการนำเงินตราจำนวนมากจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทยในระยะเวลาอันสั้น และทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้ประเทศไทย ซึ่งประเทศต่างๆ ก็มีการนำเสนอมาตรการ Incentive (แรงจูงใจ) ให้กับผู้สร้างภาพยนตร์ เพื่อดึงดูดให้เข้ามาถ่ายทำในประเทศตนเอง ซึ่งไทยก็เช่นกัน เรามีมาตรการ Incentive อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายของการถ่ายทำภาพยนตร์ 

...

สำหรับการจ่ายเงินคืนตามมาตรการดังกล่าวของไทย จะเป็นการจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี แต่งบประมาณปี 2567 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกรมการท่องเที่ยว ได้จัดสรรกรอบวงเงินไว้ที่ประมาณ 185 ล้านบาท แต่กรมการท่องเที่ยวมีภาระที่ต้องจ่ายคืนให้ผู้สร้างภาพยนตร์ 545 ล้านบาท จึงต้องขอการจัดสรรจากงบกลาง เพื่อชำระคืนให้ผู้สร้างภาพยนตร์ต่างประเทศที่ได้รับสิทธิประโยชน์ได้ตามกำหนดเวลา อีกทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจผู้เข้ามาลงทุนในไทย

ทางด้านประเด็นที่มีผู้อภิปรายว่า งบประมาณของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพิ่มขึ้น 230% นั้น น.ส.สุดาวรรณ ตอบว่า ไม่เป็นตามข้อเท็จจริง แต่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ เฉพาะส่วนของราชการ ในปี 2566 เป็นจำนวนเงิน 5,295 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2567 ได้รับการจัดสรร 5,591 ล้านบาท คือเพิ่มขึ้น 296 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.59% 

นอกจากนี้ ในเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ซึ่งมีงบประมาณ 81.67 ล้านบาท เป็นค่าโฆษณา 71.1 ล้านบาท ซึ่งจำนวนนี้ไม่ใช่โฆษณา แต่เป็นการใช้จ่ายในการส่งเสริมการตลาด ประกอบด้วย 3 กิจกรรม คือ ส่งเสริมการขายผ่านกิจกรรมการเจรจาธุรกิจ (Trade Meet) ในต่างประเทศ เพื่อเสนอขายสินค้าและบริการสุขภาพของไทย, การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และสุดท้าย การจัด FAM Trip นำคณะสื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์ travel agent เดินทางมาจัดทำบทความ สารคดีท่องเที่ยวด้าน Health and Wellness เพื่อส่งเสริมและสร้างความเชื่อมั่นให้เดินทางมาไทยมากขึ้น

พร้อมกันนี้ น.ส.สุดาวรรณ ยังกล่าวในช่วงท้ายด้วยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดทำรูท (เส้นทาง) ใหม่ๆ อยู่ตลอด ซึ่งปี 2567 นี้ก็มีการบรรจุในเรื่องการท่องเที่ยวเมืองรอง รวมถึงจะมีการจัดโปรโมตเมืองรองเพื่อให้มีการท่องเที่ยวมากขึ้นด้วย ก่อนจบการชี้แจง 23.52 น.