“เศรษฐา” นำ ครม.ทำบุญขึ้นปีใหม่ 2567 ขอบ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง ชีวิตประชาชนดีขึ้น กำชับ ครม.น้อมนำพระราชดำรัสโอกาสวันขึ้นปีใหม่ มาเป็นแนวทางทำงาน มั่นใจเศรษฐกิจปี 67 กระเตื้อง สวน ธปท.ท้วงแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ให้ดูจีดีพีเพื่อนบ้านด้วย เหล่าทัพตบเท้าอวยพรให้มีกำลังใจทำงาน เปิดห้องนอนนายกฯตึกไทยคู่ฟ้า เตียงคิงไซส์โทนขาว-ครีม รัฐบาลประสานเสียงพร้อมแจงงบประมาณ “วันนอร์” เปิดช่องงบฯราชทัณฑ์โยง “ทักษิณ” ได้ เพื่อไทยขู่ฟ่ออย่าพาดพิง “นายใหญ่” ฝ่ายค้านไม่สนถ้าจำเป็นก็ต้องแตะ ก.ก.เล็งชำแหละจัดงบไม่แก้วิกฤติชาติ ปชป.ตอก พท.ตั้งงบฯกลาง 6 แสน ล. ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง นำคณะรัฐมนตรีทำบุญเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2567 ตักบาตรพระสงฆ์ 68 รูป ที่ด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนรับศึกอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของ สภาผู้แทนราษฎร วันที่ 3-5 ม.ค.
นายกฯ นำ ครม.ทำบุญขึ้นปีใหม่
...
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 2 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง พร้อม พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา เป็นประธานพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2567 มีรอง นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) เลขาธิการนายก รัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมพิธี โดยสมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ 10 รูป ทำพิธีเจริญน้ำพระพุทธมนต์ ประกอบด้วย สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี วัดไตรมิตรวิทยาราม พระพรหมกวี วัดกัลยาณมิตร พระพรหมวชิรมุนี วัดสุทัศนเทพวราราม พระธรรมโพธิมงคล วัดสระเกศ พระธรรมราชานุวัตร วัดโมลีโลกยาราม พระธรรมวชิรญาณ วัดบวรนิเวศวิหาร และพระธรรมวชิรมุนี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานสงฆ์ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ จากนั้นนายกฯ และคณะร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 68 รูป ที่ด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า สักการะพระพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้า ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตาศาลยาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่
ขอบ้านเมืองรุ่งเรือง-ปชช.ดีขึ้น
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า ขอพรให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง และชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น ขอให้มีแรงบันดาลใจเยอะๆในการทำงานและ ยังขอพรให้ ครม.ทั้งคณะด้วย เมื่อถามว่า ช่วงใส่บาตรสนทนาธรรมกับสมเด็จพระมหาธีราจารย์อยู่นาน นายกฯตอบว่า พอดีท่านรู้จักกับ พญ.พักตร์พิไลและคุณแม่ เมื่อถามว่า สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านพิษณุโลกด้วยหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ต้องดูตารางก่อน คงต้องมีเป็นธรรมเนียมไทยช่วงปีใหม่ เมื่อถามว่าที่บอกว่าได้ฤกษ์นอนทำเนียบรัฐบาลวันที่ 7 ม.ค. เป็น ฤกษ์อย่างไร นายเศรษฐาตอบว่า ไม่ทราบ แต่ฤกษ์มา อย่างนั้น เมื่อถามว่า แสดงว่าเป็นวันที่ดีใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า ก็หวังว่าเป็นอย่างนั้น วันที่ 7 ม.ค. ถือเป็นวันแรกที่สามารถเข้านอนได้ แต่อาจเป็นวันที่ 9, 12 หรือ 14 ม.ค. ไม่แน่ใจ จำไม่ได้ต้องไปดูอีกที แต่นอนก่อนวันที่ 7 ม.ค.ไม่ได้เพราะเป็นฤกษ์ จากนั้นนายกฯได้เป็นประธานการประชุม ครม.
กำชับ ครม.น้อมนำพระราชดำรัส
ต่อมา เวลา 10.10 น. นายเศรษฐาแถลงว่า ขอให้ ครม.น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ มาเป็นแนวทางการทำงาน การสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย เป็นเรื่องที่เราควรต้องทำตาม และเป็นปีมหามงคลด้วย เนื่องจากจะมีพระราชพิธีเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบหรือ 72 พรรษา
ทำเต็มที่มั่นใจ ศก.ปี 67 กระเตื้อง
นายเศรษฐายังกล่าวถึงความคาดหวังต่อเศรษฐกิจ ไทยในไตรมาสแรกว่า ขึ้นอยู่กับหลายอย่าง เราพยายาม ทำเต็มที่หวังว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ความจริงก่อนเข้ามาบริหารงานคิดว่าจะสามารถปล่อยเรื่องของดิจิทัลวอลเล็ตออกมาได้ในไตรมาสแรกประมาณ 1 ก.พ. หรือ 1 มี.ค.2567 แต่ตอนนี้ไม่ได้ เราก็พยายามหา วิธีอื่นมาทดแทน ไม่ว่าจะผ่านการท่องเที่ยว อย่างวีซ่าฟรีไทย-จีน เป็นการยกเว้นทั้งสองทางอย่างถาวร เมื่อถามว่า จากการเข้าบริหารประเทศพูดได้ใช่หรือไม่ ว่าเศรษฐกิจปีนี้จะดีกว่าปีที่ผ่านมา นายกฯตอบว่า ใช่ครับ พยายามทำเต็มที่ เหตุผลที่ทำให้มั่นใจด้วยหลายมาตรการที่เราพยายามออกมา ไม่ได้มีจุดไหน จุดเดียว เช่น ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ การเพิ่มรายได้ลดรายจ่าย การเจรจาสนธิสัญญาการค้า การเจรจาการลงทุน ซึ่งเห็นผลแล้วในแง่บริษัทยักษ์ใหญ่ ข้ามชาติมาลงทุน การทำให้ธุรกิจง่ายขึ้น และวันนี้มีการพูดคุยกันเรื่องวันสต็อปเซอร์วิสซึ่งยังไม่สำเร็จผล อยู่ในขั้นตอนดำเนินการ
สวน ธปท.ดูจีดีพีเพื่อนบ้านด้วย
เมื่อถามว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อยากให้ทบทวนเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต เพราะตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว นายกฯตอบว่า ไม่ทราบ ดูแต่ 1.5 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาส 3 มันไม่ดีครับ เดี๋ยวต้องดูไตรมาส 4 ด้วย อย่าลืมที่เรียนมาเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก จีดีพีไม่จำเป็นต้องติดลบก็ถือว่าอยู่ในภาวะที่หนักหนาอยู่เหมือนกัน ดูประเทศเพื่อนบ้านเราสื่อทราบดีอยู่แล้วขยายตัวเท่าไหร่
กำชับ รมต.ลงพื้นที่-จ่อถกงบฯ67
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุม ครม. นายเศรษฐาได้เชิญรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เข้าหารือที่ห้องเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า นายกฯเปิดเผยก่อนเข้าประชุมว่า ไม่ได้มีอะไรต้องกำชับเป็นพิเศษ เพียงแต่ไม่ได้เจอกันมา 1 เดือน คงเป็นการกำชับในเรื่องร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่จะเข้าสภาผู้แทนราษฎร และการลงพื้นที่ดูแลพี่น้องประชาชน รัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งฝ่ายบริหารพยายามเตือนกันว่าต้องลงพื้นที่ด้วย อย่าลืมพี่น้องประชาชน เพราะหลายท่านเป็น สส.อยู่ด้วย เป็นการสื่อสารทั้ง 2 ทาง รัฐมนตรีอาจอยากสื่อสารอะไรให้ตนทราบด้วยเช่นกัน เราอยู่ด้วยกันเป็นพาร์ตเนอร์กัน ต้องพูดคุยกันตลอด เมื่อถามว่าจะมีนัดกระชับมิตรกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายกฯตอบว่า ขอบคุณที่เตือน ครั้งต่อไปนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นเจ้าภาพ เดี๋ยวคงต้องไปทวง อยากให้ท่านเลี้ยงอยู่เหมือนกัน ยินดีอยู่แล้ว ช่วงส่งท้ายปีเจอกันที่หัวหินลืมทวงไป แต่เชื่อว่าท่านก็อยากกินอยู่ แต่บังเอิญยังยุ่งๆกัน
เหล่าทัพตบเท้าอวยพรให้กำลังใจ
จากนั้นนายกฯเปิดโอกาสให้ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. เข้าอวยพรปีใหม่ ผบ.ทร.เปิดเผยสั้นๆว่า อวยพรขอให้นายกฯมีกำลังในการพัฒนาประเทศต่อไป ขณะที่นายเศรษฐากล่าวขอบคุณกองทัพที่ทำงานอย่างเต็มที่ช่วยเหลือประชาชน และแก้ไขปัญหาของประเทศตามนโยบายรัฐบาล พร้อมให้พรปีใหม่ จากนั้น ข้าราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆเข้าอวยพร โดยนายกฯได้กล่าวขอบคุณสำหรับการทำงานที่ผ่านมา ถ้าหากตนในฐานะนายกฯช่วยเหลืออะไรได้ก็เต็มใจ ก่อนนายกฯมอบสมุดและปากกาเป็นของที่ระลึก
เปิดห้องนอนนายกฯตึกไทยคู่ฟ้า
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ระบุว่าได้ฤกษ์นอนค้างคืนหลังวันที่ 7 ม.ค.เป็นต้นไป ล่าสุดได้มีการเปิดเผยภาพห้องนอนนายกฯ ที่ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ที่ตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีเตียงนอนขนาดคิงไซส์สีครีม พร้อมชุดเครื่องนอนสีขาว หมอน 4 ใบ มีราวแขวนเสื้อผ้า ที่มีเสื้อของนายเศรษฐาแขวนอยู่ มีทีวี โคมไฟหัวเตียง โซฟา และผ้าม่านสีครีม
กระทุ้ง รมต.เร่งตีปี๊บผลงาน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ปกติมีการรับประทานอาหารร่วมกัน วันนี้นายกฯเน้นย้ำพวกเรามีงานทำเยอะ แต่การประชาสัมพันธ์มีไม่มาก อยากให้ทุกคนพูดในสิ่งที่ตัวเองทำ โดยเฉพาะที่ได้ทำมา 2-3 เดือนนี้ เริ่มมีผลงานออกมามากขึ้น ทั้งเรื่องที่ดิน เรื่องเรือประมง มีการจัดทำกฎหมาย 19 ฉบับ แก้ระเบียบต่างๆ วันนี้ชาวประมงเริ่มออกเรือได้ หลังปีใหม่มาผลงานจะเริ่มเห็นมากขึ้น ปีใหม่แล้วให้พวกเราทำงานอย่างเต็มที่ ประสานงานกันมากขึ้น และชี้แจงให้ประชาชนทราบในผลงานสิ่งที่ทำ
ประกาศยังไม่ถึงเวลาปรับ ครม.
นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. ที่มีชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่า ได้ยินเรื่องนี้มาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง แต่ยังไม่เคยเป็นจริง ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องปรับอะไร เราทำงานกันเต็มที่ทุกพรรค ไม่มีปัญหานี้ ยืนยันไม่ทำให้การทำงานว่อกแว่ก เพราะเราอยู่กับความเป็นจริง ความเป็นจริงตอนนี้เราร่วมมือ กันดีประสานงานกันดี เมื่อถามว่าทำไมกระแสข่าวนี้ถึงมีมาตลอด นายภูมิธรรมตอบว่า คนที่รู้ดีที่สุดน่าจะเป็นสื่อ เมื่อถามย้ำว่าคิดว่า น.ส.แพทองธารเหมาะเข้ามาในสถานการณ์ตอนนี้หรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า น.ส.แพทองธารกำลังทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรามียุทธศาสตร์เดิน 3 ขา คือพรรค สภาฯ รัฐบาล ทุกฝ่ายมีบทบาทหน้าที่ของตัวเอง ถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงคือให้มันจบกระบวนการที่ทำงานนี้อยู่ ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปถึงจุดนั้นค่อยว่ากัน ตอนนี้ยังไกลกว่าจะไปถึงจุดที่มีการสอบถาม
รัฐบาลโอ่พร้อมแจงทุกข้อกังขา
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลอดช่วง 114 วันเวลาที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ นำทัพรัฐบาลเดินหน้าทำงานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มุ่งมั่นแก้วิกฤติประเทศสร้างโอกาสยกระดับชีวิตพี่น้องประชาชน และพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯ ปี 67 อย่างรอบคอบรอบด้าน มั่นใจว่างบประมาณทุกบาททุกสตางค์จากภาษีพี่น้องประชาชนต้องนำไปสู่การแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชน สร้างประโยชน์ ส่งเสริมโอกาสการพัฒนาประเทศชาติอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย นายกฯเชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาล และเชื่อมั่นว่ารัฐมนตรี และ สส.ทุกคนในพรรคร่วมรัฐบาลรู้หน้าที่ตนเอง รวมทั้งเชื่อมั่นว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องชี้แจงทุกข้อกังขาทุกความกังวลให้หมดไป เพื่อสร้างความมั่นใจเชื่อใจต่อพี่น้องประชาชน
“อนุทิน” มั่นใจชี้แจงฝ่ายค้านได้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯว่า สส.มีสิทธิซักถามรัฐบาลอยู่แล้ว ถ้าเป็นเรื่องที่อยู่ในประเด็น ครม.ยินดีตอบ เมื่อถามว่าฝ่ายค้านเตรียมผู้อภิปรายไว้ถึง 50 คน นายอนุทินตอบว่า เขาคงเตรียมให้สอดคล้องกับเวลาที่ได้ เราเปิดให้อภิปรายถึง 3 วัน เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทย มั่นใจหรือไม่ว่าจะตอบคำถามได้ นายอนุทินตอบว่า กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่ดูแลสารทุกข์สุขดิบประชาชนทุกเรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่อธิบายได้ ได้งบฯมาเท่าไหร่ลงพื้นที่หมด ตัวเลข 4 แสนกว่าล้านบาท อย่าตกใจเลย เป็นของประชาชน 70-80% ของกระทรวงไม่ถึง 20% เหมือนการเอางบมาฝากไว้มากกว่า
อวย “อุ๊งอิ๊ง” เป็นยิ่งกว่า รมต.ยังได้
นายอนุทินยังกล่าวถึงกระแสข่าวปรับ ครม.หลังปีใหม่ มีชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มาเป็นรัฐมนตรีว่า ให้ความเห็นไม่ได้ ไม่ใช่พรรคที่ตนเกี่ยวข้อง ต้องไปถามพรรคเพื่อไทย แต่ น.ส.แพทองธารเป็นหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว ลูกพรรคยังเป็นรัฐมนตรีได้เลย ทำไมหัวหน้าพรรคจะเป็นไม่ได้ “เป็นยิ่งกว่านั้นยังได้เลย” เมื่อถามว่ามั่นใจว่า น.ส.แพทองธารมีศัยกภาพมากพอใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า น.ส.แพทองธารเป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อถามย้ำว่าคิดว่า น.ส.แพทองธารเหมาะกับ กระทรวงไหน นายอนุทินตอบว่า ถามเรื่องอื่นที่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทยดีกว่า
“ท็อป” ดักคอไม่ควรโยงคนนอก
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีพรรค ฝ่ายค้านเตรียม สส.ไว้อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณไว้กว่า 50 คน เหมือนเป็นการซักฟอกรัฐบาลไปในตัวว่า เราเพิ่งทำงานมาได้ 3-4 เดือน ถ้ามีข้อแนะนำหรือมีข้อสังเกตไหน เชื่อว่ารัฐบาลและรัฐมนตรี ยินดีรับไปแก้ไข เมื่อถามว่าถ้ามีการดึงเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯมาอภิปราย นายวราวุธตอบว่า ยังไม่เกิดเหตุอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ อาจไม่มีการพูดถึงก็ได้ ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ หากจะมีพูดพาดพิงถึงเรื่องนี้ก็เป็นการไม่ควร เพราะเอ่ยถึงบุคคลภายนอกที่ไม่สามารถชี้แจงในสภาได้ ส่วนกระแสข่าวการปรับ ครม. โดยดึง น.ส.แพทองธารเข้ามาร่วม ถือเป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธารเป็นหัวหน้าพรรค คุณสมบัติที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมั่นใจว่ามีครบถ้วน แต่หากจะปรับภาพรวมทั้งหมด คงต้องมานั่งคุยกันก่อนว่ามีแนวทางอย่างไร แต่ไม่ได้ขัดข้องอะไร
“วันนอร์” เปิดช่องโยง “ทักษิณ”
ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่กังวลว่าจะมีการใช้การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯเป็นเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจย่อยๆ เพราะสมาชิกทุกคนพัฒนาแล้ว การอภิปรายในสภามีการพัฒนาไปมาก ถ้าฝ่ายค้านมีอะไรตำหนิจริงๆก็เพื่อให้รัฐบาลแก้ไข จะได้เห็นการพัฒนารูปแบบใหม่ที่ฝ่ายค้านและรัฐบาลตั้งใจทำให้เกิดประโยชน์ สภาจะเปิดโอกาสให้อภิปรายเต็มที่ตามข้อบังคับการประชุม ส่วนการอภิปรายในส่วนงบฯของกรมราชทัณฑ์ ที่อาจพาดพิงถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงงบประมาณก็อภิปรายได้ แต่หากไม่เกี่ยวกับงบประมาณต้องไปตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล สภายุคนี้พัฒนาไปเยอะ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ต้องมีองครักษ์พิทักษ์รัฐบาล คอยประท้วง ทุกอย่างเป็นไปตามข้อบังคับ
หมดยุค สส.ตบทรัพย์งาบงบฯ
นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวต่อว่า ส่วนที่ฝ่ายค้านท้วงติงรัฐบาลที่ให้เวลาศึกษารายละเอียดร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯน้อยมาก เรื่องเวลาเป็นเรื่องที่สมาชิกตกลงกันเอง ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบเวลา แต่ละคนไม่ใช่จะอภิปรายงบประมาณทั้งหมด ต้องแบ่งกัน ทั้งหมดน่าจะเป็นไปด้วยดี เมื่อถามว่าจะกำชับ สส.อย่างไรเพื่อป้องกันข้อครหาเรียกรับเงินในการพิจารณางบประมาณ นายวันนอร์ตอบว่า ยุคนี้ไม่มีแล้ว เป็นยุคคนรุ่นใหม่ ประชาชนตรวจสอบอยู่ ใครทำไม่ดี เรียกทรัพย์ ตบทรัพย์จะไม่ได้รับเลือกเข้ามาอีก ทุกคนต้องระวัง เชื่อว่าคงไม่มีแล้ว
พท.ขู่ฟ่ออย่าพาดพิง “นายใหญ่”
ช่วงบ่ายที่รัฐสภา มีการประชุมวิปรัฐบาล มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย รองประธานวิปรัฐบาล เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 นายวิสุทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่กังวลรัฐมนตรีทุกคนเตรียมตัวกันดี เชื่อว่าการประชุมจะราบรื่นไม่มีปัญหาเกิดขึ้น ส่วนที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายโยงถึงนายทักษิณ ชินวัตร ในส่วนของงบประมาณกรมราชทัณฑ์นั้น โดยหลักการไม่ควรไปแตะต้องบุคคลภายนอก ฝ่ายค้านไม่ควรเอาการเมืองมาเล่นในสภาฯ ยังไม่ถึงเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หากพาดพิงถึงบุคคลภายนอกอาจไม่ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองในสภาฯ และถูกฟ้องกลับได้ แต่หากพาดพิงถึงนายทักษิณ รัฐบาลก็พร้อมชี้แจงระเบียบ กรมราชทัณฑ์ฉบับใหม่เรื่องการคุมขังนักโทษนอกเรือนจำ ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2563 เป็นเรื่องที่นักโทษทุกคนได้ประโยชน์ ไม่ได้เอื้อประโยชน์คนใดคนหนึ่ง
ฝ่ายค้านไม่สนขอแตะ “ทักษิณ”
ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ในการประชุมวิปฝ่ายค้านวันที่ 2 ม.ค. เชิญ 3 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ แล้วสภาพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติ (สศช.) มาชี้แจงสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ มีเหตุผลปรับเปลี่ยนงบประมาณด้านต่างๆอย่างไร ส่วนที่ฝ่ายรัฐบาลขอไม่ให้โยงถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนั้น สส.ทุกคนทราบอยู่แล้ว วาระที่จำเป็นและเกี่ยวข้องก็ต้องพูดถึง ถ้าวาระที่ไม่เกี่ยวข้องก็ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงบุคคลภายนอก ส่วนการแบ่งเวลาการอภิปราย จะแบ่งเวลาให้พรรคเล็กด้วย
ชำแหละจัดงบไม่แก้วิกฤติ ศก.
นายปกรณ์วุฒิกล่าวต่อว่า หัวข้อที่พรรคก้าวไกลจะเน้นย้ำคือ การจัดสรรงบประมาณครั้งนี้ไม่แก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจประเทศตามที่รัฐบาลพูดมาตลอด ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงการจัดสรรงบเปลี่ยนไปจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอนที่รัฐบาลรับตำแหน่งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯฉบับนี้ก็พร้อมเข้าสภาอยู่แล้ว แต่เมื่อล่าช้าขนาดนี้เราจึงคาดหวังเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่กลับไม่เห็นแตกต่างจากรัฐบาลที่แล้ว เป็นการจัดงบประมาณที่ผิดปกติ ฝ่ายค้านจะชี้ให้เห็นว่าการมีวิกฤติเศรษฐกิจแล้วจัดงบเช่นนี้ สะท้อนการมีวิกฤติประเทศจริงหรือไม่ การอภิปรายครั้งนี้จะเข้มข้นไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา ช่วงวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมาใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนฟังการซักซ้อมอภิปรายของ สส.ก้าวไกลแต่ละคน เชื่อว่าจะเป็นไปด้วยความราบรื่น แต่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปีหน้า ขอให้ ครม.ส่งเอกสารมาให้เร็วกว่านี้ ไม่อยากใหใช้วิธีมัดมือชกแบบนี้ เป็นการไม่ให้เกียรติสภา
ตอก พท.ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวหลังพิจารณาเอกสารงบประมาณ เห็นว่ามีการจัดสรรงบกลางสูงขึ้นต่อเนื่อง นับแต่ปีงบประมาณ 2563- 2567 มีการจัดสรรงบกลางไปแล้วกว่า 2.9 ล้านล้านบาท เฉลี่ย 5.8 แสนล้านบาทต่อปี ในปีงบประมาณ 2567 มีการจัดสรรงบกลางกว่า 6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น จากปีที่แล้ว 16,295 ล้านบาท มากที่สุดในกลุ่มประเภทรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรร ส่วนใหญ่เป็นงบค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐ ถึงร้อยละ 82.9 และเป็นงบเพื่อสำรองจ่ายในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 98,500 ล้านบาท ขอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการตีเช็คเปล่าให้นายกฯ หรือไม่ เพราะทราบกันดีว่างบกลางเป็นงบที่ตรวจสอบยากที่สุด ย้อนไปฟังคำอภิปรายของ สส.หลายท่าน วันนั้นยังนั่งทำหน้าที่ฝ่ายค้านอยู่ วิจารณ์รัฐบาลชุดที่ผ่านมาใช้งบกลางเป็นจำนวนมาก มาวันนี้กลับทำในสิ่งที่เคยพูดไว้ในอดีต แบบนี้เข้าข่าย “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง”
“ชัยชนะ” โวทวงสัญญานโยบาย
นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคเตรียมบุคคลและเนื้อหาที่จะอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯไว้แล้ว จะชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลขาดการให้ความสำคัญในการใช้งบฯเพื่อเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนนโยบายให้เกิดผลสัมฤทธิ์ จนกลายเป็นว่าสิ่งที่รัฐบาลหาเสียงกับประชาชนเหมือนเป็นการตีเช็คเปล่า เช่น นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ปริญญาตรี 25,000 บาท นโยบายส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ กลับกลายเป็นว่าจะเป็นเวทีให้ชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ติดหูติดตาประชาชน แต่ไม่ปรากฏว่ามีการวางแผนและงบประมาณแต่อย่างใด ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ หวังแค่กระแสเป็นครั้งคราวและเงียบหายไป แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ก็ไม่มีในรายการร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ
ปชป.จับตาอำนาจแทรก ปตท.
ด้านนายชนินทร์ รุ่งแสง ว่าที่รองเลขาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ มีการเปลี่ยนแปลงภายใน ปตท. เปลี่ยนประธานกรรมการ ปตท.ถึง 3 ครั้ง เริ่มตั้งแต่ ประธานคนเดิม คือนายทศพร สิริสัมพันธ์ อดีตเลขาธิการสภาพัฒน์ มาเป็นนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน ทั้งคู่ดูเหมาะสม ล่าสุดเป็นนายฉัตรชัย พรหมเลิศ มีเสียงวิจารณ์ว่าไม่มีคุณสมบัติ ไม่มีความรู้ความสามารถ ไม่เหมาะกับการกำกับดูแลบริษัทแห่งนี้ ถือว่าผิดฝาผิดตัว ถึงแม้ทุกฝ่ายทราบดีว่านายฉัตรชัยเปรียบเหมือน “มิสเตอร์คอนเนกชัน” ประสานได้ทุกฝ่ายก็ตาม ที่ผ่านมา ปตท.ถือเป็นขุมสมบัติที่มีทรัพย์สินและยอดขายกว่า 3.5 ล้านล้านบาท ขอให้รัฐบาลหยุดแทรกแซง และจัดให้มีการกำกับดูแลที่ดีที่เหมาะสม ไม่ให้กลุ่มอำนาจเข้าไปมีผลประโยชน์ เพื่อให้การทำงานของบริษัทยึดผลประโยชน์ของทุกภาคส่วนอย่างดีที่สุด
“พีระพันธุ์” รื้อกองทุนบ่อน้ำบาดาล
อีกเรื่อง นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.รับทราบข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อป้องกันการทุจริต กรณีโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจาก “กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน” ในกลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก โครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร สำหรับบ่อบาดาล โดย ป.ป.ช.ได้ศึกษาพบประเด็นที่อาจนำไปสู่การทุจริตและประพฤติมิชอบ 7 ประเด็น อาทิ การจัดสรรงบประมาณ การยื่นขอโครงการต่อกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน การจัดซื้อจัดจ้าง โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯสอบถามนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว. พลังงาน ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร นายพีระพันธุ์ระบุว่า โครงการนี้ส่อไปในการใช้เงินผิดประเภท ทำผิดวัตถุประสงค์กองทุน โดยจะไปรื้อโครงการทั้งหมดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ
เผย กอ.รมน.ภาค 3 ต้นขั้วเรื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรายงานของ ป.ป.ช.โครงการ ดังกล่าวเป็นโครงการของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 3 (กอ.รมน.ภาค 3) ในพื้นที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ จากการตรวจสอบพบว่าผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ในไทย ที่ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) มี 4 บริษัท และผู้ผลิตอินเวอร์เตอร์สำหรับปั๊มน้ำจากโซลาร์เซลล์ก็มีผู้จำหน่าย 1 บริษัท ทำให้เหลือผู้ประกอบการไม่กี่รายที่มีสินค้าเพื่อให้ดำเนินโครงการได้ตรงตามคุณสมบัติที่กำหนด ดังนั้นการกำหนดแบบและลักษณะของการจัดซื้อจัดจ้าง อาจเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการบางกลุ่มได้
“จุลพันธ์” ยันไม่ก้าวก่ายกฤษฎีกา
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบการสอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการเดินหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต จะได้รับคำตอบเมื่อไหร่ว่า คณะกรรมการกฤษฎีกากำลังพิจารณาอยู่ เราไม่สามารถก้าวก่ายได้ เมื่อถามว่าหากมีคำตอบมาอย่างไรรัฐบาลต้องดำเนินการตามนั้นใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ตอบว่า ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นความเห็นทางกฎหมาย เมื่อถามย้ำว่าตามระเบียบแล้วไม่ต้องทำตามก็ได้ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ตอบว่า ตามระเบียบก็เป็นเช่นนั้น แต่เราคงต้องรับฟังเป็นหลัก ไม่กังวลอะไรถือเป็นอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน เราต้องให้เกียรติและให้เวลาเขาพิจารณาอย่างรอบคอบ เมื่อเขาแจ้งว่าจะได้รับคำตอบช่วงต้นเดือน ม.ค. เราก็ต้องรอไปทวงถามไม่ได้
“ชวน” ชี้ทางลงดิจิทัลวอลเล็ต
นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาข้อกฎหมายกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า เห็นนายกฯระบุว่าคนค้านมองเป็นเรื่องการเมือง แต่กลุ่มอดีตผู้ว่าการ ธปท.ที่ออกมาคัดค้าน คนเหล่านี้ไม่ได้มองการเมือง เขาท้วงก็มีเหตุผล ผู้ว่าการ ธปท.พูดดีไม่ควรแก้ปัญหาด้วยวิธีเหวี่ยงแห ปลาเล็กปลาใหญ่ติดหมด ควรช่วยปลาตัวเล็กๆ หรือปลาใหญ่จับไป แต่ตัวเล็กควรปล่อยให้โตขึ้นมา ฉะนั้นคนเดือดร้อนคนจนช่วยเหอะ แต่อย่าช่วยด้วยวิธีทำให้คนอ่อนแอ ส่วนคนมีฐานะอย่าไปทำให้พฤติกรรมเสีย ค่านิยมเสีย ทำให้วินัยของบ้านเมืองเสียไป เมื่อถามว่าเคยพูดถึงมุมที่ออก พ.ร.บ.เงินกู้ระวังจะติดคุก นายชวนตอบว่า รัฐบาลโชคดี มีคน ช่วยศึกษาให้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกฎหมายอะไรบ้าง มีตัวอย่างกรณีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลก่อนหน้านั้น โอกาสนี้รัฐบาลควรระดมความคิดเหล่านี้ จะเป็นนักการเมืองหรือนักวิชาการหรือใครก็ได้มาตรองดูอาจเป็นประโยชน์
ครม.ไฟเขียว “วิม” นั่งบอร์ดรถไฟ
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 7 ราย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ประกอบด้วย นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมขนส่งทางบก เป็นประธานกรรมการ มีกรรมการ 6 คน อาทิ นายวิม รุ่งวัฒนจินดา คณะทำงานใกล้ชิดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ นายอาทิตย์ สุริยาภิวัฒน์ ที่ปรึกษาของนายกฯ พร้อมกันนี้ยังมีการแต่งตั้งประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จำนวน 5 ราย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ประกอบด้วย นายสราวุธ ทรงศิวิไล เป็นประธานกรรมการ นายอาทิตย์ สุริยาภิวัฒน์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
“กนิษฐ์-แรมโบ้” นั่งบอร์ดการนิคม
น.ส.เกณิกากล่าวอีกว่า ที่ประชุม ครม.มีมติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จำนวน 10 ราย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ประกอบด้วย นายยุทธศักดิ์ สุภสร เป็นประธานกรรมการ กรรมการ 9 คน อาทิ พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา อดีต สว. เพื่อนร่วมรุ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่