ระทึกขวัญ หวุดหวิดเป็นโศกนาฏกรรมส่งท้ายปี โชคดีไม่มีผู้เสียชีวิต “สังเวยความชุ่ย” อุบัติเหตุรางจ่ายไฟรถไฟฟ้าสายสีชมพูหลุดร่วงเกี่ยวสายไฟฟ้าแรงสูง เสาหักล้มระเนระนาด ฟาดรถยนต์ของประชาชนพังยับเยินต้องหยุดเดินรถกะทันหัน
ทั้งๆที่เพิ่งตัดริบบิ้น เปิดให้บริการได้ไม่ถึงเดือน
มาตรฐาน “ช่างเถอะ” กระตุกเครื่องหมายคำถามตัวโตๆถึงผู้รับเหมา ก่อสร้างยักษ์ใหญ่ บริษัทเอกชนขาใหญ่เจ้าของสัมปทาน
คานเหล็กกระแทกไปถึง “ขุนเขาเมืองกาญจน์” นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม กำกับดูแลกรมขนส่งทางราง ฟาดหางไปถึง “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย แก่งอาณาจักรซิโน-ไทย
เหมาขบวน “น้องนมเย็น” ตามเงื่อนพันธนาการ กลุ่มทุน “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ” สปอนเซอร์อย่างไม่เป็นทางการของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
แบกรับเสียงด่า แชร์ความรับผิดชอบกันไปเนื้อๆเน้นๆ
กลายเป็นภาพช้ำๆของฝ่ายบริหาร รัฐบาลผสมที่ถูกมองว่าเป็นตัวแทนอำนาจของกลุ่มทุนผูกขาด
ในสถานการณ์หักมุมสวนทางกับทีมคนรุ่นใหม่ที่ยกระดับการเป็นตัวแทนของประชาชน อาสาเป็นผู้รักษาผลประโยชน์ของพลเมืองรากหญ้า
ล่าสุด ผลการเลือกตั้งคณะกรรมการ (บอร์ด) ประกันสังคม จำนวน 14 คน ปรากฏ “ทีมประกันสังคมก้าวหน้า” แนวร่วมของกองทัพส้ม พรรคก้าวไกล กวาดชัยชนะในส่วนของตัวแทนลูกจ้าง ไปถึง 6 ที่นั่ง จาก 7 ที่นั่ง
ผู้สมัครโดนจับแพ้ฟาวล์ ตัดสิทธิสมัครไป 1 คน
ผลที่ออกมาสะท้อนนัย ต่อไปนี้จะมีตัวแทนของกองทัพส้มเข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในบอร์ดประกันสังคม เป็นปากเป็นเสียงดังๆของผู้ประกันตน คานอำนาจกับฝ่ายตัวแทนนายจ้าง
...
ผลักดันสิทธิประโยชน์ของลูกจ้างอย่างจริงๆจังๆ มีพลังต่อรอง
ที่สำคัญเหนืออื่นใด บอร์ดประกันสังคมแนวร่วมของฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล จะเล่นบท “กระดูกขวางคอ” ฝ่ายบริหารรัฐบาล โดยกระทรวงแรงงาน จะผลาญ “ขุมทรัพย์ประกันสังคม” มูลค่าเป็นแสนล้านไม่ง่ายอีกต่อไป
จากจุดเล็กๆการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ตามเงื่อนไขที่โยงไปกับกระแสการเมืองในภาพใหญ่
ทีมงานกองทัพส้มที่เดินยุทธศาสตร์ “เคลม” เป็นตัวแทนประชาชน กระบอกเสียงคนใช้แรงงาน ปักธงฝ่ายประชาธิปไตยสู้กับฝ่ายคุมเกมอำนาจ
เป้าหมายอยู่ที่การกวาด สส.แบบเหมาทั้งแผ่นดิน แหกด่านสกัดของฝ่ายอนุรักษ์นิยม เป็นรัฐบาลพรรคเดียวในศึกเลือกตั้งรอบต่อไป
ในจังหวะรุกคืบเข้าใกล้ความจริงไปเรื่อยๆ
ตามปรากฏการณ์ที่พิสูจน์ได้ในทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ไสยศาสตร์หมอดู ยกเมฆ ยืนยันด้วยตัวเลขทางสถิติจากสารพัดโพล
สดๆร้อนๆ สำนักมาตรฐาน “นิด้าโพล” ไปยันโพล “ไลน์”
เปิดผลสำรวจความนิยม “ที่สุดแห่งปี” 2566 ออกมาตรงกัน โฟกัสไปที่ชื่อของ “หนุ่มทิม” นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกฯของพรรคสีส้ม
กวาดเรตติ้งมาเป็นอันดับหนึ่งแบบม้วนเดียวจบ
แม้แต่เหตุการณ์การเมืองแห่งปี ยังเป็นฉากที่ “นายกฯด้อมส้ม” พลาดหวังตำแหน่งผู้นำประเทศไทยคนที่ 30 ไม่ผ่านด่านอรหันต์ “250 สว.ลากตั้ง”
ภาพจำของ “ว่าที่นายกฯพิธา” ยังติดอยู่ในมโนของคนส่วนใหญ่ในสังคม
อารมณ์ผู้นำในฝันของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ต้องลุ้นพลิกคว่ำพลิกหงาย ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟันธงคดี “หนุ่มทิม” ถือหุ้นสื่อไอทีวี ในวันที่ 24 มกราคม 2567
“พิธา” ต้องฝ่าวิบากกรรมเก่าไปสู่ความหวังการเมืองใหม่
ในจังหวะหักมุมกับผู้นำรัฐบาลผสมเพื่อไทยที่ถูกลากกลับไปสู่วังวนเก่า ตามสภาพบังคับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง เด้งเชือกไม่ออก
อาการ “น้ำท่วมปาก” อึกๆอักๆ ยืนยันปมร้อนว่าด้วยระเบียบราชทัณฑ์ใหม่ ไม่ได้เอื้อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ต้องคุมขังในเรือนจำ
ผู้นำต้องพูดในเรื่องที่คนเชื่อกันไปแล้ว แนวโน้มจึงไม่พ้นถูกมองว่า “แก้ตัว”.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม