“ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ชี้ต้นตอ PM 2.5 กทม.สูงเพราะรถเครื่องยนต์ดีเซลเก่าเกิน 7 ปี เตรียมออกมาตรการปลายสัปดาห์นี้จูงใจให้มาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไส้กรองในราคาถูก ชี้ใช้รถพ่นน้ำช่วยได้แค่ความรู้สึก หยุดฉีด ฝุ่นก็กลับมาหนักกว่าเดิม

วันที่ 13 ธ.ค. 2566 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวระหว่างมาพบนายกรัฐมนตรี เพื่อสำรวจค่าฝุ่นย่านแยกราชประสงค์ ว่า หากดูการประมวลผล และคาดการณ์วันพรุ่งนี้ค่าฝุ่นจะหนักกว่าวันนี้อีก และไปหนักสุดวันที่ 17 ธ.ค. แต่หลังวันที่ 18 ธ.ค. ค่าฝุ่นก็จะลดลง อากาศจะถ่ายเทดีขึ้น ปีนี้การคำนวณค่าฝุ่นเข้มข้นขึ้น อาจจะดูว่ารุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา แต่ตัวเลขไม่ได้ขยับขึ้นเพียงแต่สีมันเปลี่ยนตามมาตรฐานที่เข้มข้น ส่วนในกรุงเทพมหานครต้องดูแลทุกพื้นที่ ขณะที่ต้นตอของปัญหาฝุ่น PM 2.5 คิดว่ามาจากรถยนต์พื้นที่ไหนที่มีการจราจรแออัดหนาแน่นบวกกับสภาพอากาศที่กดลงมามากทำให้อากาศไม่ถ่ายเท อัตราการไหลเวียนของอากาศจึงน้อย พร้อมฝากทุกคนให้ช่วยกัน โดยเฉพาะคนที่ใช้รถเครื่องยนต์ดีเซลที่อายุเกิน 7 ปี ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 1 ล้านคัน รถเหล่านี้ถึงแม้จะผ่านการตรวจควันดำ แต่ก็ยังปล่อย PM 2.5 ออกมาจำนวนมาก จึงต้องไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และไส้กรอง ซึ่งที่ผ่านมากรุงเทพมหานครก็มีมาตรการร่วมกับกระทรวงพลังงาน แต่ภายในปลายสัปดาห์นี้ก็จะออกมาตรการเพื่อดึงดูดใจคนที่ใช้รถเครื่องยนต์ดีเซล และเครื่องยนต์เก่ามาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และไส้ในราคาที่ถูกลง โดยจะร่วมมือกับค่ายรถยนต์ และบริษัทผลิตน้ำมัน นั่นคือหัวใจในการแก้ปัญหาตอนนี้เลย 

ผู้ว่าฯ กทม. บอกอีกว่า หลังจากนี้จะติดตาม และประมวลผลอย่างเข้มงวด หากอีกสองวันค่าฝุ่นสูงขึ้นมาก ก็จะออกประกาศให้ประชาชน WFH คนที่ออกกำลังกายกลางแจ้งก็ขอให้งดก่อน ส่วนข้อเสนอที่จะใช้รถพ่นน้ำนั้นอาจจะช่วยได้แค่ความรู้สึก แต่แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะเมื่อหยุดพ่นน้ำก็จะมีปริมาณฝุ่นเข้ามาเติมแทนทันที แม้ปีนี้คนจะหันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ลดปริมาณของควันพิษควันดำที่ปล่อยออกมา เพราะเครื่องยนต์รถดีเซลยังมีใช้ในการพาณิชย์

...

ผู้สื่อข่าวยังได้ถามผู้ว่าฯ ชัชชาติ ว่า เมื่อช่วงเช้าหลังจากไปวิ่งออกกำลังกายได้เห็นสภาพฝุ่นในช่วงเช้าหรือไม่ โดยนายชัชชาติตอบว่าช่วงนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 ค่อนข้างหนัก จึงเปลี่ยนการออกกำลังกายมาวิ่งในยิมแทน.