“เศรษฐา” ควง รมว.อุตสาหกรรม ดูฝุ่น PM 2.5 แยกราชประสงค์ ชี้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือ ย้ำพื้นที่ กทม. ต้องมีการฉีดน้ำ และตรวจเครื่องรถยนต์ให้มากขึ้น ยัน ไม่นิ่งนอนใจ เร่งแก้ปัญหา อย่าใช้คำว่าเป็นฤดูกาล เชื่อ สถานการณ์จะดีขึ้น

วันที่ 13 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่โรงแรมโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เดินสังเกตการณ์ปริมาณฝุ่นละอองที่บริเวณแยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน หลังค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนพื้นที่ กทม. และปริมณฑล พร้อมกล่าวว่า วันนี้ฝุ่นละอองเยอะมาก ซึ่งปัญหาดังกล่าวก็ได้กำชับไปกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนักธุรกิจต่างๆ ในเรื่องของการก่อสร้าง ตึกและอาคารไหนที่สามารถฉีดน้ำได้ก็ขอให้ช่วยกันฉีดไป 

นายเศรษฐา ระบุต่อไปว่า รมว.อุตสาหกรรม ยืนยันมีการกำกับและควบคุมขอร้องการเผาอ้อย ซึ่งเป็นช่วงฤดูไฮซีซั่นพอดี เชื่อว่าทุกคนให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว เชื่อว่าแนวโน้มจะไปในทิศทางที่ดี และเชื่ออีกว่าทุกคนไม่มีใครจะนิ่งนอนใจในปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว เนื่องจากกระทบกับทุกภาคส่วน ทั้งเรื่องของการท่องเที่ยว รวมถึงสุขภาพ 

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาในพื้นที่ กทม. จะแก้ไขปัญหาควันดำจากรถยนต์ได้อย่างไร เนื่องจากหลายพื้นที่ของ กทม.มีสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เข้าขั้นวิกฤติ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องที่เราต้องดูแล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องกำกับดูแล โดยเฉพาะการตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ เมื่อถามย้ำว่าบทลงโทษในปัจจุบันอาจจะเบาไป ทำให้เกรงกลัวต่อกฎหมาย นายกรัฐมนตรี เผยว่า ความจริงไม่ใช่ปัญหาเรื่องของควันดำหรือควันขาวอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องของการตรวจสภาพเครื่องยนต์ รถยนต์ต่างๆ รวมทั้งการเปลี่ยนถ่ายมาเป็นรถอีวีถือเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้ทุกฝ่ายต้องช่วยกันทุกที่ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องของการเผาป่า เผาอ้อย เผาตอซังข้าวโพด ต้องดูแลทั้งหมด

...

ส่วนคำถามว่าเหมือนเป็นฤดูกาล เมื่อถึงช่วงเวลานี้ก็จะเกิดปัญหาดังกล่าว รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้อย่างไร นายเศรษฐา ตอบว่า ไม่อยากให้ใช้คำว่าเป็นฤดูกาล เพราะถ้าใช้คำดังกล่าวแสดงว่าเรายอมรับปัญหา แต่เป็นเรื่องที่เราต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และอย่ายอมรับมัน เรารู้อยู่แล้วว่าปัญหาจะมาในช่วงนี้ แต่อย่าไปคิดว่าเดี๋ยวมันก็มา อยู่ๆ ไปเดี๋ยวจะหายไปเอง มันไม่ใช่ เราต้องช่วยกันทุกคน รมว.อุตสาหกรรม ก็อยู่ด้วย ณ ที่นี้ก็ได้กำกับดูแล มีความเป็นห่วงเป็นใย และไม่เคยอ้างว่าเป็นช่วงฤดูกาลเดี๋ยวก็หมดไปเอง มันไม่ใช่ เรื่องนี้เราต้องดูแลเอาใจใส่ เพราะเป็นเรื่องสุขภาพของพี่น้องประชาชน ยืนยันว่ารัฐบาลดูแลอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามต่อ ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมมีมาตรการอะไรจะดูแลเพื่อลดผลกระทบในช่วงนี้บ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รมว.อุตสาหกรรม ทำเต็มที่อยู่แล้ว มีการกำกับดูแลโดยเฉพาะโรงงานหีบอ้อย และผู้ประกอบการต่างๆ เมื่อถามถึงพื้นที่ กทม. และปริมณฑลที่ไม่ใช่ปัญหาจากอุตสาหกรรมภาคการเกษตร นายเศรษฐา ระบุว่า ก็ต้องดูแล โดยเฉพาะเรื่องของรถควันดำ ควบคุมดูแลในเรื่องของวิธีการก่อสร้างในโครงการต่างๆ รวมทั้งการฉีดน้ำก็ต้องมีให้เยอะมากขึ้น.