ภาวะฉุกเฉิน ด่วนจี๋ เป็นตายยิ่งกว่า “หนี้นอกระบบ”

ตามตัวเลขล่าสุด สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ “GISTDA” เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ด้วยดาวเทียม พบ 15 จังหวัดของประเทศไทย

“สีแดงเถือก” ค่าฝุ่นควันพิษเกินมาตรฐาน กระทบต่อสุขภาพประชาชน

ฉะเชิงเทรา อ่างทอง สมุทรสาคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม อยุธยา สระบุรี ลพบุรี ชลบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี

โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร พบฝุ่น PM2.5 ระดับแดงเถือกทุกเขต

ขณะที่อีก 32 จังหวัด อยู่ในระดับสีส้ม ค่าฝุ่นพิษเกินมาตรฐาน เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพชาวบ้านร้านตลาด สถานการณ์เสี่ยง “อันตราย” ไม่น้อยไปกว่ากัน

มฤตยูฝุ่นควันพิษ PM2.5 ไม่ใช่แค่จ่อหน้าปากประตู แต่มันบุกถึงในบ้าน ทะลุไปถึงปอด หัวใจ หลอดเลือด ส่งผลต่ออวัยวะภายในร่างกาย ก่ออาการเจ็บป่วยระบบทางเดินหายใจ

ที่น่าตกใจ ข้อมูลทางการแพทย์ยืนยัน การสูดฝุ่นควันพิษ PM2.5 นานๆ กระทบต่อการพัฒนาการระบบสติปัญญาของเด็กเล็ก

อาการป่วยระยะสั้น ผลกระทบระยะยาวถึงตาย ตัวอย่างที่เห็นกันชัดๆ กรณีของ นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล หมอหนุ่มวัยแค่ 30 ต้นๆ ร่างกายแข็งแรง ออกกำลังกาย ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ต้องสังเวยชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด ที่เจ้าตัวระบุว่า ต้นเหตุหนึ่งมาจากสูดฝุ่นควันพิษ

เซ่นด้วยชีวิต “หมอกฤตไท” เตือนให้ตระหนักถึงภัยใกล้ตัว

อารมณ์แบบที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง รู้สึกสะเทือนใจ ถือโอกาสแถลงจุดยืน ในฐานะนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้ทำให้ตระหนักถึงปัญหา PM2.5 ไม่ใช่แค่มลพิษ

แต่เป็นปัญหาสุขภาพที่พรากชีวิตคนที่เรารักไปก่อนเวลาอันสมควร

...

ผู้นำขึงขัง ตั้งท่าลุยสู้เต็มที่ พร้อมร่วมกันผลักดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาด เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานประชาชน

“ไฟต์บังคับ” ไม่ใช่แค่อีเวนต์กระตุกกระแสวูบวาบ บทถนัดเซียนการตลาด

มฤตยูฝุ่นควันพิษ PM2.5 เลยจุด “วาระแห่งชาติ” ไปแล้ว

ผู้นำรัฐบาลต้องจัดลำดับอยู่ในขั้นวิกฤติเป็นตาย ฉุกเฉิน ด่วนจี๋ จริงจัง ก่อนอื่นเลย ต้องเติมฟืนเร่งไฟ เพิ่มกำลังขับเคลื่อนรถจักรไอน้ำ ฟันเฟืองหลักอย่าง “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ที่เนือยๆเฉื่อยๆ สวนทางกับวิกฤติเร่งด่วน

เงียบเกิน จนประชาชนไม่รู้จะฝากความหวังกับใคร

ลำพังแค่เป็นประธานหัวโต๊ะ “บิ๊กป๊อด” นั่งประชุมในห้องแอร์ เทกแอ็กชันโชว์ภาพข่าวให้เห็นเป็นพักๆ สั่งการหน่วยราชการรับมือฝุ่น PM2.5 เนื้อหาเดิมๆ จ่ายงานรูทีนไปวันๆ

ไม่ได้ทำให้เกิดอารมณ์ “ตื่นตัว” กับมหันตภัย

ยิ่งเทียบมาตรฐานกับคนเก่า ที่ “เดอะท็อป” นายวราวุธ ศิลปอาชา อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ใช้พลังคนหนุ่ม ลุยแบบถึงลูกถึงคน ปีนเขา เข้าป่า ดำน้ำทะเลลึก คลุกวงในอย่างจริงๆจังๆ

กระตุกกระแสสังคมมีอารมณ์ร่วมกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ

นั่นไม่เท่ากับการแสดงออกถึงมาตรฐานในเวทีสากล สมัยนายวราวุธได้ทำให้ต่างชาติได้เห็นถึงการเอาใจใส่วิกฤติมลพิษสิ่งแวดล้อม

ประเทศไทยไม่ตกเทรนด์วิกฤตการณ์ระดับโลก

คนเป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯสามารถสื่อสารสร้างความเข้าใจในหลายมิติ ดึงความร่วมมือในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะโยงถึงการสร้างเครดิตทางเศรษฐกิจ กระตุ้นความมั่นใจให้นักลงทุนต่างประเทศต่อเมืองไทย ไม่ตกยุค “Circular Economy”

ปรากฏการณ์ที่เห็นชัดๆในเวที COP การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

เมื่อปีก่อนหน้า COP26 ต่อเนื่อง COP27 “เดอะท็อป” ชูธงประกาศ ประเทศไทยเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เร่งแก้ “Climate Change” อย่างจริงจัง

ที่สำคัญฝ่ายบริหารพูดแล้วทำให้เห็น ส่งผลให้ไทยเสียงดัง

แต่ล่าสุดเวที COP28 ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จบไปหมาดๆ

เสียงของประเทศไทยเงียบไปจนน่าวังเวง.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน

คลิกอ่านคอลัมน์ "วิเคราะห์การเมือง" เพิ่มเติม