“อนุทิน” ย้ำเข้มงวดตรวจตราสถานบันเทิง 3 เรื่องหลัก ยันรัฐบาล 314 เสียง เพียงพอแล้ว ชี้ สมัย “บิ๊กตู่” 253 เสียง ยังผ่านมาได้ พร้อมยินดี “เฉลิมชัย” นั่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ลั่น ลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ ไม่ใช่การใช้หนี้แทน
วันที่ 12 ธันวาคม 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีมีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปเที่ยวสถานบันเทิง ว่า แต่ละจังหวัดมีทีมเข้าไปดูแลตรวจตราสถานบันเทิง แต่ไม่ใช่อยากจะเข้าก็เข้า เพราะต้องมีการหาข่าวก่อน ที่ผ่านมามีการสั่งการทั่วประเทศไปแล้ว ซึ่งเราเข้มงวด 3 เรื่องหลัก คือ อายุไม่ถึง อาวุธปืน และยาเสพติด
ส่วนกรณีในช่วงเทศกาลปีใหม่ เตรียมขยายเวลาเปิดสถานบริการถึง 04.00 น. ใน 5 พื้นที่นำร่อง คือ กรุงเทพมหานคร, จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดชลบุรี, จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า เราจะขยายเวลาในสถานบริการ สถานบันเทิงที่อยู่ในโซนนิ่ง เปิดยาวขึ้นได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่กำหนด ถ้าไม่มีใบอนุญาตก็จะขายสุราได้ถึงเวลา 00.00 น.
“เราขยายเวลา แต่เราไม่ได้ลดอายุ คนที่อายุต่ำกว่า 20 ก็ต้องห้ามเข้าพวกสถานบันเทิง สถานบริการต่างๆ ก็ต้องมีการตรวจให้เข้มข้นเพิ่มมากขึ้น”
ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงกรณีมูลนิธิเมาไม่ขับ ออกมาต่อต้านการขยายเวลา นายอนุทิน ตอบว่า เราทำในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย คนดื่มสุราก็ต้องพึงรู้ว่าหลังไปเที่ยวออกมาก็มีโอกาสที่จะถูกด่านตรวจ ถ้าตรวจเจอปริมาณแอลกอฮอล์ในตัวก็ต้องถูกดำเนินการ เพราะฉะนั้นต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ยืนยันว่ามีแผนอยู่ตลอด
...
สำหรับกรณีคำถามเรื่องหนี้นอกระบบ นายอนุทิน ระบุว่า เราไม่ได้ชดใช้หนี้แทนลูกหนี้ หลังมีความพยายามทำให้เกิดความเข้าใจว่ารัฐบาลจะมาใช้หนี้แทน แต่เราจะไม่ทำให้คนที่อ่อนแอกว่าถูกรังแก ไม่ได้พูดว่าไม่ให้ลูกหนี้ถูกรังแก ต้องไม่ให้เจ้าหนี้ถูกรังแกด้วย เป็นกรณีไป ไม่ใช่หยิบทุกเรื่องมาเป็นประเด็นหมด ตอนนี้เปิดให้ลงทะเบียน ขณะเดียวกันก็ต้องคนของเราออกไปดูคนที่ไม่กล้ามาลงทะเบียน ถูกข่มขู่หรือไม่ ถ้าพบก็จะจัดการสร้างความเป็นธรรมให้ บางกรณียังไม่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นตามที่แจ้งหรือไม่ จะมีการช่วยหาวีธีไกล่เกลี่ยหนี้ ตรงนี้เป็นเรื่องของผู้กำกับ นายอำเภอ ทุกคนต้องให้ความร่วมมือ
“เรื่องเจ้าหนี้-ลูกหนี้ พื้นฐานเป็นความสมัครใจจากคนทั้ง 2 ฝ่าย แต่เมื่อมีการละเมิดกฎหมายเกิดขึ้นก็ต้องทำให้ถูกต้อง ตบเข้ามาอยู่ในกรอบของกฎหมาย แต่ไม่ใช่ใช้หนี้แทนเขา ที่บอกว่าถ้าคุยไม่รู้เรื่องเดี๋ยวรัฐจะไปหาเงินมาให้ อันนี้ไม่ใช่”
นายอนุทิน เปิดเผยต่อไปว่า เรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาท กับเรื่องแก้หนี้นอกระบ เป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกัน เราต้องให้คนที่มอบหมายไปหาวิธีการไกล่เกลี่ย แต่ละคนเทคนิคไม่เหมือนกัน เราต้องรับฟังรายงานที่เขารายงานมา
ขณะที่ประเด็นพรรคประชาธิปัตย์ได้หัวหน้าพรรคคนใหม่เป็น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน จะทำให้เสียงของฝ่ายรัฐบาลเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ดีใจ เพราะนายเฉลิมชัยเป็นเพื่อนกัน และการจะคิดแต่เรื่องการต่อรองมันไม่ใช่รัฐบาล ตอนนี้รัฐบาลมีเกือบ 320 เสียง มีความมั่นคงดีแล้ว คงไม่มีใครไปต่อรองอะไรใคร ทำงานให้เต็มที่ดีกว่า ผลงานก็เกิดแก่รัฐบาล พอมีคำว่าต่อรองก็เป็นเจตนาที่มันก็ไม่ใช่เป็นพวกเดียวกันแล้ว ถ้าต้องต่อรอง
จากนั้นเมื่อถามว่ารัฐบาล 314 เสียง ไม่ต้องมีเสียงเพิ่มแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มี 2543 เสียง ก็อยู่ตลอดรอดฝั่งมา 4 ปี วิกฤตการณ์ต่างๆ มากมายก็อยู่มาได้ เพราะเรามีเจตนารมณ์เดียวกันที่จะทำงานให้บ้านเมือง ตรงนี้สำคัญมากกว่า และไม่กังวลอะไร ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด.