“อนุทิน” ลงนามกฎกระทรวงขยายเวลาเปิดสถานบริการถึงตี 4 ใน 5 พื้นที่นำร่อง เตรียมประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ย้ำ ทันบังคับใช้ 15 ธ.ค.นี้ ส่วนคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 สถานบริการทั่วประเทศเปิดได้ถึง 6 โมงเช้า

วันที่ 11 ธันวาคม 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการออกข้อกำหนดการเปิดปิดสถานบริการเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ได้ยกร่างกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา

ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในร่างกฎกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขั้นตอนถัดไปจะเป็นการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะทันบังคับใช้ตามกรอบเวลาที่นายกรัฐมนตรีเคยประกาศไว้ ที่จะเริ่มในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 อย่างแน่นอน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อไปว่า สาระสำคัญของกฎกระทรวงนี้ จะเป็นการขยายเวลาให้สถานบริการใน 5 จังหวัด/พื้นที่ ดังต่อไปนี้ เปิดให้บริการได้ถึงเวลา 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ได้แก่ สถานบริการในท้องที่กรุงเทพมหานคร, จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดชลบุรี, จังหวัดเชียงใหม่ และท้องที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ สถานบริการที่ตั้งอยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมทั่วประเทศ ก็สามารถเปิดบริการได้ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้นได้เช่นกัน  

ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย
ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย

...

“เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตามกฎกระทรวงฉบับนี้ จะขยายเวลาให้สถานบริการในทุกท้องที่ทั่วประเทศสามารถเปิดบริการในคืนส่งท้ายปีเก่า (31 ธันวาคม 2566) ไปจนถึงเวลา 06.00 น. ของวันปีใหม่ (1 มกราคม 2567) ได้ด้วย”

อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงมหาดไทย ยังระบุในช่วงท้ายด้วยว่า นายอนุทิน ได้ให้นโยบายและกำชับหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทย ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งท้องถิ่นและฝ่ายความมั่นคง เพื่อวางแนวทางการดูแลพื้นที่ท่องเที่ยว ให้การออกเกณฑ์ขยายเวลาเปิดสถานบริการนำร่องใน 5 จังหวัด/พื้นที่ดังกล่าว สามารถสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล ควบคู่ไปกับการดูแลความสงบเรียบร้อยของสังคม และประชาชนได้รับความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยประเด็นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเน้นย้ำให้ความสำคัญอย่างยิ่ง คือการกวดขันไม่ให้มีการเมาแล้วขับ เพื่อลดโอกาสเกิดความเสียหาย หรือสูญเสียต่อประชาชนและสังคมต่อไป.