“พายัพ ปั้นเกตุ” จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ หวังประชาชนพ้นวงจรหนี้สิน เชื่อ ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเติบโตของจีดีพีประเทศได้

วันที่ 5 ธันวาคม 2566 นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบมาก เพราะเขามีความทุกข์ ถูกกดขี่เอารัดเอาเปรียบจากนายทุนหน้าเลือด จึงให้มีการดำเนินการทุกจังหวัดรีบรับลงทะเบียนพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาเรื่องหนี้สิน ซึ่งที่ผ่านมา 3 วัน มีประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบมาลงทะเบียน 44,264 คน จากผู้เป็นหนี้ทั้งหมดประมาณ 3.5 ล้านคน และลงทะเบียนที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 1,300 คน โดยเป็นพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร เกือบ 3,000 ราย สงขลา 2,000 ราย นครราชสีมา 2,000 ราย สมุทรปราการ 1,100 ราย ฯลฯ

นายพายัพ เผยต่อไปว่า ขณะที่จังหวัดสิงห์บุรี มีปัญหาค่อนข้างมาก มีแก๊งหมวกกันน็อกวิ่งกันควั่กทั่วทั้งตลาดสด ตลาดนัด ตลาดท้องถิ่น ไม่เว้นแม้แต่หัวไร่ปลายนา โดยเฉพาะที่ตลาดอินทร์บุรี ตลาดสดสิงห์บุรี นายทุนข้ามจังหวัดก็มาทวงจนแม่ค้าน้ำตาไหลกันไปทั่ว แต่ขณะนี้กลับยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องการลงทะเบียนมากนัก รวมไปถึงจังหวัดอื่นๆ ซึ่งการจะแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้ได้ ผลจะต้องมีการทะเบียนเพื่อแก้ปัญหาให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน 

ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการลงทะเบียนด้วย เพื่อให้รัฐบาลจะได้หาทางแก้ไขได้ทั้งในส่วนของผู้กู้และนายทุนปล่อยเงินกู้ให้ได้รับความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องมีการนำเอาหนี้นอกระบบมาเข้าระบบเงินกู้จากธนาคารของรัฐได้ ทั้งธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวมไปถึง ธนาคารกรุงไทย และธนาคารพาณิชย์อื่นๆ

...

จากนั้นรัฐบาลก็จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้มีการจับจ่ายผ่านเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพื่อให้พี่น้องพยุงตัวเองลุกขึ้นยืนได้ มีเงินหมุนเวียนช่วยเสริมสภาพคล่อง เชื่อว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะถูกหมุนเวียนในตลาดได้ 2-3 รอบ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการเติบโตของจีดีพีประเทศได้อีกด้วย.