"สมศักดิ์-พรหมินทร์" นั่งหัวโต๊ะรับฟังข้อเสนอภาคเอกชน พัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขอช่วยยกระดับการท่องเที่ยว ไปสู่ระดับนานาชาติ โดยใช้ Soft Power พร้อมขอบริหารจัดการน้ำภาคการเกษตร-ยกระดับโรงพยาบาล-พัฒนาคมนาคม เตรียมชงเข้า ครม.สัญจร พรุ่งนี้
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.66 ที่ห้องประชุมสัตตบงกช โรงพยาบาลหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (หนองบัวลำภู, อุดรธานี, เลย, หนองคาย, และบึงกาฬ) โดยมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายกิตติกร โลห์สุนทร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี, นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, นายวีรพงษ์ เต็งรังสรรค์ ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1, ว่าที่ร้อยตรี ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1, และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุมสัตตบงกช โรงพยาบาลหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู
...
โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ข้อเสนอของภาคเอกชนในการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ต้องการให้ผลักดันเป็น "ศูนย์การท่องเที่ยวของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ศูนย์กลางการค้าและโลจิสติกส์ เกษตรอุตสาหกรรมมูลค่าสูง เมืองน่าอยู่" เพราะในกลุ่มจังหวัดนี้ มีศักยภาพแหล่งท่องเที่ยงจำนวนมาก รวมถึงมีเขตจังหวัดติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งยังสามารถพัฒนาได้อีกจำนวนมาก แต่ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าด้านการท่องเที่ยวมีปัญหา เพราะจากข้อมูลพบว่า นักท่องเที่ยวลดลง โดยปี 2565 จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจากปี 2562 ถึง 43% นอกจากนี้ ยังพบว่าในกลุ่มจังหวัดมีปัญหาความยากจนถึง 190,600 คน ทำให้ภาครัฐต้องเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว การพัฒนาโครงข่ายเส้นทางคมนาคม และการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับพื้นที่
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ข้อเสนอจากภาคเอกชน กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ที่จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร จังหวัดหนองบัวลำภู คือ 1. ยกระดับการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ให้ไปสู่การท่องเที่ยวระดับนานาชาติ โดยใช้ Soft Power อัตลักษณ์ท้องถิ่น อาทิ ประเพณี วัฒนธรรม ภาษา อาหาร เส้นทางโรแมนติกรูท นาดีรูท และสี่เหลี่ยมวัฒนธรรมล้านช้าง 2. เร่งรัดการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบของลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อรองรับภาคการเกษตร การบริโภค และการลงทุน 3. ยกระดับโรงพยาบาลภาครัฐของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 เพื่อเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน 4. ศึกษาและวางแผนโลจิสติกส์กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 สู่ NeEC และเชื่อมโยงภูมิภาคลุ่มน้ำโขง 5. จัดทำระบบขนส่งมวลชน เพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี ปี 2569
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า 6. ส่งเสริมการจัดงานมหกรรมผ้าทอมือภูมิภาคลุ่มน้ำโขง GMS Fabric Expo 7. ยกระดับรายได้เกษตรกรภายใต้การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น 8. เร่งรัดปรับปรุงผังเมืองรวมและผังเมืองรวมจังหวัด เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและการลงทุน ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 9. แก้ไขปัญหาและยกระดับมูลค่าเพิ่มเกษตรอุตสาหกรรมพืชเศรษฐกิจ เช่น มันสำปะหลัง ไผ่ ยางพารา และ 10. เร่งรัดและผลักดันการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-ลาว ตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง (JTMH) โดยเมื่อแยกเป็นรายจังหวัด จังหวัดบึงกาฬ เสนอ 1. โครงการพัฒนาการค้าชายแดน และการท่องเที่ยว เพื่อรองรับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) 2. เร่งรัดโครงการบริหารจัดการแม่น้ำโขง-แม่น้ำสงคราม เพื่อการเกษตร ส่วนจังหวัดเลย ขอเร่งรัดการก่อสร้างรันเวย์ท่าอากาศยานเลย เพื่อรองรับการลงทุนในอนาคต
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า จังหวัดหนองคาย 1. เร่งรัดลงทุนการสร้าง Container Yard ให้แล้วเสร็จ เพื่อการรองรับการขยายตัวการขนส่งสินค้าทางรางของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 และ EEC 2. ขอจัดตั้งเขตเพื่อคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ จุดขาย (Tax Refund) ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (นำร่องในเขตท้องที่เทศบาลเมืองหนองคาย) 3. ยกระดับมหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย เป็นมหาวิทยาลัยหนองคาย หรือพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาในจังหวัด ให้มีความก้าวหน้าในระดับนานาชาติให้การยอมรับ 4. จัดสร้างและพัฒนาศูนย์ Business Center เพื่อรองรับการเข้ามาลงทุน 5. โครงการพัฒนายกระดับระบบการนำเข้า-ส่งออก ไทย-ลาว-จีน ในรูปแบบ Single Windows ส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู 1. ขอรับการสนับสนุนขนส่งระบบราง เชื่อมโยงอุดรธานี-หนองบัวลำภู-เลย และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2. ผลักดันสะพานเฉลิมพระเกียรติ ระหว่างอำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู กับอำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น 3. ยกระดับวิทยาลัยชุมชน เพื่อเป็นสถาบันพัฒนาวิชาชีพเฉพาะทางในระดับปริญญาตรี 4. พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวน้ำตกเฒ่าโต้ จังหวัดหนองบัวลำภู 5. พัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผ้าทอธรรมชาติ จังหวัดหนองบัวลำภู 6. โครงการหนองบัวลำภูเจ้าบ้านที่ดี เพื่อยกระดับการพัฒนาบุคลากรและแหล่งท่องเที่ยว 7. โครงการศึกษาออกแบบทางเลี่ยงเมือง อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู ขณะที่ จังหวัดอุดรธานี 1. เร่งรัดการจัดตั้งศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS) ให้แล้วเสร็จ ภายในปี 2567 เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าชายแดน/ผ่านแดน แบบครบวงจร ณ จังหวัดอุดรธานี 2. ยกระดับการให้บริการด้านสุขภาพในจังหวัดอุดรธานี ให้เป็นศูนย์กลางการแพทย์ระดับนานาชาติ
"ผมต้องขอขอบคุณทั้งข้าราชการและหน่วยงานเอกชน ที่เดินทางมาร่วมประชุมในวันนี้ ผมขอยืนยันว่า ท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมรับฟังความเดือดร้อนของพี่น้องชาวอีสาน รวมถึงทั่วประเทศ เพราะท่านเป็นคนขยันเดินทางไปหลายประเทศ และเปิดตลาดการค้าได้มากมาย รวมถึงการดึงนัดลงทุนเข้าสู่ประเทศไทยด้วย โดยประเด็นหัวข้อหลักๆ ในการหารือวันนี้ 1. เรื่องน้ำของภาคเกษตรกรรม หรือความเดือดร้อนในเรื่องน้ำของพี่น้องเกษตรกร ทางรัฐบาลก็เดินหน้าอยู่อย่างเต็มที่ ประเด็นที่ 2. โรงพยาบาลยาเสพติด หรือการขอแพทย์หรือขอโรงพยาบาลจิตเวช เพื่อรักษาเรื่องนี้ผ่านกระทรวงสาธารณสุขก็เดินหน้าอยู่และมีแผนงานค่อนข้างที่จะชัดเจนแล้ว ดังนั้นขอให้รออีกสักนิด 3. การสร้างพื้นที่เศรษฐกิจเพื่อการค้า เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องดีหากทำได้ประเทศไทย จะมีรายได้เข้าประเทศมหาศาล รวมถึงทำให้พื้นที่ท้องถิ่นชุมชนนั้นมีรายได้ 4. การแก้ความยากจน เวลานี้รัฐบาลทำทุกทาง เพราะไม่ต้องการเห็นพี่น้องประชาชนนั้นต้องลำบาก มีแต่อยากทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ทุกข้อเสนอที่รับในวันนี้ จะถูกนำเข้าต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ โดยผมอยากให้พี่น้องชาวอีสานได้รับข่าวดี" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว