“สมศักดิ์” ควง สทนช. นั่งเฮลิคอปเตอร์ ดูแม่น้ำชี จากอุบลราชธานี ถึงหนองบัวลำภู 643 กิโลเมตร เล็ง ต่อยอดโครงการบริหารจัดการน้ำ เร่งจัดการน้ำแก้ท่วม-แล้ง ยัน รัฐบาลไม่เมินเฉยเอลนีโญ เร่งดำเนินการไม่ให้กระทบประชาชน
วันที่ 3 ธันวาคม 2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายกิตติกร โล่ห์สุนทร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยจุดแรกไปที่องค์การบริหารส่วนตำบลเก่าขาม อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการธนาคารน้ำใต้ดิน หลังประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง พร้อมพบปะหัวหน้าส่วนราชการและประชาชน ซึ่งมี นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายสมศักดิ์ บุญประชม สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทรวมพลัง ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับความสำเร็จของ อบต.เก่าขาม ที่ได้รับรางวัลการพัฒนาธนาคารน้ำใต้ดินอย่างเป็นระบบ ส่วนการขยายผลไปสู่ประชาชนนั้น มองว่าต้องได้รับคำแนะนำ รวมถึงการดูแลอย่างใกล้ชิดจากหน่วยงานที่รับผิดชอบหลัก ได้แก่ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และสถาบันการศึกษา เพื่อพัฒนาต่อยอด โดยตนขอให้พี่น้องประชาชนเตรียมรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภาวะเอลนีโญ ซึ่งอาจส่งผลให้มีปริมาณฝนตกน้อยกว่าปกติ ดังนั้น ต้องช่วยกันประหยัดน้ำ ปฏิบัติตามมาตรการที่หน่วยงานรัฐได้ให้ความรู้ ขอยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นที่สุด เพราะต้องการเห็นประชาชนอยู่ดีกินดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
...
“ผมขอชื่นชม อบต.เก่าขาม ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธนาคารน้ำใต้ดิน ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่ ท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำลังผลักดัน ดังนั้น ผมต้องขอบคุณที่ทำสิ่งเล็กๆ ให้เกิดประโยชน์ต่อภาคสังคมในจังหวัด ผมเชื่อว่าถึงแม้ธนาคารน้ำใต้ดินจะเป็นเรื่องใหม่ แต่จะเป็นไปได้ เพราะโครงการเป็นประโยชน์ที่จะช่วยได้ทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง ซึ่งหากเอลนีโญเกิดขึ้นมันจะแรง 3 ปี รัฐบาลคงไม่เมินเฉย จึงต้องทำทุกโครงการให้เต็มที่เพื่อให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด โดยผมได้ให้ สทนช. ช่วยสนับสนุนประชาชน ด้วยการสำรวจการซึมดินในแต่ละพื้นที่ว่าดินทั่วประเทศนั้นเป็นอย่างไร เพราะจะสามารถคิดคำนวณในการปลูกพืชหรือทำการเกษตรต่างๆ ได้เหมาะสม รวมถึงผมได้ขอให้ สทนช. บูรณาการกับทุกหน่วยงาน เพื่อรับมือภัยแล้ง ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับทราบ ศึกษาการบริหารจัดการน้ำใต้ดิน และจัดหาน้ำเมื่อเกิดการขาดแคลน เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชน”
จากนั้น นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ นั่งเฮลิคอปเตอร์จากโรงเรียนบ้านเก่าขาม ติดตามสภาพน้ำและการไหลของน้ำในแม่น้ำชี จากปลายน้ำไปยังต้นน้ำ โดยได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ตั้งแต่จังหวัดอุบลราชธานี ไปจังหวัดขอนแก่น จังหวัดเลย จนถึงจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นระยะทางกว่า 643 กิโลเมตร ตรวจเยี่ยมจุดเก็บน้ำสำคัญ คือ เขื่อนธาตุน้อย เขื่อนยโสธร เขื่อนร้อยเอ็ด เขื่อนมหาสารคาม เขื่อนอุบลรัตน์ และจุดผันน้ำโครงการ โขง เลย ชี มูล บ้านคกมาด หมู่ 3 ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
ในเวลาต่อมา นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ตนได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์สำรวจแม่น้ำชี ที่มีความยาวสูงสุดในประเทศ คือ 1,030 กิโลเมตร ขนาดพื้นที่ลุ่มน้ำประมาณ 30.79 ล้านไร่ ซึ่งครอบคลุมหลายจังหวัดของภาคอีสาน ได้แก่ ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธ์ุ ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดไปพิจารณาขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำ
สำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีโครงการสำคัญ ปี 2567 จำนวน 8 โครงการ ปริมาณน้ำ 91 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 36,865 ไร่ มีประชาชนได้ประโยชน์ 147,179 ครัวเรือน รวมถึงช่วยป้องกันน้ำท่วม 8,225 ไร่ อาทิ โครงการปรับปรุงโครงการส่งน้ำกุมวาปี จ.อุดรธานี พัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ หนองหาร จ.สกลนคร ระบบระบายน้ำหลักชุมชนเมืองหนองบัวลำภู ส่วนในปี 2568-2570 มี 26 โครงการ วงเงิน 29,729 ล้านบาท จะสามารถช่วยเพิ่มปริมาณน้ำ 369 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 650,854 ไร่ มีประชาชนได้ประโยชน์ 81,945 ครัวเรือน และสามารถป้องกันน้ำท่วมได้ 15,083 ไร่.