คิกออฟปฏิบัติการมหกรรมฟอร์มยักษ์ ปลดแอกคนจนพ้นการค้าทาสยุคใหม่

คิวออกสตาร์ตวาระแห่งชาติ ขึ้นทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบทั่วประเทศอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. ที่คาดการณ์มีมูลหนี้มหาศาลมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท

เขี่ยลูกต่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัด-ผู้กำกับการสถานีตำรวจ นำเจ้าหนี้-ลูกหนี้ มาไกล่เกลี่ย หักกลบลบหนี้ให้เกิดความเป็นธรรม พร้อมดึงสถาบันการเงินรัฐมาช่วยปล่อยกู้ เคลียร์หนี้นอกระบบ ดอกเบี้ยโหด

“นายกฯนิด” ปล่อยของลุยปลดหนี้แก้จน ซื้อใจคนฐานล่าง ลุ้นทำแต้มจากประชาชน

ไม่สนคิวแทรกเรื่องหมูๆฝ่ายค้านรุมเขย่าปมเด้งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปนั่งตบยุงเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรมที่ถูกตั้งข้อสงสัย เพราะไปบุกค้นรังห้างค้าปลีกขนาดยักษ์ หาหลักฐานขยายผลสอบสวนการปราบปรามหมูเถื่อน

เผือกร้อนเด้งอธิบดีดีเอสไอ ลวกมือพองหลายหน่วยงาน คั่นจังหวะนโยบายปราบหนี้นอกระบบ

แทนที่ “นายกฯนิด” จะได้ฟีลโปรโมตนโยบายปราบหนี้นอกระบบเต็มที่ แต่กลับต้องปากเปียกปากแฉะ แก้ต่างคิวโยกย้ายบิ๊กดีเอสไอเข้ากรุ ไม่เกี่ยวกับการวิ่งไปชนตอนายทุนใหญ่ แต่เป็นการโยกย้ายไปช่วยขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงยุติธรรมในภาพรวมให้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้

เรื่องหมูๆพานทำโดนหางเลข ถูกถามหามีความจริงใจปราบทุจริตมากแค่ไหน

ผ่านมาร่วม 3 เดือน เครื่องยนต์รัฐบาลยังติดๆดับๆ การทำงานไม่ไหลลื่น ซ้ำบางช่วงยังเจ็บตัวหนัก เพราะนโยบายหลัก “ดิจิทัลวอลเล็ต” ยังแช่นิ่งอยู่กับที่

อย่างที่ “นายกฯเศรษฐา” เอ่ยปากยอมรับมีความกดดัน เพราะโดนทวงเงินหมื่นรายวัน

...

โครงการประชานิยมตัวพ่อติดหล่ม ทะลวงแต้มเป็นกอบเป็นกำไม่ได้ ต้องปรับกระบวนทัพพัลวัน

แก้เกมใหม่ เปลี่ยนบทเป็น “เซลส์แมนนิด” ตะลอนขายฝันทั่วประเทศ เดินสายถี่ยิบแทบไม่หยุดพัก สะสางปัญหารายพื้นที่ ตั้งแต่ จ.สระแก้ว สุโขทัย เชียงใหม่ อุตรดิตถ์

ล่าสุดล่องใต้ลง จ.ภูเก็ต ติดตามการฝึกซ้อมแผนการบริหารจัดการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล และกางโปรแกรมไปต่อที่ จ.หนองบัวลำภู ประชุม ครม.สัญจร สัปดาห์หน้า

ตารางในประเทศแน่นเอี้ยด ขึ้นเหนือล่องใต้ จ่อไปอีสาน ขับเคลื่อนโครงการรัฐทุกมิติ

ทำแต้มเก็บเล็กผสมน้อย ปรับโหมดมาบริหารความพอใจประชาชนเป็นรายจังหวัด เป็นเรื่องๆไป อะไรทำได้ก็ทำไปก่อน

เน้นนโยบายที่เล่นกับอารมณ์ร่วมชาวบ้านเป็นหลัก อาทิ การแก้ปัญหาหนี้ครบวงจร ทั้งในระบบและนอกระบบ การขึ้นเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่ 18,000 บาท การเร่งเข็น พ.ร.บ.อากาศสะอาด เข้าสภาฯ แก้ปัญหาฝุ่นพิษ

ใช้กลยุทธ์การตลาดสร้างความวูบวาบ ปลุกความหวังให้ประชาชนเคลิบเคลิ้มไว้ก่อน แต่จะไปติดหล่มระหว่างทางหรือไม่ ค่อยไปตามลุ้นกันอีกระลอก

“นายกฯนิด” เหยียบมิดคันเร่งเพิ่มแต้ม คู่ไปกับการไม่สร้างเรื่องให้ประชาชนเกิดความรู้สึกติดลบ

อย่างที่เห็นการรีบดับอารมณ์คนไทยที่กำลังของขึ้น ข่าวร้ายการขึ้นค่าไฟฟ้าเป็น 4.68 สตางค์ต่อหน่วย ตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย.2567 ตามมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)

ประกาศรับไม่ได้ราคาค่าไฟฟ้าใหม่ แสดงตัวเป็นแนวร่วมประชาชน เตรียมหาทางประนีประนอม ชะลอขึ้นค่าไฟหรือให้ขึ้นแค่เล็กน้อย หลังใกล้หมดโปรฯค่าไฟฟ้าราคาถูก 4 เดือน

นายกฯแหยงเล่นกับไฟ รีบสกัดแต้มหล่น เลี่ยงการถูกด่าหูชา

ตามเค้าลางอันตรายที่กำลังคืบคลานตามมา มาตรการอุ้มราคาน้ำมันดีเซลจะหมดโปรฯปลายปีนี้ และราคาน้ำมันเบนซินจะหมดช่วงพยุงราคา วันที่ 31 ม.ค.2567

สัญญาณอันตรายราคาพลังงานจ่อพุ่งพรวด กระทบต้นทุนสินค้าอื่นๆขึ้นราคาตามมาอีกแน่

เข้าทางฝ่ายค้านเตรียมทิ้งบอมบ์ใส่รัฐบาล หลังเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 12 ธ.ค.เป็นต้นไป

ใช้ช่องทางทั้งตั้งกระทู้ถามสด เวทีงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ขยี้เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตติดหล่ม ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันพุ่งพรวด ข้าวของแพงหมูเถื่อน การไม่จริงจังปราบโกง การโยกย้ายข้าราชการมีข้อครหา

ลับมีดไว้รอถล่มใหญ่ในเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือน เม.ย.2567 ช่วงเวลาสุกงอมหลังทำงานครบ 6 เดือน

ด่านอันตรายสะเทือนความมั่นคงเก้าอี้นายกฯ ต้องบริหารอารมณ์ประชาชนไม่ให้สูงตามอากาศเดือน เม.ย.

ถ้าเงินหมื่นตกไม่ถึงมือ สวนทางค่าครองชีพพุ่งลิ่ว อารมณ์ท้องหิวชาวบ้านจุดติดเมื่อไร มีคนหน้ามืดแน่!!!!

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ "วิเคราะห์การเมือง" เพิ่มเติม