ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส สโลแกนยี่ห้อเพื่อไทย
ลุยแก้จนปลดหนี้ประชาชน เติมเงินหมื่นด้วยนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ขยายโอกาสต่อยอดทำธุรกิจ
กระจายแผนงานซอฟต์พาวเวอร์ ที่มี “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นหัวหอก
“คิดใหญ่ ทำเป็น” ผ่านนโยบายประชานิยมสุดโต่ง
ท่ามกลางเสียงนินทาฟุ้งเฟ้อขายฝัน บนเครื่องหมายคำถามว่า จะสำเร็จไหม จะได้ทำหรือเปล่า
“ดิจิทัลวอลเล็ต” นโยบายเรือธงของรัฐบาลยังต้องผ่านอีกหลายด่าน พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้าน ยังต้องเถียงกันอีกนานกว่าจะเสร็จ และยังไม่แน่ว่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภา องค์กรอิสระหรือเปล่า
แต่ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ขอวัดใจเดินหน้าตามที่หาเสียงไว้เต็มสูบ แจกเงินหมื่นให้ถึงมือประชาชน พยายามไม่ตัดทอน ปรับลดตามเสียงคัดค้าน จัดให้เต็มที่เท่าไหร่เท่ากัน
เพราะมองเห็นเป็นวิกฤติเศรษฐกิจซึมยาวฝังรากลึก ชาวบ้านร้านค้าสุดเหงา เหมือนคนอมโรคใกล้เฉาตาย
...
จำเป็นต้องอัดเม็ดเงินลงไปช่วยกระตุ้นหัวใจ ไม่ใช่แจกกะปริบกะปรอย เหมือนให้ยาพาราไปกินแล้วตายเหมือนเดิม
นโยบายเรือธงแม้จำเป็นรีบด่วน แต่ก็ต้องรอบคอบ เพราะบทเรียนมีมาแล้ว รัฐบาลจึงต้องออกเป็น พ.ร.บ.ให้สภาพิจารณาประทับตรา ถ้าออกเป็น พ.ร.ก.มีแนวโน้มถูกคว่ำสูง แถมภัยอาจมาถึงตัว
แต่ตามไทม์ไลน์ถ้าผ่านทุกด่านไปได้ จะคิกออฟแจกเงินประชาชนได้ราวๆเดือน พ.ค.2567
นโยบายสำคัญของรัฐบาลล่าช้าเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ก่อนสงกรานต์ แม้เสียเครดิต
ไปบ้างแต่ก็ยังต้องการให้ผ่าน เพื่อนำงบประมาณมาปั่นโครงการประชานิยม ตามหลักคิดใช้ “เงินต่อเงิน”
แต่ระหว่างนี้จะนั่งรอลุ้น “ดิจิทัลวอลเล็ต” อย่างเดียวไม่ได้ ต้องคิดหาทางทำให้ผ่านมากขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุด รัฐบาลออกแคมเปญล้างหนี้นอกระบบ มุ่งเป้าใหญ่ช่วยเหลือประชาชนคนหาเช้ากินค่ำ ตรงจุดตรงใจรากหญ้า บรรดาผู้มีรายได้น้อย
จนสังคมอีลิท ชนชั้นกลางค่อนสูง บรรดาอาจารย์ นักวิชาการ ตั้งคำถามรัวๆ นี่มันรัฐสวัสดิการ หรือว่ามูลนิธิองค์กรสงเคราะห์กันแน่
แต่รัฐบาลเพื่อไทยไม่สน ฐานเสียงใครฐานเสียงมัน ลุยล้างหนี้เติมเงินแหลกแจกตามถนัด
กระนั้นปัญหาหนี้นอกระบบก็ใช่ว่าจะแก้กันได้ง่ายๆ กี่รัฐบาลผ่านมาทำไม่เคยสำเร็จ สาเหตุหลักเพราะบรรดาขาใหญ่มาเฟียล้วนมีเครือข่ายโยงใยอำนาจรัฐ
หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ พอทำๆแล้วก็หายไปเฉยๆทุกที
ถ้ายังเป็นแบบนั้นอีกก็จบเห่ ได้แค่พูดเท่ๆเหมือนเดิม หรือถ้าทำแบบฝนตกไม่ทั่วฟ้า แก้ปัญหาเป็นหย่อมๆ
เจอจับโป๊ะว่าเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เลี่ยงพื้นที่ผู้มีอิทธิพล “กากี่นั้ง” จากแต้มบวกจะกลายเป็นลบเอาง่ายๆ
รัฐบาลจะเข้ามาเป็นตัวกลางประสานงานประนอมหนี้ ต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคือได้ใจชาวบ้านประชาชนคนรากหญ้าไปแล้ว
นโยบายแต่ละอันมันใช่ เหมือนพุ่งตรงเข้าใส่บ้าน มาพลิกเปลี่ยนชะตา ปลุกใจให้มีความหวังอีกครั้ง
แน่นอนว่าพลังหนุนที่แกร่งที่สุดของพรรคเพื่อไทยก็คือคนรากหญ้าเหล่านี้
หากล้างหนี้ประชาชนได้สำเร็จจริง ก็จะมีคำถามตามมาว่าแล้วจะเอายังไงต่อกับชีวิต คำตอบก็คือหาเงินมาลงทุนตั้งตัวใหม่ และนั่นสามารถคาดหวังได้จากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตนั่นเอง
ถึงตอนนั้นรัฐบาลเพื่อไทยจะอาศัยพลังประชาชนเป็นแรงสนับสนุน กดดันให้ผ่านฉลุยทุกขั้นตอน
วันนี้จึงต้องยืนยันจัดเต็ม “ดิจิทัลวอลเล็ต” เพราะถ้าแจกแค่ครึ่งๆ กลางๆ ไม่เต็มแรง ไม่มีทางผ่านด่านอรหันต์แน่ เพราะจะถูกตีความ
จับไต๋ว่าทำไปแบบไม่คาดหวัง และทำแบบนั้นก็ไม่จูงใจประชาชนให้มาช่วยสนับสนุน
อนาคตจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่ละนโยบายของรัฐบาลเพื่อไทยจะออกหัวหรือออกก้อย ได้หรือเสีย
แต่อย่างน้อยก็ถือว่าคิดใหญ่ ทำเป็น ตามที่คุยโวเอาไว้
และที่ชัดเหลือเกินคือเป้าหมาย เพื่อไทยมองถึงอนาคตใกล้ๆ รัฐบาลอยู่ยาวครบเทอม เพื่อตั้งหลักเก็บแต้มกู้กระแส และมองไกลไปถึงเลือกตั้งครั้งหน้า มุ่งหวังแก้แค้นล้างอายค่ายส้ม จากความพ่ายแพ้ที่กลายเป็นแผลในใจ
ลุยตีฐานคะแนนรากหญ้า ดึงเสียงจากแม่ค้าประชาชนที่ปันใจไปกลับมา
แต่นั่นอยู่บนสมมติฐานที่ว่า นโยบายทุกอันผ่านฉลุย ประสบความสำเร็จ
แก้วิกฤติเศรษฐกิจปากท้อง คือหนทางเดียวของพรรคเพื่อไทยที่จะกลับมาทวงคืนแชมป์เลือกตั้งได้อีกครั้ง
แบไต๋ชัดๆเดิมพันกันไปเลย อย่างน้อยก็ได้ใจไปแล้ว
เหลือแค่ว่าชาวบ้านประชาชนจะยังเอาด้วยกับ “เพื่อไทย” หรือเปล่า.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
คลิกอ่านคอลัมน์ "วิเคราะห์การเมือง" เพิ่มเติม