ถึงแม้ขณะนี้จะอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมรัฐสภา แต่ก็ยังมีคนกลุ่มต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความตื่นตัวทางการเมืองของคนไทย ตัวอย่างเช่น คณะนิรโทษกรรมประชาชนเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมให้ผู้ที่ถูกกล่าวหากระทำผิดในคดีการเมือง ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้น

หลายคนถูกกล่าวหากระทำผิดประกาศ หรือคำสั่งคณะรัฐประหาร คดีที่พลเรือนถูกดำเนินคดีในศาลทหาร คดีที่ถูกกล่าวหากระทำผิด ป.อาญา มาตรา 112 และคดีกระทำผิด พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นต้น ที่มีนักศึกษาและประชาชนจำนวนมากถูกจับกุมดำเนินคดีจากการชุมนุมทางการเมืองในช่วงรัฐบาล คสช.

ผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากกลุ่มต่างๆทั่วประเทศเมื่อเร็วๆนี้ แม้คนส่วนใหญ่ราว 60% จะต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง แต่มีถึงเกือบ 40% ที่เรียกร้องให้ปฏิรูปการเมือง และการยุติธรรม เพราะเห็นว่าไม่ได้บังคับใช้กฎหมายตรงไปตรงมา หรือโปร่งใส

พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้าน และเป็นพรรคใหญ่ที่สุด มี สส.มากที่สุด ในระยะหลังๆถูกวิจารณ์ว่าไม่ได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ทำให้นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคออกมาชี้แจงว่า พรรคทำหน้าที่ฝ่ายค้านเชิงรุก เช่น การเสนอร่างกฎหมายเข้าสภาถึง 31 ฉบับ แต่ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของสภา

สส.หนุ่มที่อาจเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ทั้งของพรรคก้าวไกลหรือทั้งของสภา ชี้แจงว่าน่าเสียดายที่การประชุมรัฐสภาครั้งที่ 1 ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม สภาไม่ได้ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายแม้แต่ฉบับเดียว สมัยประชุมใหม่ที่จะเริ่มต้นในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ พรรคก้าวไกลเสนอถึง 14 ฉบับ

เป็นร่างกฎหมายทั้งด้านการ เมือง เศรษฐกิจ และสังคม เช่น ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ร่าง พ.ร.บ.การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และร่างกฎหมายบำนาญพื้นฐานทั่วหน้า  เนื่องจากเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน จึงขอให้นายกรัฐมนตรีรับรองเพื่อเปิดโอกาสให้ สส.ทุกฝ่ายเปิดอภิปรายในสภาและนอกสภา

...

การเมืองไทยจะก้าวสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น ถ้าเปิดโอกาสให้ สส.ทุกพรรคได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายสำคัญๆ แม้จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม ทั้งยังเปิดอภิปรายขยายนอกสภาด้วย เพราะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์และสื่ออื่นๆ เปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมอภิปรายได้.

คลิกอ่านคอลัมน์ "บทบรรณาธิการ" เพิ่มเติม