นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ฯ มองบวก "เงินดิจิทัล" กระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้อย่ากังวลเกินเหตุ ขณะที่นักวิชาการด้านวิศวกรรมฯ-นักเศรษฐศาสตร์ มั่นใจช่วยเพิ่มทักษะด้านดิจิทัลให้คนทั่วประเทศ หนุนไทยสู่สังคมไร้เงินสดในอนาคต

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 66 รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง เปิดเผยว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยกำลังมีปัญหา เพราะขยายตัวช้ามาก และมีอัตราการเติบโตของไทยต่ำที่สุดในอาเซียน นโยบายเงินดิจิทัลของรัฐบาลจะช่วยทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น อย่ากังวลเกินเหตุ อย่างไรก็ตามรัฐบาลควรดำเนินมาตรการอื่นๆ ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ การส่งเสริมการท่องเที่ยว การลดหนี้สาธารณะ และมาตรการด้านภาษีต่างๆ ที่สำคัญ ต้องเร่งปรับโครงสร้างทางการแข่งขันของประเทศ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและดึงนักลงทุนเข้ามาในประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC เป็นต้น

ทั้งนี้คาดว่า เศรษฐกิจไทยปี 2567 ในภาพรวมคงจะฟื้นประมาณร้อยละ 3.2-3.3 แต่ว่าถ้ามีเงินดิจิทัลขึ้นมา อาจจะทำให้มีโอกาสเติบโตถึงร้อยละ 4.5-5 ทั้งนี้แม้ว่าหลายฝ่ายอาจมีความกังวลว่า การออกพระราชบัญญัติเงินกู้ในจำนวนเงินดังกล่าว อาจจะทำให้หนี้สาธารณะของไทยเพิ่มขึ้น แต่อยากให้มองว่าอย่ากังวลจนเกินเหตุ เพราะเงินดิจิทัลจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้แน่นอน โดยเฉพาะในระยะสั้น เพราะทำให้จีดีพีเพิ่มขึ้น ที่สำคัญยังมีอีกหลายมาตรการที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย อย่างที่เราเห็น เช่น การดึงนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาในประเทศไทย เป็นต้น และหากรัฐเร่งปรับโครงสร้างทางการแข่งขันของประเทศ และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยก้าวพ้นจากปัญหาไปได้

"ก่อนอื่นเราต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยในขณะนี้มีปัญหา เพราะขยายตัวช้า เราโตต่ำสุดในอาเซียน เงินดิจิทัลที่รัฐบาลอัดฉีดเข้ามาจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และหากติดตามมาด้วยการปรับโครงสร้างทางการแข่งขันของประเทศ ควบคู่ไปกับการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เร่งดึงนักลงทุนเข้ามาใน EEC ก็จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยดีขึ้น" รศ.ดร.สมชาย กล่าว

...

รศ.ดร.สมชาย กล่าวเน้นย้ำว่า รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ โดยต้องมีการดำเนินการแบบองค์รวม และสร้างความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีความสามารถในการชำระหนี้ ผ่านการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ การพัฒนาทักษะแรงงานด้านดิจิทัล สนับสนุน SME เกษตรกร และสตาร์ทอัพ การส่งเสริม EV เป็นเรื่องสำคัญคู่ขนานไปกับการลงทุนเชิงโครงสร้างพื้นฐานระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุนในเชิงโครงสร้างที่ EEC รวมไปถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งหากดำเนินคู่กัน ก็จะทำเศรษฐกิจของไทยมีโอกาสเติบโตได้แข็งแรง และทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในเสถียรภาพการเงินของประเทศ

ด้าน รศ.ดร.พิสิษฐ์ บุญศรีเมือง ภาควิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มั่นใจว่า นโยบายเงินดิจิทัลไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังจะช่วยเพิ่มทักษะด้านดิจิทัลให้คนในประเทศด้วย พร้อมกล่าวว่านโยบายเงินดิจิทัล เป็นเรื่องที่แหลมคมมาก ในการให้ประชาชนมีทักษะด้านดิจิทัลด้วยตนเอง ผ่านการใช้เงินผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งถือว่าเป็นกุศโลบายในการสอนให้ผู้คนใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในชีวิตประจำวัน ซึ่งนโยบายนี้มาส่งเสริมได้ดีและจะยิ่งเป็นการสนับสนุนให้ประเทศไทยเกิดสังคมไร้เงินสดมากขึ้น ยกกรณีประเทศจีนที่คนในประเทศใช้โทรศัพท์มือถือเป็นช่องทางทำการจ่ายเงินแทนการพกเงินสด ซึ่งจะทำให้เกิดความสะดวกสบายให้คนในประเทศ นอกจากนี้ยังมองว่า การนำเทคโนโลยีบล็อกเชนที่จะนำมาใช้ในการดำเนินนโยบาย จะช่วยให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

"ความพร้อมทางด้านทักษะดิจิทัล เป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ความสามารถของประเทศ ซึ่งนโยบายเงินดิจิทัลของรัฐบาลนั้น ผมมองว่านอกจากจะทำให้เกิดวงรอบในการจับจ่ายใช้สอย และเพิ่มมูลค่าทางจีดีพีแล้ว ยังจะทำให้เกิดการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานทางด้านสารสนเทศทางการเงิน การเพิ่มทักษะของคนในประเทศที่เกี่ยวกับดิจิทัล ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลได้ในอนาคต" รศ.ดร.พิสิษฐ์ กล่าว

ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร นักเศรษฐศาสตร์ ในฐานะรองประธานเลขาธิการหอการค้าไทย-จีน กล่าวว่า เงินดิจิทัลจะช่วยเพิ่มทักษะความรู้ความเข้าใจเทคโนโลยีด้านการเงินอีกให้กับคนไทยเพิ่มมากขึ้น โดยระบุออกเป็น 2 ประเด็นคือ ประเด็นแรกมองว่านโยบายเงินดิจิทัล จะทำให้คนไทยมีทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มขึ้น เพราะตอนนี้ประเทศจีนไปไกลมากไทยยังวิ่งตามหลัง ฉะนั้นโครงการนี้จะเป็นการปรับฐานคนไทย ให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะด้านดิจิทัลในวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายไปในกลุ่มคนที่อยู่ในพื้นที่ชนบท ซึ่งมองว่าตรงส่วนนี้จะเป็นการเตรียมความพร้อมในการที่จะขยับประเทศเข้าไปสู่โลกอนาคต คนของเราจำเป็นต้องมีเรื่องเหล่านี้ เพราะนี่คือทิศทางของโลกที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป ประเด็นที่สอง เงินดิจิทัลจะทำให้คนไทยมีประสิทธิภาพการจัดการเรื่องการเงิน และเป็นการสนับสนุนให้คนไทยเข้าสู่สังคมไร้เงินสดมากขึ้นในอนาคต เช่นเดียวกับประเทศจีนที่มีการจับจ่ายผ่าน Alipay และ WeChat Pay ดังนั้นไทยเราต้องมีการปรับตัว เดินหน้าที่จะพัฒนาทักษะการใช้เงินดิจิทัลให้กับประชาชนคนไทยมากยิ่งขึ้น