“หมอเลี้ยบ” มอบนโยบายสถานทูตไทย-กงสุลใหญ่ไทย ชี้ เป็นฟันเฟืองสำคัญ ช่วยประเทศผลักดันอุตสาหกรรมสร้างซอฟต์พาวเวอร์ให้ยืนหนึ่ง เหมือนสมัยรัฐบาล “ทักษิณ” เคยทำนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก สำเร็จมาแล้ว

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ มอบนโยบายและยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ที่รัฐบาลจะรุกบนเวทีโลกต่อจากนี้ หัวข้อ “ศักยภาพ Soft Power ไทย สู่ตลาดโลก” ในการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2566 ณ กระทรวงการต่างประเทศ 

นายแพทย์สุรพงษ์ กล่าวว่า โจทย์ใหญ่ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และรัฐบาลที่นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เล็งเห็นความสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และเพิ่มรายได้ของคนไทยทุกคนอย่างทั่วถึง ผ่านการทำให้ต้นทุนวัฒนธรรมของประเทศไทยที่มีอยู่แล้วมาผสานกับองค์ความรู้ต่างๆ เทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อนำมาซึ่งเศรษฐกิจที่ดีอย่างยั่งยืน 

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องผลักดันคือการเพิ่มรายได้ของคนไทย ผ่านการผลักดันคนเก่ง คนมีความสามารถ หรือคนที่มีความสนใจ ผ่านการบ่มเพาะศักยภาพคนไทย 20 ล้านคน ผ่านนโยบาย OFOS (One Family One Soft Power) หรือการปรับเปลี่ยนกฎหมาย ออกนโยบายเอื้ออำนวยความสะดวกต่อการทำงานของ 11 หน่วยงานอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการทำงานภายใต้หน่วยงาน THACCA (Thailand Creative Content Agency) ขณะเดียวกัน ยังจำเป็นต้องมีฝั่งนโยบายต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นองคาพยพที่สำคัญในการส่งเสริมยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อรุกต่อไปในเวทีโลก 

นายแพทย์สุรพงษ์ กล่าวต่อไปว่า เอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ไทย ถือเป็นมันสมองและเป็นเซลส์แมนที่สำคัญของประเทศ ดังนั้น ศักยภาพของสถานทูตไทยและกงสุลใหญ่ไทยในทั่วโลกมีพร้อมอยู่แล้ว ก้าวต่อจากนี้คือการเป็นฟันเฟืองสำคัญ ทั้งด้านการหาข้อมูลตลาดต่างประเทศ การประชาสัมพันธ์ และส่งออกผลผลิตจากอุตสาหกรรมเพื่อสร้างซอฟต์พาวเวอร์ไทยด้านต่างๆ ให้ได้รับการยอมรับในเวทีนานาชาติให้ได้

...

“เมื่อ 20 ปีที่แล้ว สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย นำโดย ดร.ทักษิณ ชินวัตร เคยทำนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก ประสบความสำเร็จ ส่งเสริมอาหารไทยและผู้ประกอบการอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักของชาวโลก ครั้งนี้ประเทศไทยจะผลักดันอุตสาหกรรมสร้างซอฟต์พาวเวอร์ทั้งระบบให้ยืนหนึ่ง เป็นที่น่าภาคภูมิใจให้คนไทย และเชื้อเชิญให้นานาชาติโอบกอดเอาไว้ได้อีกครั้ง ซึ่งจากบทเรียนจากอดีตสอนว่าการจะสร้างซอฟต์พาวเวอร์ต้องทำทั้งระบบเพื่อสร้างกลไกพัฒนายุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์”