ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำคุก “รุ้ง-ไมค์-ครูใหญ่” 9 เดือน ปรับคนละ 525 บาท ไม่รอลงอาญา คดีม็อบ 10 กุมภาพันธ์ 64 ยกฟ้อง 4 ข้อหา ยื่นหลักทรัพย์ 25,000 บาท ประกันตัว

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งศาลมีคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์, และนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ เป็นจำเลย 1-3 ฐานมั่วสุมกว่า 10 คน ให้เกิดความวุ่นวาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215, พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548, พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535, พระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 จากเหตุชุมนุมตีหม้อไล่เผด็จการ ที่บริเวณด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องไปจนถึงด้านหน้า สน.ปทุมวัน เพื่อเรียกร้องสิทธิในการประกันตัวให้กับนักกิจกรรมทางการเมืองเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 โดยจำเลยมาศาลครบ

อัยการฟ้องว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 จำเลยทั้ง 3 กับนักกิจกรรมรายอื่นอีก 8 รายร่วมกันกระทำความผิด โดยทั้ง 3 ได้ร่วมกันจัดการชุมนุมทางการเมืองในนามกลุ่มราษฎร ในระหว่างที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่บริเวณด้านหน้าของของหอศิลป์ แยกปทุมวัน กทม. โดยไม่มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในระหว่างการชุมนุม ทั้ง 3 คนและกลุ่มผู้ชุมนุม ยังได้ใช้โทรโข่งขยายเสียงปราศรัย อันเป็นการใช้เครื่องขยายเสียง ร่วมกันตั้งเวทีและเก้าอี้บนถนนบริเวณหน้าหอศิลป์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจร มีการพ่นสีลงบนถนนหน้าศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ (มาบุญครอง) และผู้ชุมนุมราว 1,000 คน ยังได้เดินเท้าไปยังสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน (สน.ปทุมวัน) 

...

ทั้งนี้ จำเลยทั้ง 3 มีหน้าที่สั่งการในการชุมนุม ได้ปล่อยให้ผู้ชุมนุมกีดขวางทางสาธารณะจนเป็นอุปสรรคต่อการจราจร และยังได้ร่วมกับนักกิจกรรมอื่นปราศรัยที่หน้า สน.ปทุมวัน ให้ปล่อยตัวแกนนำที่ถูกจับกุม จากนั้นผู้ชุมนุมกระจายตัวล้อม สน.จำเลย พร้อมทั้งปาประทัด ขวดน้ำ และของแข็งเข้าไปใน สน. อันเป็นการมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยมีจำเลยทั้ง 3 เป็นผู้สั่งการ มีเจตนาทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังวางแนวป้องกันสถานที่ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ 7 ราย ได้รับบาดเจ็บ และสร้างความเสียหายกับรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณ สน.ปทุมวัน ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการที่ใช้ในการสืบสวนคดีอาญาและใช้จับกุมผู้กระทำความผิด ทำให้เกิดความเสียหาย คิดเป็นค่าเสียหาย 155,586 บาท

ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215, กีดขวางทางสาธารณะ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 700 บาท จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกคนละ 9 เดือน ปรับคนละ 525 บาท ไม่รอลงอาญา แต่ยกฟ้องข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, ทำร้ายเจ้าพนักงาน, ทำให้เสียทรัพย์ และ พ.ร.บ.ความสะอาด ต่อมาจำเลยขอประกันตัวไปได้ในหลักทรัพย์คนละ 25,000 บาท.