คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย จี้รัฐ ทบทวนการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เชื่อเงินจะหมุนเพียงรอบเดียว แถมเอื้อสะดวกซื้อรายใหญ่ แนะทำอย่างรอบคอบไม่หวังแค่คะแนนนิยม ชี้เป็นภาระลูกหลานในอีก 10 ปีข้างหน้าแน่นอน 

วันที่ 11 พ.ย. 2566 นายรณกาจ ชินสำราญ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดี ว่า รัฐต้องออกแบบและทำให้เงินหมุนไปหลายรอบเหมือน Helicopter Money ที่โปรยถึงมือประชาชนทุกคนโดยตรง เพื่อให้ประชาชนหมุนเงินได้ทั่วระบบเศรษฐกิจ แต่การแจกเงินเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้กับรัฐบาล ควบคู่กับการใช้จ่ายของภาครัฐที่ขาดประสิทธิภาพ จะทำให้เศรษฐกิจแย่ลงอีก เพราะเงินที่ควรจะหมุนได้ 5-6 รอบ กลับหมุนได้เพียงรอบเดียว หรือไม่ถึงรอบ

เมื่อรัฐบาลต้องกู้มาแจก ต้องมีดอกเบี้ยมหาศาลผูกพันไปถึงอนาคต รวมถึงขาดประสิทธิภาพในการใช้จ่ายและการวางแผนที่รอบคอบของภาครัฐ การแจกครั้งนี้จะยิ่งเป็นพิษร้ายซึมลึกลงในระบบเศรษฐกิจ ส่งต่อไปให้ลูกหลานเราในอีก 10 ปีข้างหน้าแน่นอน ฝากประชาชนอย่าเข้าใจผิด ว่าแจกเงินรอบนี้แล้วจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้  

ตนจึงขอวิงวอนให้รัฐบาลทบทวนออกแบบการหมุนของเงินให้รอบคอบ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาเงื่อนไขการใช้เงินที่รัฐบาลนำเสนอก่อนหน้านี้ มีแนวโน้มสูงมากที่เงินจะหมุนได้เพียงรอบเดียว หรือมากกว่านั้นเพียงเล็กน้อย เพราะลักษณะการใช้เอื้อให้ประชาชนใช้จ่ายตรงกับร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วทุกสี่แยก มากกว่าการสนับสนุนให้คนไปใช้จ่ายในร้านค้าชุมชน เพื่อให้เงินกระจายไปทุกภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจ

ดังนั้น การแจกเงินจำนวนมหาศาล ควบคู่กับการใช้จ่ายและวางแผนของภาครัฐที่ขาดประสิทธิภาพ อาจเป็นเพียงแค่การสร้างคะแนนนิยมของรัฐบาล หรือการซื้อเสียงทางอ้อมหรือไม่ และมีแนวโน้มจะทำให้เศรษฐกิจแย่ลงไปอีกใช่หรือไม่ 

...

ที่สำคัญการแจกเงิน เป็นเพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเท่านั้น ไม่ใช่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะยาว เพราะการแก้ปัญหาในระยะยาวต้องให้ความสำคัญกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในด้านการแข่งขันของประเทศ และเกิดการจ้างงานมหาศาล เช่น การสนับสนุนด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรม หรือการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศ