“เศรษฐา” ถอดหมวกนายกฯ คุยแกนนำพรรคร่วมฯ ฉันพี่น้อง บรรยากาศชื่นมื่น บอกลงเรือลำเดียวกันแล้วทุกคนต้องช่วยกัน “ภูมิธรรม” ยันทุกพรรคแฮปปี้ดี แจง “นายกฯ-อุ๊งอิ๊ง” แบ่งงานกันทำ “เสี่ยหนู” ยอ “อุ๊งอิ๊ง” ดังอยู่แล้วไม่ต้องโปรโมต ถึงเวลาอันควร-องค์ประกอบครบก็ขึ้นผู้นำได้ “เศรษฐา” แถลงโชว์ผลงานรัฐบาล 60 วัน แก้ปากท้อง ลดค่าครองชีพ ดันการท่องเที่ยว พักหนี้เกษตรกร เดินสายสร้างความเชื่อมั่นดึงนักลงทุน ลั่นไม่เคยพูดที่ไหนจะยุบ กอ.รมน. อาสามาทำงานไม่มีสิทธิ์บ่น “ภัทรพงศ์” สส.เชียงใหม่ ก.ก. ลากไส้ลูกน้องเก่าผิดหวังเก้าอี้เลยให้ออกมาร้ายด้วยความเท็จ ยันใช้เงินส่วนตัวหาเสียง

หลังบรรยากาศดินเนอร์มื้อหรูสุดชื่นมื่น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ โอภาปราศรัยหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ได้แลกเปลี่ยนความเห็นพร้อมขอคำแนะนำกันหวานชื่น ล่าสุดนายเศรษฐาแถลงผลงานรัฐบาลผ่านรายการพิเศษ “Chance of Possibility จากนโยบายสู่การลงมือทำจริง 60วัน”

...

ถอดหมวกนายกฯคุยฉันพี่น้อง

เมื่อเวลา 10.49 น. วันที่ 9 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการรับประทานอาหารค่ำร่วมกับหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ว่า บรรยากาศสบายๆ พูดคุยเป็นกันเองทานอาหารอร่อยๆ มีหมูแดงสไตล์ฮ่องกงที่ทุกคนชอบ บะหมี่ที่ใช้มือปั้นเองมาโชว์ให้ดู อยู่กันถึง 4 ทุ่มกว่า ในฐานะเพิ่งเข้าสู่การเมืองไม่เคยเป็นรัฐมนตรีมาก่อน วันนี้มาดำรงตำแหน่งนายกฯไม่ชำนาญใช้เวทีที่เป็นทางการมากนักเท่าพี่ๆน้องๆ จึงถอดหมวกความเป็นนายกฯมาเป็นพี่ เช่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หรือนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเป็นน้องเพราะมีวัยวุฒิน้อยกว่ากับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน หลายท่านเคยดำรงตำแหน่งมาหลายรัฐบาล คุยถึงวิธีการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ละคนมีข้อแนะนำกันมา ก็น้อมรับไปปฏิบัติ

บรรยากาศดีไม่มีเรื่องต่อรอง

นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องที่หนักมาก แต่เป็นเรื่องวิธีการทำงานและพรรคร่วมรัฐบาลพูดคุยตักเตือน ก็แสดงตัวไปว่าเป็นคนอย่างไร อธิบายให้พี่ๆน้องๆฟังว่าสไตล์การบริหารเป็นอย่างไร มีหลายท่านแนะนำว่าควรทำอย่างไร เช่น นายภูมิธรรมเป็นคนที่มีพรรษาทางการเมืองเยอะ มีวัยวุฒิสูง และตนให้ความเคารพในพรรค พท.อยู่แล้ว ได้อธิบายให้ฟังถึงวิธีการทำงานกับรัฐมนตรีท่านอื่นด้วย และสอนให้ปรับปรุงตัวเองเพราะนายกฯเป็นคนพูดตรง ตรงนี้อาจต้องนำไปปรับปรุงบ้าง เพื่อให้ไปถึงจุดมุ่งหมายที่ดี เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีคำแนะนำอะไรบ้าง นายกฯตอบว่า ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ไม่มีพูดคุยต่อรองหรือขอนโยบายอะไรมา แต่แนะนำกันว่าอยากให้เจอกันบ่อยขึ้น สลับกันเป็นเจ้าภาพ คราวหน้าเป็นนายอนุทิน และมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯเข้าร่วมด้วย มีความสนิทสนมกับหลายๆท่านตรงนั้น ในฐานะเป็นนายกฯน้อยน่าจะเข้ามามีส่วน ช่วยเหลือประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาล และรองนายกฯท่านอื่นได้ดีขึ้น

ลงเรือลำเดียวทุกคนช่วยกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล ขอความร่วมมืออะไรจากพรรคร่วมรัฐบาลเป็นพิเศษหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่มี เชื่อว่าทุกคนรู้หน้าที่ดีอยู่แล้วว่าเรามาร่วมเรือลำเดียวกัน เรามาช่วยกัน เรามาที่นี่เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน เมื่อถามว่าการที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยมาร่วมด้วย เหมือนเป็นการสอนงานการเมืองไปในตัวหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่มี น.ส.แพทองธารมีความคุ้นเคยกับหลายท่านอยู่แล้ว คงเห็น น.ส.แพทองธารเดินตามอดีตนายกฯมานานแล้ว ไม่ได้มีนัยอะไร

เงินดิจิทัลขอพูดคนเดียวจบ

เมื่อถามว่ามีการสอบถามหรือมีข้อห่วงใยเกี่ยวกับนโยบายโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่มี ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าวันที่ 10 พ.ย. เวลา 14.00 น. จะมีการแถลงข่าวมีความชัดเจนแน่นอน เมื่อถามว่าเป็นข่าวดีเลยใช่หรือไม่ นายกฯยิ้มพร้อมตอบว่า “บอกแล้วว่าอย่าพูดเล็กพูดน้อย เดี๋ยวผมพูดเอง พูดคนเดียวจบเลย”

ทุกพรรคแฮปปี้ประสานงานกันดี

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า เมื่อคืนนายกฯถือโอกาสมาพูดคุย สอบถามสารทุกข์สุกดิบ ทุกคนก็รู้สึกดีที่ได้รับประทานอาหารที่นายกฯเป็นเจ้าภาพ มีการตกลงกันว่า จะหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพเดือนละครั้ง ต่อไปเป็นพรรคภูมิใจไทย พูดคุยกันว่าจะประสานงานกันได้อย่างไร การทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลที่ผ่านมาถือว่าเป็นไปด้วยดี จากนี้จะช่วยกันทำงานแก้วิกฤติประเทศ ทุกคนเต็มที่ บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างสนุกสนาน มีกระแสข่าวความขัดแย้งของตนกับ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม อาจนัดจูงมือกันเข้าประชุม ครม.นัดต่อไป ความร่วมมือแบบนี้น่าทำให้รัฐบาลทำงานได้เต็มที่

ย้ำ “นายกฯ–อิ๊ง” แบ่งงานกันทำ

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่นายกฯนัดพรรคร่วมทานข้าว เป็นเพราะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีบทบาทเด่นกว่านายกฯหรือไม่ นายภูมิธรรมปฏิเสธว่า ไม่มี น.ส.แพทองธารกับนายกฯพูดคุยกันตลอด ช่วยกันทำงานแต่ละหน้าที่ที่รับผิดชอบ ขณะนี้เรื่องของพรรคเพื่อไทยเป็นหน้าที่ของ น.ส.แพทองธาร ที่จะทำพรรคเพื่อไทยให้เข้มแข็ง ขณะที่นายกฯทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ต้องประสานกับคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ เพื่อทำงานให้ได้ตามเป้าหมาย เป็นการแยกกันทำหน้าที่ชัดเจน แต่พูดคุยกันตลอด ส่วนการประชุมพรรคหากมีเรื่องสำคัญ ตนกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯเข้าร่วมตลอด ถ้านายกฯไม่ติดภารกิจก็จะเข้าร่วมประชุมพรรคด้วย จะได้มีความสัมพันธ์กับ สส. เพราะ สส.ไปลงพื้นที่พบประชาชนจะได้สะท้อนกลับมาเพื่อมาปรับการทำงาน หากติดขัดอะไรจะได้หาทางแก้ปัญหาหรือพูดคุยกัน

พรรคร่วมผลัดกันเป็นเจ้าภาพ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ในวงดินเนอร์พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ทำอะไรไปแล้วบ้าง การได้รับประทานอาหารค่ำร่วมกันเป็นสิ่งที่ดี ได้แลกเปลี่ยนพูดคุยแนวทางการทำงานนายกฯไม่ได้เพิ่มเติมให้พรรคร่วมรัฐบาลทำเรื่องใดเป็นพิเศษ นายกฯน่ารักมาก มีประสบการณ์ด้านธุรกิจ จึงมาฟังผู้หลักผู้ใหญ่ทางการเมืองถึงความคิดเห็นทางการเมือง อาจมีการเวียนกันเป็นเจ้าภาพ หากเรียงตามขนาดของพรรค ต่อไปก็เป็นพรรคภูมิใจไทย แต่จะนัดกันบ่อยแค่ไหนต้องดูอีกครั้ง นายกฯดูแฮปปี้ในการทำงาน และทำการบ้านมาดี มีทีมอยู่เบื้องหลังที่ดีรวมถึงนายกฯก็มีองค์ความรู้เยอะ และให้เกียรติกับทุกพรรค ทั้งนี้ในที่ประชุมยังไม่ได้พูดถึงโปรเจกต์ใหญ่ของรัฐบาลที่จะทำร่วมกัน

“เสี่ยหนู” ยอ “อุ๊งอิ๊ง” ดังอยู่แล้ว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว. มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ยังไม่ได้กำหนดนัดกันรอบใหม่ เมื่อคืนบรรยากาศดีพูดคุยกันหลายเรื่อง มีความเข้าใจกันอยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไร พรรคภูมิใจไทยต้องสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลในหน้าที่ของพรรคร่วม ประคองทั้งทางการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดินให้ดีที่สุด ทุกคนรู้จักคุ้นเคยกันดี และ น.ส.แพทองธารถือเป็นส่วนหนึ่งของวงกินข้าว ไม่ได้ถือว่าเป็นแขก ยืนยันว่าไม่ใช่การโปรโมต น.ส.แพทองธาร เพราะดังอยู่แล้วดังกว่าพวกเราอีก ส่วนที่มองว่าเป็นการปูทางไปสู่เก้าอี้นายกฯ ถ้าถึงเวลาอันควรและเจ้าตัวพร้อมองค์ประกอบครบ ต้องเป็นไปตามนั้น ถือว่ามีความเป็นผู้ใหญ่แล้ว

มอบรางวัลผู้ประกอบการดีเด่น

ช่วงเช้าที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง เป็นประธานพิธีมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2566 (Prime Minister’s Export Award 2023) รวม 40 รางวัล มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ คณะทูตานุทูต ผู้บริหารหน่วยงานที่ได้รับรางวัล เข้าร่วมงาน นายกฯกล่าวว่า เป็นรางวัลเชิดชูผู้ประกอบการไทยที่มุ่งมั่น ทุ่มเท เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการให้มีคุณภาพมาตรฐานในทุกมิติ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เป็นขวัญกำลังใจ และเป็นแรงบันดาลใจผู้ประกอบการไทย ผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกถือเป็นฟันเฟืองสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รัฐบาลมุ่งเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการในการส่งออก เน้นสร้างรายได้เข้าประเทศ โดยใช้การทูตเชิงรุก หลังการมอบรางวัลนายเศรษฐายังเดินชมบูธที่ผู้ประกอบการนำมาแสดงด้วย

ตั้งทีมปราบเฟกนิวส์โลกโซเชียล

ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลนายเศรษฐาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์ ครั้งที่ 1/2566 ที่ประชุมรับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ และรับทราบการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาข่าวปลอม รวมถึงพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้ดำเนินการหลัก ให้ตั้งไลน์กลุ่มแบ่งเป็น 2 ทีม ทีมแรกทำหน้าที่ส่งประเด็นข่าวที่สำคัญที่เข้าข่ายให้ข้อเท็จจริง ทีมสองทำหน้าที่ให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง ส่วนการบังคับใช้กฎหมายรวมทั้งดำเนินคดี มอบหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นศูนย์กลางรับเรื่องและเชื่อมโยงกับ AOC 1441 ทั้งนี้นายกฯเน้นย้ำให้ทุกหน่วยเร่งชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องให้ทันเวลา โดยเฉพาะนโยบายรัฐบาล

“เศรษฐา” โชว์ผลงานรัฐบาล 60 วัน

กระทั่งเวลา 20.30 น. นายเศรษฐาแถลงผลงานรัฐบาลผ่านรายการพิเศษ “Chance of Possibility จากนโยบายสู่การลงมือทำจริง 60 วัน ภายใต้รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน” ผ่านช่อง NBT 2 HD, NBT 11 ความยาว 42 นาที เนื้อหาส่วนใหญ่กล่าวถึงผลงานที่ทำมาทั้งมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว มาตรการระยะสั้นที่เป็นระยะเร่งด่วน เน้นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนปากท้องประชาชน ลดค่าครองชีพ อย่างลดค่าไฟ ลดราคาน้ำมันดีเซล-เบนซิน พักหนี้เกษตรกร มาตรการระยะกลาง จะมีการลดหนี้นอกระบบ ส่วนการเพิ่มรายได้มีหลายมิติ เช่น เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต จะแถลงรายละเอียดทั้งหมดในวันที่ 10 พ.ย. ทั้งเรื่องที่มาของเงิน ใครจะได้รับบ้าง ใช้กับสินค้าประเภทใด และระยะทาง นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญเกษตรกรที่มีอยู่หลายสิบล้านคน เราจะเข้าไปให้องค์ความรู้เรื่องผลผลิตต่อไร่ การใช้กลไกการตลาด เปิดตลาดใหม่ๆ เช่น ในกลุ่มแอฟริกา กลุ่มตะวันออกกลาง เรื่องการท่องเที่ยวมีการให้วีซ่าฟรีกับจีน ไต้หวัน อินเดีย คาซัคสถาน รวมถึงขยายวีซ่าให้กับรัสเซีย เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมถึงขยายการท่องเที่ยวไปยังเมืองรอง ด้านคมนาคม เรื่องของรถไฟความเร็วสูง การเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านถือเป็นเรื่องสำคัญ

เดินสายดึงกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ

ผู้ดำเนินรายการถามถึงการเดินทางไปต่างประเทศช่วง 60 วันที่ผ่านมา นายเศรษฐาตอบว่า การเดินทางไปสหรัฐฯรอบแรกได้พูดคุยกับเอกชนหลายราย ไปบอกว่าประเทศไทยเปิดแล้ว ไม่มีเวลาไหนดีเท่าเวลานี้ที่จะมาลงทุนในไทย เรามีความพร้อมทั้งมาตรการสนับสนุนด้านภาษี เรื่องพลังงานสะอาดที่มีเหนือสิ่งอื่นใด ค่าครองชีพของเราดีกว่าประเทศเพื่อนบ้าน มีสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิต เดินทางไปเยือนประเทศในอาเซียน ทั้งกัมพูชา บรูไน มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ไปแนะนำตัว พูดคุยถึงโอกาสทางธุรกิจ รับฟังปัญหาที่เขาอยากให้ช่วยเหลือ เมื่อผู้ดำเนินรายการถามถึงปัญหาอาชญากรรมยาเสพติด นายเศรษฐาตอบว่า ถือเป็นวาระแห่งชาติ นั่งหัวโต๊ะจัดการเอง เราจะเร่งจัดการเรื่องการยึดทรัพย์ เพราะคนค้ายาไม่กลัวติดคุก แต่กลัวเรื่องการยึดทรัพย์

ไม่เคยพูดที่ไหนจะยุบ กอ.รมน.

เมื่อถามถึงเรื่องกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นายเศรษฐาตอบว่า สัปดาห์ที่ผ่านมามีการพูดถึง กอ.รมน.เรื่องยุบไม่ยุบ ก็ตกใจไม่เคยบอกต้องยุบ ตอนแถลงนโยบายก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ แต่ทุกองค์กรไม่ใช่ กอ.รมน.อย่างเดียว จะเป็นบีโอไอหรืออีอีซีก็ต้องมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปตามสังคม คอยดูแล้วกันว่า กอ.รมน.ที่ตนนั่งเป็นผู้อำนวยการอยู่จะพัฒนาไปได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร ส่วนเรื่องการเกณฑ์ทหาร แน่นอนว่าเราต้องให้เยาวชนมีสิทธิเสรีภาพในการเลือกประกอบอาชีพ ถือว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำความไม่สบายใจของสังคม อย่างไรก็ตามเรื่องใหญ่คือเรื่องปากท้อง รัฐบาลพยายามเต็มที่ อะไรทำได้เราจะทำก่อน ทำอย่างไม่หยุดยั้งลืมเหน็ดเหนื่อย เหนือสิ่งอื่นใดทุกภาคส่วนต้องเข้าใจก่อนว่าปัจจุบันเศรษฐกิจอยู่ในภาวะไม่ค่อยดี ดังนั้นการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ ทุกภาคส่วนต้องทำงานเต็มที่ รัฐบาลพยายามให้งานออกไปให้ได้โดยเร็วที่สุด สำหรับปัญหาทางด้านสังคม ปัญหาความเหลื่อมล้ำ เช่น เรื่องของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เราตั้งคณะกรรมการมาแล้ว และเขียนไทม์ไลน์ชัดเจน

อาสามาทำงานไม่มีสิทธิโอด

นายกฯกล่าวอีกว่า ที่ถามว่า 60 วันที่ผ่านมาในชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหม จริงๆเราอาสาเข้ามาทำงานไม่มีสิทธิบอกว่าเหนื่อย อุปสรรคสำคัญที่สุดคือเวลาไม่พอ ไม่พอทุกอย่าง เวลาไม่พอในการทำงาน เวลาไม่พอในการนอน เพราะต้องมีงานทำอะไรหลายๆอย่าง ที่มีคนบอกว่าอยากให้ 1 วันมีมากกว่า 24 ชั่วโมงเนี่ย อันนี้เรื่องจริง เป็นเรื่องที่ต้องบริหารจัดการ ทีมงานตระหนักดีถึงความสำคัญที่จะต้องเร่งเข็นผลงานออกมา Quick Win มีการพูดคุยกันมีการเชื่อมต่อกันระหว่างหน่วยงานต่างๆเพราะว่า 10 ปีที่ผ่านมา จีดีพีไทยโต 1.8% น้อยกว่าเพื่อนบ้าน การขยายโอกาสจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ อาทิ การเจรจาสนธิสัญญาการค้า หรือ FTA เราต้องเปิดการค้าขายทั่วไปกับทุกประเทศ ต้องเร่งเจรจาเรื่องเหล่านี้ และภาคส่วนสำคัญที่สุดคือข้าราชการ ข้าราชการไทยมีคุณภาพ และรักประเทศชาติ ฉะนั้นเราต้องให้ความมั่นใจในการโยกย้ายข้าราชการ การให้เกียรติ ฟังความคิดเห็นของทุกหน่วยงาน

“วรชัย” ฉุนทีมโทรโข่งรัฐสุดห่วย

ขณะที่นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจรัฐบาล และนายกฯที่ขยันขันแข็ง พยายามทำงานช่วยเหลือประชาชน สร้างความหวังให้ประเทศ ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีผลงานออกมามากมาย เรียกความเชื่อมั่นจากนานา ชาติ แต่น่าเสียดายว่าการประชาสัมพันธ์ไม่ดี ไม่ขยายผลต่อยอด ตั้งแต่รัฐมนตรี ทีมโฆษกรัฐบาล ไปจนถึงคนในพรรค มัวทำอะไรกันอยู่ เวลาถูกทุบตีก็ไม่มีใครออกมาปกป้องตอบโต้แทน นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่ได้ลงมือทำก็โดนรุมจากบรรดานักวิชาการ พวกขาประจำ ยังไม่นับรวมฝ่ายค้านพรรคก้าวไกลที่วันนี้ยังป้อแป แต่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถแก้ต่างตอบโต้ให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ ปล่อยไปแบบนี้จะเหมือนในอดีตที่เราแพ้ทางการเมือง อยากฝากเตือนคนในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล ลงเรือลำเดียวกันแล้วต้องช่วยเหลือกัน ไม่ใช่นิ่งดูดายเอาแต่ลอยตัว

สส.เชียงใหม่ลากไส้ลูกน้องเก่า

วันเดียวกัน นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงเรื่องค่าใช้จ่ายหาเสียงเลือกตั้งว่า ตามที่มีอดีตผู้ช่วยหาเสียงบางรายกล่าวหาตนว่าปลอมแปลงเอกสารค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งไปเบิกเงินพรรค เป็นความเท็จทั้งสิ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายหาเสียงเลือกตั้งแทบทั้งหมด เป็นเงินสดส่วนตัว พรรคสนับสนุนเป็นป้ายหาเสียง รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้หาเสียงเป็นหลัก มีการสนับสนุนเป็นเงินบริจาคที่ได้รับจากประชาชนที่พรรคจัดสรรให้เท่านั้น จึงไม่มีมูลเหตุจูงใจใดๆให้ปลอมแปลงเอกสารไปเบิกเงินจากพรรคตามที่ถูกกล่าวหา กลับกันจะปลอมเอกสารขึ้นเพื่อเบิกเงินตัวเองไปทำไม ข้อกล่าวหาดังกล่าวจึงเป็นความเท็จทั้งสิ้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ กกต.จังหวัด พร้อมและยินดีเข้าสู่กระบวนการการตรวจสอบตามกฎหมายทุกประการ การร้องเรียนที่เกิดขึ้นสันนิษฐานว่าอาจเกิดขึ้นจากความไม่พอใจของอดีตผู้ช่วยหาเสียงบางคนที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วย สส. และอดีตผู้ช่วย สส.บางคนที่ถูกปลดออก

“อี้” มาอีกคราวนี้แฉผู้ช่วย สส.จันทบุรี

ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมนายนิยม นพรัตน์ หรือเค สามถุยส์ นำผู้อำนวยการ (ผอ.)โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.จันทบุรี เข้ายื่นหนังสือถึงนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอความเป็นธรรมกรณีโดนผู้ช่วย สส.จันทบุรีของพรรค ก.ก.คนหนึ่ง อักษรย่อ “จ” คุกคาม นายแทนคุณกล่าวว่า ผู้ช่วย สส.คนดังกล่าวขอให้ ผอ.คนนี้ช่วยออกใบอนุโมทนา 2 ใบ ใบแรกเป็นเงิน 8 แสนบาท ใบที่สอง 3.7 แสนบาท แต่ ผอ.ไม่ยอมออกให้ จึงโดนใส่ร้ายป้ายสีกระทบเรื่องส่วนตัว อีกทั้งยังบุกเข้ามาโวยวาย ผอ.ว่าทุจริตคดโกง ยังมีอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วย สส. ผู้ชำนาญการหลายพื้นที่ รวมทั้งตัว สส.เองอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

นายกฯฉุนปั๊มขึ้นป้ายน้ำมันหมด

อีกเรื่อง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประชาชนร้องเรียนปั๊มน้ำมันขึ้นป้ายน้ำมันหมดหลังประกาศลดราคาน้ำมันเบนซินว่า ได้ยินเรื่องดังกล่าวมาบ้าง โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ได้กำชับแล้วต้องตรวจสอบว่าน้ำมันขาดไม่ได้ เป็นหน้าที่ของกระทรวงพลังงานที่ต้องกำกับดูแลในเรื่องนี้ให้เหมาะสม เมื่อถามว่าเป็น ลักษณะการกักตุนเพื่อเก็งกำไรสินค้าหรือไม่ นายกฯตอบว่า ก็คงเป็นเรื่องของการอยากมีกำไรมากขึ้น แต่เราคงยอมรับไม่ได้ ก็ต้องบริหารจัดการไป

“พิชิต” ลุยสังคายนาประกาศ คสช.

นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการยกเลิกประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีผลบังคับใช้ไม่เหมาะสมสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญว่า จะดำเนินการตามลำดับศักดิ์ของกฎหมาย ถ้ามีศักดิ์เทียบเท่า พ.ร.บ.ต้องยกเลิกด้วยกระบวนการนิติบัญญัติ ออกเป็น พ.ร.บ.กลางขึ้นมาไว้เป็นบทแนบท้าย ในจำนวนนี้มีประกาศและคำสั่ง คสช.ทั้งสิ้น 71 ฉบับ อาทิ ประกาศ คสช.ฉบับที่ 26/2557 เรื่องการดูแลและสอดส่องการใช้สื่อออนไลน์ ส่วนที่เห็นว่ายังสามารถใช้ได้อยู่จะปรับปรุง โดยนำหลักการที่มีในประกาศหรือคำสั่งไปบัญญัติไว้ในกฎหมายใหม่แทน มีทั้งสิ้น 37 ฉบับ ส่วนประกาศและคำสั่ง คสช.ที่ศักดิ์ต่ำกว่า พ.ร.บ.ฝ่ายบริหารสามารถออกเป็น พ.ร.ฎ.ยกเลิกได้ 2 ฉบับ ออกกฎกระทรวงยกเลิกได้ 2 ฉบับ และออกเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยกเลิกได้ 55 ฉบับ รัฐบาลจะรีบสังคายนาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ปัจจุบันโดยเร็วที่สุด

“สุทิน” ไม่หวั่นกลาโหมถูกล็อกเป้า

ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมแถลงผลงาน 2 เดือนว่า กระทรวงกลาโหมกำลังสรุปผลงานอยู่ ทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้นแม้จะมีเรื่องการคืนที่ดินของกองทัพแต่ยังไม่จบสมบูรณ์ และสิ่งที่ทำอยู่ เช่น การเกณฑ์ทหารที่ยอดสมัครเป็นทหารทางออนไลน์มีมากขึ้น เชื่อว่าเมื่อถึงฤดูเกณฑ์ทหารปีหน้ายอดน่าจะถึงเป้า จากเดิมที่คิดว่าอาจใช้เวลา 2-3 ปีจะเข้าเป้า เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่กระทรวงกลาโหมถูกล็อกเป้าตรวจสอบ นายสุทินตอบว่า ไม่หวั่นไหวอะไร เรารู้ตัวว่าทำอะไรอยู่พอใจในสิ่งที่ทำ การขับเคลื่อนผลงานต้องอาศัยงบฯ แต่ตั้งแต่เข้ามาทำงานยังใช้งบฯของรัฐบาลชุดก่อน คงต้องรอดูงบฯปี 2567 และ 2568 ยอมรับว่ากระทรวงกลาโหมต้องทำงานมากกว่ากระทรวงอื่น มีแต่เรื่องใหญ่ๆ

“วรงค์” โวย กกต.ตั้งธงเชือด ทภด.

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี (ทภด.) เข้ายื่นหนังสือแก้ข้อกล่าวหาที่แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนา 2475 ยื่นร้องขอให้ยุบพรรคกรณีมีพฤติการณ์เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง กรณี นพ.วรงค์กล่าวระหว่างประชุมพรรควันที่ 5 ส.ค.2566 ระบุ “การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นมรดกบาปของคณะราษฎร และถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องสถาปนาการปกครองที่พระมหากษัตริย์ พรรคการเมือง และประชาชนอยู่ร่วมกันเพื่อความผาสุกของประชาชน ซึ่งก็คือราชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ” นพ.วรงค์กล่าวว่า สงสัย กกต.ทำไมรีบเร่งตรวจสอบทันที เมื่อเทียบกับบางพรรคที่เสนอแก้มาตรา 112 ยังไม่ดำเนินการเลย ระหว่างราชาธิปไตยกับแก้มาตรา 112 สิ่งใดเข้าข่ายล้มล้างการปกครองมากกว่า

ศาลเลื่อนตัดสินคดี “ปู” สั่งเด้ง “ถวิล”

ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เมื่อครั้งเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯโดยมิชอบ คดีนี้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายตามคำร้องของนายถวิล อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย และ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2563 ก่อนส่งให้อัยการสูงสุดฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีนายวิญญัติ ชาติมนตรี และนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นตัวแทนรับฟังคำพิพากษา ทั้งนี้ ศาลได้เลื่อนอ่านคำพิพากษาเนื่องจากมีเหตุจำเป็นเลื่อนนัดไปเป็นวันที่ 29 พ.ย.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่