ขอต่อกันอีกวันกับการสร้างบ้านแปงเมืองของพรรคเพื่อไทย ภายใต้ มือผู้นำหญิงคนใหม่ ในวัย 37 ปี “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คนที่ 8 และคณะกรรมการบริหารพรรค 23 คน ที่อุดมไปด้วยคนหนุ่มคนสาว กลุ่มคนรุ่นใหม่ตัวแทนกลุ่มบ้านใหญ่ และกลุ่มผลประโยชน์

เมื่อวานนี้ผมเขียนต้นฉบับเป็นวันเดียวกับที่ ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ ได้สัมภาษณ์พิเศษ คุณแพทองธาร มีรายละเอียดที่น่าสนใจที่ทำให้เห็นถึงทิศทางในการบริหารพรรคต่อไปในอนาคต เริ่มที่การออกตัวมาก่อนเลยว่า ยังไม่ทราบหรอกว่าการเลือกตั้งในอนาคตข้างหน้า คู่แข่งวันนั้นจะเป็นใคร แต่มีคู่แข่งแน่นอน คือไม่ได้พูดชัดเจนว่าเป็นพรรคก้าวไกล ที่ถูกมองว่าจะขึ้นมาเป็นคู่ต่อสู้เบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทย

มุ่งเน้นไปที่การพลิกมุมมองต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ทั้งหมดภายในพรรค ปรับปรุงการสื่อสารภายในพรรคให้ดีขึ้น การสื่อสารต่อสังคม ทำอย่างไร ให้ประชาชนรู้สึกว่าอยากเลือกเพื่อไทย ให้กลับมาอยู่ในใจประชาชน ในฐานะพรรคการเมืองอันดับ 1 อีกครั้ง ด้วยการถอดบทเรียนจากการพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี ให้แก่พรรคก้าวไกล ไปแบบงงๆ โดยใช้จุดแข็งเพื่อไทย คือ การทำนโยบายให้สำเร็จ

ผู้นำคนใหม่ของพรรคเพื่อไทย ยังยืดอกรับว่ามี อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง มีดีเอ็นเอของทั้งพ่อและแม่ผสมกันอยู่ โดย มีคุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจทางการเมือง และมีคุณแม่ที่คอยเป็นแบ็กอัปที่แข็งแกร่งให้ลูกสาวคนสุดท้องคนนี้ ในทุกเส้นทางเดิน “เรายึดครอบครัวเป็นหลัก คิดว่าเป็นเรื่องดี แต่ใครมองว่าเป็นเรื่องไม่ดี ก็ไม่ติดใจ...ถ้าได้นายกฯ ทักษิณ ที่มีความตั้งใจและความหวังดีต่อประเทศ มาเป็นที่ปรึกษาของอิ๊ง มันไม่ดีตรงไหน”

...

“พูดจริงๆ คุณหญิง (พจมาน) จะไม่ได้คอมเมนต์อะไรมากมาย แต่เวลาที่เจอเรื่องอะไรในชีวิต อิ๊งจะชัวร์มากที่มีคุณหญิง มันเป็นความอุ่นใจบางอย่างจริงๆ อันนี้เป็นเรื่องที่ไม่เคยพูดออกไป แต่เคยพูดกับแม่ว่าเขาเป็นความปลอดภัย ความอุ่นใจของอิ๊ง...แม่ไม่เคยห้ามตำแหน่งอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่าง
เป็นการตัดสินของอิ๊งหมด แต่ทุกครั้งเขาจะห่วง ห่วงหมด จะเป็นอันนี้เหรอ ยังไงไหวไหม จะเครียดไหม จะไหวไหม นี่คือสิ่งที่คุณหญิงห่วง”

และนี่กลายเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไม “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ถึงต้องขึ้นมานำทัพในเวลานี้ แทนที่จะรอไปถึงช่วงใกล้เลือกตั้งคราวหน้าแบบที่หลายคนวิเคราะห์กัน ก็เพราะไม่มีใครจะเหมาะสมไปกว่า แพทองธาร ชินวัตร อีกแล้ว ด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มกำลังจากคนในครอบครัว สามารถปักหมุดความเชื่อมั่นให้กับพลพรรคเพื่อไทยได้ ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าครอบครัวชินวัตรเอาจริง ไม่ต้องใช้นอมินี เพราะมีดีเอ็นเอสายตรง
ลงมาขับเคลื่อนเอง

ด้วย 4 วิสัยทัศน์ขับเคลื่อน ที่ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธารวางเอาไว้ ได้แก่ 1.ทำการเปลี่ยนถ่ายข้อมูลทั้งหมดไปสู่ดิจิทัล หรือ Digital Transformation เต็มรูปแบบ เปลี่ยนทุกกระบวนการในพรรคให้รวดเร็วและทันสมัยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ทุกเอกสาร ทุกคลังข้อมูล ต้องเปลี่ยนรูปแบบมาอยู่ในระบบดิจิทัล

2.สร้างองค์กรแนวราบ เพิ่มโอกาสการมีส่วนร่วมของบุคลากรให้มากที่สุด แต่มีกระบวนการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

3.เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ Learning Organization มีศูนย์ข้อมูล มีการวิจัยเพื่อสร้างนโยบายทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างรอบด้าน

และ 4.สร้างครอบครัวเพื่อไทยให้เป็นเครือข่ายแห่งความหวังของอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ต้องครอบคลุมทั่วถึงทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถสะท้อนเสียงทุกความต้องการของตัวเองและญาติมิตรมาสู่พรรคเพื่อไทยได้อย่างครบถ้วน

เพราะวันนี้ฉากทัศน์การเมืองไทย ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้ น.ส.แพทองธาร ต้องนั่งควบทั้งตำแหน่งหัวหน้าพรรค และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย รันงานไปพร้อมกันทั้ง 2 ขา เพื่อเป้าหมายกลับมาทวงแชมป์คืนจากพรรคคู่รักคู่แค้นอย่างก้าวไกล.

เพลิงสุริยะ

 

คลิกอ่านคอลัมน์ "หมายเหตุประเทศไทย" เพิ่มเติม