“เศรษฐา” ชี้ ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าแดง-ม่วง ทำได้ทำไปก่อน ยัน ไม่ได้ปลุกระดมประชาชนให้เห็นด้วยเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท แค่อยากรับฟังทุกฝ่าย เผย บินคุยจีน “เรือดำน้ำ” คาดหาทางออกให้ทุกฝ่ายยอมรับได้ 


วันที่ 16 ต.ค. 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีการเสนอลดอัตราค่าโดยสารสายสีแดง-สีม่วง 20 บาทตลอดสาย ว่า ต้องรอให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้แถลง ยืนยันว่า สายไหนทำได้ ทำก่อน 

ส่วนการลดราคาค่าโดยสารนี้เกิดขึ้นเร็วกว่าไทม์ไลน์ที่วางไว้ เพราะเดิมวางไว้เริ่มต้นปีหน้านั้น นายเศรษฐา บอกว่า หากมองแบบนี้ก็ดีใจ เพราะบางคนมองว่า ต้องทำทุกอย่างในเวลาเดียวกัน ทำได้แค่นี้ก็ทำก่อนประกาศก่อน พี่น้องประชาชนจะได้ใช้ก่อน

ส่วนกรณีที่นายเศรษฐา ได้พูดเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ตระหว่างลงพื้นที่พิษณุโลก ว่าให้ประชาชนที่เห็นด้วยออกมาส่งเสียง จะเป็นการปลุกระดมหรือแบ่งฝ่ายหรือไม่ นายเศรษฐา ยืนยันว่า ไม่ได้แบ่งแยกหรือปลุกระดม แต่เพราะมีคนอยากให้ตนเองรับฟังทุกเสียง ตนเองจึงต้องรับฟัง เช่น ประชาชนบางคนบอกว่าระยะทาง 4 กิโลเมตร ไม่มีร้านค้า ตนเองก็อยากให้ทุกคนออกมาแสดงความเห็น รวมถึงกรณีที่ใช้เงินข้ามถิ่น ตนเองอยากรับฟังจริงๆ เพราะจะได้ปรับปรุงแก้ไขเพียงหนเดียว ยืนยันว่านโยบายนี้เป็นนโยบายที่ดี ส่วนที่มาของงบประมาณ ขอให้รอการแถลงทีเดียว 

เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านท้วงติงว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตอาจซ้ำรอยโครงการรับจำนำข้าว นายเศรษฐา บอกว่า ตนก็รับฟัง และมีการตรวจรัดกุมทุกขั้นตอน เพราะการทำงานมีคณะอนุกรรมการอีก จึงไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะยังไม่เรียบร้อย 

...

ทั้งนี้ การไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนจะขอความช่วยเหลือ จากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวเพื่อพูดคุย นายเศรษฐา บอกว่ามีผู้นำหลายประเทศไปพบจีนในครั้งนี้ แต่ตนก็จะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว เพราะต้องอาศัยความสัมพันธ์ทางการทูตทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เชื่อว่าเรื่องนี้ผู้นำทุกประเทศให้สำคัญและเป็นห่วง อยากให้ทุกอย่างจบได้ด้วยดี 

นอกจากนี้จะพูดคุยเรื่อง เรือดำน้ำในการเยือนครั้งนี้ด้วย หวังว่าจะได้ข้อสรุป ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ไปประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 78 ยังพูดคุยไม่จบ ส่วนตัวไม่อยากคาดหวังเกินไป เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่จะหาทางออกที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ เป็นเรื่องที่เป็นปัญหาคาราคาซังมานาน อยากให้เรือดำน้ำที่ซื้อมาแล้วสามารถใช้งานได้ หากไม่เป็นเรือดำน้ำก็ขอให้แลกเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น เช่น เรือเหนือน้ำ เสริมศักยภาพทางทะเล ซึ่งจะต้องตอบโจทย์ทางกองทัพเรือด้วยเช่นกัน โดยหวังว่าจะหาข้อสรุปได้ 

เมื่อถามว่า รถไฟความเร็วสูงจะทำต่อกับประเทศจีนหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าจะมีการประกาศเรื่องรถไฟความเร็วสูงหรือไม่ แต่จะมีการพูดคุยในรายละเอียด เพราะเรื่องโลจิสติกส์เป็นเรื่องสำคัญในการที่จะดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศเข้ามา ตนจึงได้เกริ่นในเรื่องแลนด์บริดจ์ เพราะรถไฟความเร็วสูงไม่ใช่ทางออกทั้งหมด เป็นส่วนหนึ่งของทางออก ดังนั้นเราต้องมีทางออกทั้งหมด

เมื่อถามถึงกรณีกองทัพอากาศส่งเครื่องบินไปรับแรงงานคนไทย แต่เครื่องบินจากกองทัพอากาศต้องบินอ้อมไม่สามารถบินตรงได้ จนมีการเปรียบเทียบกับประเทศเกาหลีว่า ประเทศไทยมีจัดการทางการทูตที่ด้อยกว่าหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่น่าจะมีลักษณะเช่นนั้น ตนเองก็ยังไม่ได้รับรายงานมา 

ส่วนจะพูดคุยกับประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อเป็นประเทศที่ 3 ในเส้นทางการบินรับแรงงานไทยจากอิสราเอลหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า เป็นข้อเสนอที่ดี เดินทางไปประเทศซาอุดีอาระเบียครั้งนี้จะมีโอกาสได้พบกับ มกุฎราชกุมาร ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียด้วย อาจจะต้องมีการพูดคุย และเจรจากันในหลายเรื่อง