รมช.ต่างประเทศ ยืนยัน รัฐบาลทําทุกวิถีทาง และทำงาน 24 ชั่วโมง เพื่อให้คนไทยในอิสราเอลได้กลับสู่ครอบครัว เผย โรงแรมเอสซีปาร์ค อาสาออกค่ารับส่ง ห้องพัก และอาหาร สําหรับผู้อพยพที่ต้องการพักก่อนกลับภูมิลําเนา

เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 15 ตุลาคม 2566 นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้าผ่านเพจเฟซบุ๊ก ว่า ตามที่เกิดเหตุการณ์การโจมตีสู้รบในเขตฉนวนกาซา และพื้นที่ต่างๆ ในอิสราเอล ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนชาวไทยในอิสราเอลทั่วประเทศจํานวนกว่า 30,000 คนนั้น

วันนี้ รัฐบาลมารอต้อนรับผู้อพยพเป็นครั้งที่ 3 จํานวน 90 คน และรัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในอิสราเอล ดังนี้

1. เยียวยาแรงงานไทยที่เดินทางไปทํางานในอิสราเอลในกรณีบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากสงคราม เป็นไปตามสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทํางานในต่างประเทศ ซึ่งมีการเยียวยาคนที่เดินทางกลับประเทศเนื่องจากภาวะสงคราม รวมถึงกรณีพิการและเสียชีวิต รวมถึงค่าใช้จ่ายในการจัดการศพในต่างประเทศเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาท (แต่ในกรณีของอิสราเอล ทางการอิสราเอลจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับภูมิลำเนาด้วย)

2. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีบัญชาให้รัฐบาลไทยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินของพี่น้องชาวไทยที่ออกเงินค่าบัตรโดยสารเครื่องบินกลับประเทศไทยเอง ตั้งแต่มีการประกาศภาวะสงครามในอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา 

...

3. มีเอกชนรายแรก คือ โรงแรมเอสซีปาร์ค ติดต่อเข้ามาเพื่อขออาสาบริการสนับสนุนรัฐบาลในรูปแบบของค่ารถรับส่ง ค่าห้องพัก และอาหารสําหรับคนไทยที่อพยพและต้องการมาพักที่กรุงเทพฯ ก่อนกลับภูมิลําเนา นอกจากนั้น AIS ได้บริจาค SIM สนับสนุนภารกิจให้เจ้าหน้าที่ และ AIS กับ TRUE/DTAC ได้ช่วยส่งข้อความข่าวสารทาง SMS ให้กับพี่น้องคนไทยในอิสราเอลที่ใช้บริการโรมมิ่ง นับตั้งแต่เมื่อวาน (14 ตุลาคม 2566) ซึ่งเป็นการช่วยกระจายข่าวสารให้กว้างขวางขึ้น

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุในช่วงท้ายว่า หากภาคเอกชนท่านใดที่ประสงค์จะสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ ตามความสะดวกก็สามารถติดต่อมาได้ ทั้งนี้ "รัฐบาลขอยืนยันว่าได้ทํางานตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวิถีทาง เพื่อให้คนไทยได้กลับบ้านสู่ครอบครัว"

ช่องทางติดต่อ-ขอรับข้อมูลเพิ่มเติม

สำหรับพี่น้องคนไทยที่ประสงค์จะขอรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดต่อสอบถามเกี่ยวกับญาติที่พำนักอยู่ในอิสราเอล สามารถติดต่อได้ที่

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ

  • โทรศัพท์ (+972) 546368150 
  • โทรศัพท์ (+972) 552712201
  • โทรศัพท์ (+972) 532452826

กรมการกงสุล (Call center 30 คู่สาย ตลอด 24 ชั่วโมง)

  • โทรศัพท์ 0-2572-8442

กระทรวงแรงงาน

  • สายด่วนฉุกเฉิน 1694

กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ

  • โทรศัพท์ 06-4019-8530
  • โทรศัพท์ 06-4019-8907
  • โทรศัพท์ 09-9616-4786
  • โทรศัพท์ 0-2575-1047-51 หรือ 0-2575-1053 (ในวันและเวลาราชการ)
  • E-mail: consular02@mfa.go.th