กรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล มีการหารือกันถึง การจัดสรรโควตาประธานกรรมาธิการชุดต่างๆ โดยเฉพาะประเด็นที่ สส.ก้าวไกลหายไป 1 เสียง จากการขับ ปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก ออกจากพรรค เรื่องนี้ อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ อ้างว่าจะทำให้สัดส่วน สส.ที่นำมาคำนวณเป็นประธานกรรมาธิการจะต้องลดลงตามไปด้วย

จากเดิมที่ได้ประธานกรรมาธิการ 11 คณะ ก็จะเหลือเพียง 10 คณะ ซึ่งประเด็นนี้ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภา ที่เป็นประธานการพิจารณาสัดส่วนกรรมาธิการ เคยพูดเอาไว้ชัดเจนแล้วเมื่อตอนเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง ถ้าผลการเลือกตั้งซ่อมก้าวไกลชนะ ได้ สส.เข้ามา 1 คน ก็จะได้ประธานกรรมาธิการเพิ่ม 1 คน แต่เมื่อ สส.ของก้าวไกลลดลงไป 1 คน ก็จะต้องลดสัดส่วนประธานกรรมาธิการไป 1 คณะด้วย

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติ แต่มีเรื่องที่เกี่ยวกับ พรรคก้าวไกล อีกเรื่องคือ กรณีการเสนอญัตติการดำรงตำแหน่งรองประธานสภาของ ปดิพัทธ์ สันติภาดา เหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากข้อบังคับที่ 64(5) ของพรรคก้าวไกล ในการขับสมาชิกออกจากสมาชิกพรรคจะต้องมีมติให้ออกเพราะกระทำผิดวินัย หรือผิดจรรยาบรรณอย่างร้ายแรง หรือมีเหตุร้ายอย่างอื่น

การที่ ก้าวไกล ขับ ปดิพัทธ์ ออกจากพรรค ไม่เข้าข้อบังคับของพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ จึงเห็นว่าควรจะนำเรื่องนี้มาหารือกันในสภา เพราะลักษณะดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นในสภาแห่งนี้มาก่อน

และประเด็นนี้จะไปโทษรัฐธรรมนูญไม่ได้ อย่าไปโทษว่ารัฐธรรมนูญมีความผิด ทำให้ปดิพัทธ์ต้องทำเช่นนี้ เมื่อติดกระดุมเม็ดแรกไม่ถูกต้อง เม็ดที่ 2 และ 3 ก็จะผิดตามมา และเป็นคนละเรื่องที่ก้าวไกลเคยขับงูเห่าออกจากพรรค ควรจะแยกแยะว่าเรื่องนี้คือละคร

...

บรรยากาศการทำงานในสภาตอนนี้อึมครึม โดยเฉพาะวาระสำคัญ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ตั้งเค้าว่าจะเกิดวิกฤติอีกระลอก ยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ นับจากการติดกระดุมเม็ดแรกในการเลือกนายกฯคนที่ 30 ผิดฝาผิดตัว ทุกอย่างก็เลยดูไม่ลงตัวและกระทบมาถึงฝ่ายบริหารด้วย

การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง ถูกนำไปโยงกับ การบริหารราชการในกระทรวง กรม กอง ดูอย่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นั้นปะไร ยังเป็นไฟสุมทรวงอยู่ทั้งสองฝ่าย อุณหภูมิความร้อนคงหนีไม่พ้นที่ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน จะต้องรับผิดชอบในผลของการกระทำที่จะตามมา

วันนี้มีอดีตผู้บริหาร กฟผ. สหภาพแรงงาน ไปเรียกร้องให้ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.พลังงาน ให้พิจารณาการแต่งตั้งผู้ว่าการ กฟผ.คนใหม่ ที่คณะกรรมการสรรหา เสนอชื่อ เทพรัตน์ เทพพิทักษ์ เป็น ผู้ว่าการ กฟผ.คนใหม่ คาราคาซังมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว พยายามจะชี้ให้เห็นว่าเทพรัตน์ ไม่เหมาะสมหลายประการ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้า ประเด็นนี้ก็คงจะเป็นเผือกร้อนของรัฐบาลอีกเรื่อง

โทษของการติดกระดุมผิดเม็ด.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม