นายกรัฐมนตรี ทดลองนั่งรถอีวี ป้ายแดง ทะเบียน 1192 รับเป็นแนวคิดที่ดี ให้ภาคราชการมาใช้ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ดับฝันโครงการ “อีวีคันแรก” บอกรัฐบาลไม่ประชานิยม
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 ต.ค. 2566 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้ทดลองนั่งรถยนต์อีวีของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่นำมาให้ทดลอง โดยเป็นรถเก๋งป้ายแดง ยี่ห้อ BYD Seal รุ่นเพอร์ฟอร์แมนซ์ 3.8 เอส 530 แรงม้า หมายเลขทะเบียน ภ-1192 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นล่าสุดที่เปิดตัว
จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า รถคันนี้ 530 แรงม้า แรงกว่ารถยนต์ปอร์เช่ ราคาประมาณ 1,599,000 ล้านบาท คันที่นำมาเป็นตัวท็อป ชาร์จครั้งหนึ่งวิ่งได้ 650 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ที่บ้านตนก็มีรถไฟฟ้า มีเทสลา มีเฟียต และอาวดี้ ซึ่งได้คืนบริษัทไปแล้ว แต่ไม่มียี่ห้อบีวายดี จากนั้นนายกฯ ได้หันไปบอกกับบริษัทที่นำรถยนต์มาให้ลองนั่งว่า มีคนถามว่าจะให้ภาคราชการนำมาใช้บ้างได้หรือไม่ ติดต่อเขาหน่อยสิ เอามาให้บริการและทดลองสัก 3-4 คัน เพื่อให้เป็นพรีเซนเตอร์หน่อย
เมื่อถามว่า ระหว่างใช้รถน้ำมันกับอีวี รู้สึกต่างกันหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องเพอร์ฟอร์มเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ตนคิดว่าหลักการมากกว่า เพราะทุกวันนี้เราคิดว่ารถอะไรสวย ไม่สวย แต่เรามาคิดถึงประโยชน์ของมันจะดีกว่า นำพาเราจากจุด ก. ไปจุด ข. ได้ โดยที่ทำให้โลกสะอาดขึ้น ตนคิดว่าน่าสนับสนุน ไม่ใช่ตนจะมาโฆษณารถ แต่มาโฆษณาคอนเซปต์ว่าอีวีนั้นเป็นอนาคตที่ดี และเป็นเรื่องที่รัฐบาลสนับสนุนอยู่แล้ว ตรงนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี และเห็นอยู่แล้วว่ามีผู้ผลิตหลายรายที่กำลังทำออกมาได้ดีหลายคัน
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการเสนอให้เพิ่มจุดชาร์จไฟฟ้า เพราะในต่างจังหวัดยังมีน้อยอยู่ นายกฯ กล่าวว่า อันนี้เป็นจุดที่ดี เพราะเป็นเรื่องที่เราโปรโมตกันน้อยไปหน่อย ปัจจุบันนี้มีสถานีชาร์จอยู่เยอะไปหมด และยังมีตามสถานที่พักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน คอนโดมิเนียม ก็มีสถานีชาร์จอยู่แล้ว รวมถึงปั๊มน้ำมันหลายแห่งพยายามเปลี่ยนและเพิ่มสถานีชาร์จอีวีเข้ามา หลายบริษัทรถยนต์ก็กำลังเพิ่มกำลังการขาย ถือเป็นเรื่องที่ดี จะได้ช่วยลด PM 2.5 ด้วย ทำให้โลกเราน่าอยู่มากขึ้น ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม ขอให้ไปหาลองดูกันเองแล้วกัน
...
ผู้สื่อข่าวถามว่า โอกาสที่จะให้หน่วยงานราชการนำรถมาใช้ให้มากขึ้น มีมากน้อยเพียงใด นายกฯ กล่าวว่า ถือเป็นความคิดที่ดี และต้องดูเรื่องของงบประมาณด้วย เพราะอายุการใช้รถเดิมเขาก็มี ถ้าหมดอายุก็เป็นข้อเสนอแนะที่ดี ฝากให้ฝ่ายเลขานุการเตือนด้วย จะได้นำไปสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วยว่าขอให้พิจารณาลองรถไฟฟ้าเข้ามาใช้ และต้องดูเรื่องค่าใช้จ่ายด้วย แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ ทำให้อากาศสะอาดมากขึ้น อันนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ
เมื่อถามว่า รัฐบาลนี้จะมีนโยบายรถอีวีคันแรกหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ยังไม่ได้คิด และคิดว่ายัง ยังไม่มีหรอกครับ ตรงนี้ ผมคิดว่าเราไม่ใช่ประชานิยม เพราะอีวีเป็นยานยนต์ที่ทำให้อากาศสะอาดขึ้น ไม่มีการปล่อยคาร์บอนออกมา ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ในขณะนี้”.