ศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษก ปชป.แนะ รัฐบาลถอดบทเรียนเหตุกราดยิง มิใช่เพียงเหตุกราดยิงที่พารากอน สะท้อนปัญหา 3 มิติ จี้ แก้นโยบายกฎหมาย "สุขภาพจิต-อาวุธปืน-ความปลอดภัยพื้นที่สาธารณะ"
เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2566 น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างสยามพารากอน ว่า ขอแสดงความเสียใจกับทุกครอบครัวกับการสูญเสียจากกรณีกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าย่านปทุมวัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นสะท้อนปัญหาหลายมิติ ที่รัฐบาลจำเป็นจะต้องถอดบทเรียน และปรับแก้นโยบายและกฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาสังคมในปัจจุบัน เพราะเหตุการณ์นี้ ไม่ใช่ครั้งแรก และจะมีครั้งต่อไปถ้าเราไม่เรียนรู้อะไรเลยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งปัญหาในมิติต่างๆ ที่จำเป็นต้องให้ความสำคัญ คือ มิติที่ 1 คือปัญหาด้านสุขภาพจิตของประชาชนโดยรวม ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สวัสดิการของรัฐที่ไม่ครอบคลุม ด้วยสถิติจากกรมสุขภาพจิตผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษามีเพียงร้อยละ 60 และยังมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ไม่ทราบว่าตนเองนั้นคือผู้ป่วย การที่ผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา นอกจากจะเพิ่มโอกาสในการทำร้ายตนเอง ยังเสี่ยงต่อการทำร้ายผู้อื่น รัฐจึงจำเป็นต้องกำหนดให้การคัดกรองสุขภาพจิตอย่างสม่ำเสมอเป็นภาคบังคับในทุกภาคส่วน และขยายบัญชียาหลักแห่งชาติให้ครอบคลุมยาในการรักษาผู้ป่วยทางจิต เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาได้
“มิติที่ 2 การมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง รัฐจำเป็นที่จะต้องทบทวนหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ให้มีการคัดกรองสุขภาพจิตของผู้ที่มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองทุกปี โดยผู้ที่มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองจะต้องส่งใบรับรองจากแพทย์ให้กับหน่วยงานที่กำกับดูแล เพื่อเป็นการต่ออายุใบอนุญาต และหากไม่ผ่านการคัดกรองสุขภาพจิตให้หน่วยงานทำการยึดอาวุธปืนไว้ ตลอดจนการปราบปรามอาวุธเถื่อนที่เกลื่อนทั่วประเทศ
...
มิติที่ 3 พื้นที่สาธารณะ และพื้นที่เอกชนกึ่งสาธารณะ จะต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุม ให้มีการตรวจค้นอาวุธ ในทุกพื้นที่สาธารณะ และแผนการหนีภัยที่ชัดเจน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่เข้าใช้พื้นที่
ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงจำเป็นจะต้องเร่งถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ดังกล่าว และปรับแก้นโยบายและกฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาสังคมในปัจจุบัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุสะเทือนใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าในประเทศไทยอีกต่อไป
สุดท้ายนี้ขอทุกท่านหยุดส่งต่อความรุนแรง หยุดการแชร์ภาพหรือรายละเอียดของเหตุการณ์เพื่อลดการกระทำซ้ำ” รองโฆษกพรรค ปชป.กล่าว