“คารม” ย้ำ รัฐบาลเดินหน้าปราบผู้มีอิทธิพล วอนทุกภาคส่วนร่วมกันใช้มาตรการทางสังคมกดดันผู้กระทำความผิด ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมาย ชี้ มหาดไทยจัดทำบัญชีผู้มีอิทธิพลเสร็จแล้ว พบชื่อ 600-700 คน พร้อมเผยพฤติการณ์ 16 ข้อ เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล
วันที่ 2 ตุลาคม 2566 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำชับให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอิทธิพลอย่างถูกต้องและเป็นธรรม เน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการเดินหน้าขับเคลื่อนปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมกำชับให้คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้กับประชาชน จากกลุ่มอิทธิพลที่กระทำการ หรืออยู่เบื้องหลังการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือดำรงตนอยู่เหนือกฎหมาย ซึ่งถือเป็นการบ่อนทำลายเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองมาโดยตลอด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำตอนมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เกี่ยวกับนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล จำนวน 3 ข้อ ดังนี้
1. ให้ดำเนินการจัดการผู้มีอิทธิพล
2. ให้รางวัลผู้ให้เบาะแส
3. ปกป้องคุ้มครองสิทธิพยาน
มหาดไทยจัดทำบัญชีผู้มีอิทธิพลเสร็จแล้ว
นายคารม กล่าวต่อไปว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้จัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล หรือกลุ่มที่มีการใช้อำนาจเหล่านั้นในทางมิชอบ พร้อมเน้นย้ำให้ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย มุ่งเน้นจัดระเบียบสังคมเพื่อสร้างสังคมให้สงบสุข เพื่อให้บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ให้ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัย พร้อมกับกำชับให้ฝ่ายปกครองเข้มงวด วางตัวเป็นตัวอย่างที่ดี เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ จัดการผู้นำชุมชนที่มีอิทธิพล มีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามประชาชน หรือทำเรื่องเสียหาย ทำความผิดกฎหมาย ให้เร่งดำเนินการตามกฎหมายให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยให้ใช้ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐไปแสวงหาประโยชน์ให้ตัวเอง
...
“จากข้อมูลล่าสุดการจัดทำบัญชีผู้มีอิทธิพลของกระทรวงมหาดไทยแล้วเสร็จ พบมีรายชื่อประมาณ 600-700 คน โดยในวันที่ 3 ตุลาคมนี้ จะนำเรื่องรายชื่อผู้มีอิทธิพลเข้าในที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ต่อไป”
พฤติการณ์เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล
นอกจากนี้ นายคารม ยังได้เน้นย้ำถึงพฤติการณ์ที่เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล ลักษณะ 16 ข้อ ดังนี้
1. นายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ
2. ฮั้วประมูลงานราชการ
3. หักหัวคิวรถรับจ้าง
4. ขูดรีดผู้ประกอบการ
5. ลักลอบขนสินค้าหนีภาษี
6. เปิดบ่อนการพนัน
7. ลักลอบค้าประเวณี
8. ลักลอบนำคนเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมาย
9. ล่อลวงแรงงานไปยังต่างประเทศ
10. แก๊งต้มตุ๋นนักท่องเที่ยว
11. มือปืนรับจ้าง
12. รับจ้างทวงหนี้ด้วยการข่มขู่ใช้กำลัง
13. ลักลอบค้าอาวุธสงคราม/ปืนเถื่อน
14. บุกรุกที่ดินสาธารณะ/ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
15. เรียกรับผลประโยชน์บนเส้นทางหลวงสาธารณะ
16. ผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมดังกล่าว ขอให้แจ้งเบาะแสมายังศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ หรือโทรศัพท์สายด่วน 1195 พร้อมกับขอความร่วมมือจากประชาชนในทุกภาคส่วนของสังคม ได้ร่วมกันใช้มาตรการทางสังคม กดดันผู้กระทำผิดให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ควบคู่ไปกับการใช้มาตรการทางกฎหมายจากเจ้าหน้าที่รัฐ ในการขยายผลปราบปรามจับกุมอย่างจริงจัง พร้อมทั้งร่วมกันให้ข้อมูลข่าวสาร หรือเบาะแสเพิ่มเติม เกี่ยวกับบุคคลที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ผ่านทาง ตู้ ปณ. 1111 รวมทั้ง ศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่าน หมายเลข 1599