“ตรีชฎา” รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ซัด “ราเมศ” โฆษกประชาธิปัตย์ หยุดเคลมสนามบินสุวรรณภูมิ ชี้ คนไทยทั้งประเทศทราบดี “นายกฯ ทักษิณ” เร่งรัดผลักดันก่อสร้างจนสำเร็จ ชี้ “เศรษฐา” ไม่จำเป็นต้องพูดเอาใจ บอก ริเริ่มตั้งแต่สมัย “จอมพลสฤษดิ์”
วันที่ 2 ตุลาคม 2566 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาโจมตี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยอ้าง นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคนริเริ่มการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ว่า อยากให้นายราเมศ ไปดูตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่าสนามบินสุวรรณภูมิสำเร็จได้ด้วยการเอาจริงเอาจังเร่งรัดติดตามโดย นายทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 และเร่งรัดการก่อสร้างในปี 2545 เสร็จสิ้นเป็นสนามบินนานาชาติเมื่อปี 2548 เปิดทดลองเต็มรูปแบบกลางปี 2549 ในยุครัฐบาลนายกรัฐมนตรีทักษิณ ซึ่งประชาชนทั้งประเทศรับรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
นางสาวตรีชฎา กล่าวต่อไปว่า สนามบินสุวรรณไม่ได้ริเริ่มโดยรัฐบาล นายชวน แต่ริเริ่มมาตั้งแต่สมัย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อปี 2503 จากนั้นมาก็หยุดชะงัก โดยไม่มีรัฐบาลไหนผลักดันอย่างจริงจัง เมื่อ นายทักษิณ มาบริหารราชการแผ่นดิน เล็งเห็นความสำคัญของสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ในประเทศไทยจะต้องเกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะสนามบินดอนเมืองแออัดคับแคบเกินไป ไม่สามารถรองรับเครื่องบินและนักท่องเที่ยว จนสุดท้ายก็ก่อสร้างจนสำเร็จและมีพิธีเปิดอย่างสง่างามในปี 2549 มองไปข้างหน้าเพื่อสิ่งที่พัฒนาประเทศจะดีกว่า
“นายกฯ เศรษฐา ไม่จำเป็นต้องพูดเอาใจนายกฯ ทักษิณ เพราะความจริงก็คือความจริงวันยังค่ำ สื่อมวลชนที่ทำข่าวการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ และข้อมูลบันทึกในอดีตยืนยันได้ว่า นายกฯ ทักษิณ เป็นผู้ผลักดันจนสร้างสนามบินสำเร็จ การที่นายกฯ เศรษฐา พูดถึงนายกฯ ทักษิณ สมัยที่สร้างสนามบินสุวรรณภูมิที่มองการณ์ไกลถึงอนาคตในการสร้างอุโมงค์เพื่อเตรียมพร้อมในการขยับขยายสนามบิน มองไกลถึงอนาคต ไม่ได้จมปลักกับอดีต เพราะต้องการสื่อถึงความภาคภูมิใจของคนไทยที่มีสนามบินที่ทันสมัย เพียงพอต่อการรองรับนักท่องเที่ยวระดับโลก”
...
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เผยอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ควรแสดงบทบาทการเป็นพรรคฝ่ายค้านให้สมศักดิ์ศรี ด้วยการค้านอย่างสร้างสรรค์ ไม่ตีสำบัดสำนวนเพื่อความสะใจ สำหรับนายเศรษฐา และรัฐบาลชุดใหม่กำลังเร่งสะสางปัญหาที่ตกค้างมาเพื่อประโยชน์สุขของคนไทยและสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ให้บ้านเมือง ซึ่งปลายเดือนตุลาคมนี้ พรรคเพื่อไทยก็จะมีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่บริการพรรค จึงหวังใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการพรรคชุดใหม่ให้ได้เสียทีเช่นกัน เพราะยืดเยื้อมานานมากแล้ว เพียงเพราะแย่งชิงอำนาจกันภายในไม่จบไม่สิ้น.