“อุ๊งอิ๊ง” ยันยืนถือธงนำ “เพื่อไทย” นำทีมคนรุ่นใหม่ ฟื้นคะแนนนิยม ลูกพรรคเชียร์ถ้วนหน้า ถึงเวลาทายาทผู้นำ ผสมผสาน 3 วัย “อดิศร” ตามเขม่น “ก้าวไกลการละคร” ใช้แท็กติกขับ “ปดิพัทธ์” เตือนระวังทำหน้าที่บนทุกขลาภ ขู่ไร้ค่ายส้มคุ้มหัวไม่จำเป็นต้องเคารพกันอีกต่อไป “อนุสรณ์” ฉะเล่นเกมโบราณย้อนยุค เฉ่ง “อ๋อง” อ้างสร้างความโปร่งใสกอดเก้าอี้ ด้อยค่าสภาเอาดีใส่ตัว โฆษก ปชป.แนะนิ่มๆให้ไปโฟกัสคดีโพสต์เบียร์สอยให้ร่วง “ศรี” ลุยยื่น ป.ป.ช.สอบ นิติกรรมอำพราง “ณัฐวุฒิ” สวนอย่าสองมาตรฐานเว้นวรรคพรรคอื่น ขณะที่ “หมอพรทิพย์” บินล่าแสงเหนือ เจอ“ด้อมส้ม” ไล่ตะเพิดออกจากร้านอาหาร ที่ไอซ์แลนด์ “พิธา” เห็นใจทั้งคู่ วอนช่วยกันสร้างสังคม วุฒิภาวะอดกลั้น เตือนสติด้อมใช้แสงสว่างไล่ความมืด

แม้พรรคก้าวไกล ยืนยันมติขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก และรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ออกจากพรรคเปิดทางครองตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน เป็นไปตามกฎหมายแล้วก็ตาม แต่ สส.ฝั่งรัฐบาลยังดาหน้าออกมาโจมตีนักร้องเรียนถึงขนาดตั้งท่ายื่นตรวจสอบข้อหาขัดจริยธรรม ทำนิติกรรมอำพราง ขณะที่พรรคเพื่อไทย ปรับทัพเรียกคะแนนนิยม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รับปากขึ้นแป้นหัวพรรคคนใหม่เป็นที่แน่นนอนแล้ว

...

“อุ๊งอิ๊ง” ยันถือธงคนรุ่นใหม่นำ พท.

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่าการประชุมวิสามัญพรรคเพื่อไทย เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 27 ต.ค.นี้ เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ พรรค พท. ตอบรับจะขึ้นเป็นหัวหน้านำพรรคอย่างเต็มตัวแล้ว เนื่องจาก สส.ทั้งพรรคเห็นตรงกันสนับสนุนให้ถือธงนำพรรคเพราะมีความพร้อมเป็นศูนย์กลางของคนทั้งพรรค เป็นคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาปรับยุทธศาสตร์ให้พรรค พท.ทันยุคสมัย นำคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมกับการเมืองมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะเป็นคนรุ่นใหม่เป็นส่วนใหญ่ เพราะพรรคพท.ต้องการปรับตัวครั้งใหญ่ให้เป็นพรรคคนรุ่นใหม่อย่างเต็มตัว เพื่อช่วงชิงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้พรรค พท.กลับมาเป็นพรรคอันดับ 1 อีกครั้ง

“มนพร” เชียร์ถึงเวลาทายาทขึ้นนำ

นางมนพร เจริญศรี สส.นครพนม พรรค พท.และรมช.คมนาคม กล่าวว่า เนื่องจากพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคของคน 3 รุ่น ที่ประกอบด้วย รุ่นสูงวัย รุ่นวัยกลางคน และรุ่นวัยหนุ่มสาว เรารู้ว่าการเมืองในวันนี้เป็นของวัยหนุ่มสาวที่ต้องมาสร้างความหวัง สร้างโอกาสให้กับประชาชนยอมรับว่าความนิยมในพรรคเพื่อไทย เป็นความศรัทธาที่มาจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ทุ่มเทสร้างพรรคตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธไม่ได้ว่า นายทักษิณ คือแกนกลางที่ยึดเหนี่ยวของคนทุกรุ่น ฉะนั้นอยากให้หัวหน้าพรรคหรือผู้บริหารพรรคเป็นของคน 3 วัยที่ผสมผสานกัน อยากให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นำพรรคเพราะเป็นขวัญใจคนรุ่นใหม่ มีความคิด ความอ่าน ซึมซับบริบทการเมืองมาตั้งแต่เด็กๆ ผ่านร้อนผ่านหนาวทางการเมืองมา สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้ น.ส.แพทองธาร แข็งแกร่ง

เผยเสียงคนอีสานหนุนเต็มที่

นางมนพรกล่าวอีกว่า ตอนลงพื้นที่มีชาวบ้านถามว่า ทำไม น.ส.แพทองธาร ถึงไม่มีตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี (ครม.) เลยชาวบ้านบอกว่า น.ส.แพทองธารทำงานให้กับพรรคชาวบ้านตอบกลับมาว่าอยากให้ น.ส.แพทองธาร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและกลับมาเยี่ยมที่ภาคอีสานอีก ฉะนั้นต้องนำเรื่องที่ชาวบ้านบอกกับตนไปบอก น.ส.แพทองธาร เชื่อว่าคุณอุ๊งอิ๊ง ผ่านร้อนผ่านหนาวมา ซึมซับการเมืองมาทุกมิติ และสามารถนำพาการเมืองใหม่ ให้โอกาสกับคนรุ่นใหม่ และเข้าใจการทำงานในสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว

“อดิศร” ขู่ “อ๋อง” ผจญทุกขลาภ

นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพท.ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทน ราษฎร (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก และรองประธานสภาฯคนที่ 1 ออกจากพรรค ก.ก.เพื่อให้ได้ครองตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านว่า ตำแหน่งรองประธานสภาฯของนายปดิพัทธ์ ตนเลือกเพราะพรรค ก.ก.เป็นผู้เสนอมา ถ้ายังดื้อรั้นกอดตำแหน่งไว้ถือเป็นทุกขลาภของทุกขลาภโดยแท้ เหมือนอุ้มระเบิดหรืออะไรที่ไม่ดีไว้ เพราะตนเลือกทุกขลาภมาเมื่อพรรคก้าวไกลขับไล่ทุกขลาภออกจากพรรค เมื่อก้าวไกลไม่เอาแล้วตนไม่จำเป็นต้องเคารพ หลังจากนี้นายปดิพัทธ์จะทำงานไม่สะดวก เงาหัวก้าวไกลถือว่าหายไปแล้วไปอยู่พรรคอื่นไม่สง่างาม แบบนี้ถือเป็นก้าวไกล ลิเก หมอลำ การละคร อยากทำตัวให้สูงกว่าคนอื่นแต่ตัวเองทำตัวต่ำกว่าคนอื่น แบบนี้บอกดีๆว่าอยากได้ 2 ตำแหน่งจะดีกว่า สังคมจะได้เห็นใจ ไม่ใช่ว่าทุกขลาภไม่ดี ขับออกจากพรรคเพื่อเอาตำแหน่งแบบนี้ ต้นตอแห่งความผิดไม่ใช่ทุกขลาภเป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลสร้างโดยแท้

“อนุสรณ์” ซัดก้าวไกลย้อนยุค

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนระมัดระวังการให้ความเห็น เพราะไม่เชื่อว่าพรรค ก.ก.จะกล้ามีมติขับนายปดิพัทธ์พ้นพรรค เพราะการขับสมาชิกพรรคที่เป็นถึงรองประธานสภาฯ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆควรเป็นเรื่องที่กระทำความผิดอย่างรุนแรง จนไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรคได้ ถึงเกิดคำถามว่า นายปดิพัทธ์ ทำความผิดอะไร จากนี้ไปถนนทุกสายจะมีผู้ไปยื่นทั้งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยคุณสมบัติการดำรงตำแหน่ง ตีความการขับสมาชิกออกจากพรรคชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ หรือยื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยว่า ขัดจริยธรรมและคุณธรรมทางการเมืองหรือไม่ นี่ไม่ใช่การเมืองใหม่ที่โฆษณาไว้ แต่เป็นการเมืองโบราณย้อนยุค ถอยหลังลงคลอง เพื่อต้องการรักษาตำแหน่งและผลประโยชน์มากกว่ารักษาความถูกต้องหรือไม่

ฉะด้อยค่าสภาฯเอาดีใส่ตัว

นายอนุสรณ์กล่าวว่า การที่นายปดิพัทธ์ท่องคาถา ต้องอยู่ในตำแหน่งรองประธานสภาฯ เพื่อให้สภาโปร่งใสนั้น ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สภาและสส.ไม่สบายใจ เป็นข้ออ้างที่พูดเอาดีใส่ตัว แต่ด้อยค่าสภา การใช้ช่องว่างทางกฎหมายเพื่อกอดเก้าอี้ต่อไปจะสง่างามตรงไหนฝืนขึ้นไปนั่งทำหน้าที่ทั้งๆ ที่ถูกพรรคขับออกจะไปกล้าสู้หน้าใครได้ พฤติกรรมที่ทำนี้ถือเป็นนิติกรรมอำพรางหรือไม่ สังคมรุมตำหนิว่า ก้าวไกลการละคร อาจเป็นละครตกยุคน้ำเน่าไม่สร้างสรรค์ เพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร ได้รับความสนใจมีคนเข้าติดตามมากขึ้น มีคนออกมาแฉมากขึ้น เป็นการแลกทุกอย่างเพื่อรักษาเก้าอี้ที่ได้ไม่คุ้มเสีย ตำแหน่งรองประธานสภา ไม่ใช่สมบัติของพรรคใด ถ้าไม่สามารถเป็นต่อได้แค่ลงมาทำหน้าที่อื่น ให้คนที่มีความเหมาะสมสง่างามทำหน้าที่ เพื่อดำรงเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของสภาไว้

ปชป.กระทุ้งสอยคดีโชว์เบียร์

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชา ธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีมติขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่ 1 ว่า ได้แถลงข่าวหลายครั้งว่าเป็นสิทธิของพรรค ก.ก.ในตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน เหตุเพราะเป็นฝ่ายค้านที่มีจำนวน สส.มากที่สุดในสภา แต่เมื่อตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน มีปัญหาด้านหลักรัฐธรรมนูญเพราะมีอีกตำแหน่งที่พรรค ก.ก.มีสมาชิกเป็นรองประธานสภาฯอยู่ การที่พรรค ก.ก.มีมติขับนายปดิพัทธ์ มีเจตนาอย่างไรไม่ทราบได้ไม่ก้าวล่วงกิจกรรมของพรรค ก.ก.เพราะเชื่อว่าทุกพรรคการเมืองตัดสินใจเรื่องอะไรทั้งในวันนี้และในอนาคตที่ต้องมีความรับผิดชอบตลอดไปอยู่แล้ว กรณีของนายปดิพัทธ์ ที่ต้องติดตามต่อคือ เรื่องจริยธรรมที่ทำผิดกฎหมายว่าด้วยการควบคุมแอลกอฮอล์อยู่ว่า สุดท้ายผลจะเป็นอย่างไร เพราะคดีดังกล่าวจะเป็นตัวชี้ว่า จะมีผลกระทบต่อตำแหน่งรองประธานสภาฯหรือไม่

“เป็นธรรม” เปิดประตูรับอ้าซ่า

นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม (ปธ.) กล่าวว่า ยังต้องรอดูความชัดเจนของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 จะตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่พรรค ปธ.อย่างไร พรรค ปธ. เปิดกว้างยินดีต้อนรับ อยู่ที่ว่าจะสนใจหรือไม่ เมื่อเข้ามาแล้วจะเป็นคนของพรรค ปธ.ไม่ใช่เป็นคนของพรรค ก.ก. ไม่มีการฝากเลี้ยง ต้องทำหน้าที่ของการเป็นสมาชิกและ สส.พรรค ปธ.อย่างเต็มที่สมบูรณ์ ฉะนั้นต้องทำหน้าที่รองประธานสภาฯให้ดีที่สุด แต่ยืนยันจนถึงเวลานี้นายปดิพัทธ์ยังไม่มีประสานมา เมื่อถามว่ามีบางฝ่ายมองว่าเป็นเกมของพรรค ก.ก.ที่จะได้ทั้ง 2 ตำแหน่ง ทั้งผู้นำฝ่ายค้านและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 นายปิติพงศ์ตอบว่า เป็นการมองโดยสื่อ แต่ทางการเมืองไม่ใช่ พรรค ก.ก.มีหน้าที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านตำแหน่งเดียว แต่พรรค ปธ.ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน พร้อมให้ความร่วมมือ

ศรีฯย้ำหัวตะปู “นิติกรรมอำพราง”

นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน กล่าวว่า กรณีพรรค ก.ก.ขับนายปดิพัทธ์ ออกจากพรรคเพื่อเปิดทางให้พรรคได้เป็นผู้นำฝ่ายค้าน อาจมีเจตนาฉ้อฉลหรือนิติกรรมอำพรางเป็นโมฆียะกรรม ขัดอุดมการณ์พรรคที่จดทะเบียนไว้กับนายทะเบียนพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.63 ที่จะยึดมั่นหลักนิติรัฐและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างชัดเจน แต่กลับใช้วิธีการเยี่ยงนักการเมืองน้ำเน่ามุ่งกอดรัดอำนาจ หรือตำแหน่งอย่างไม่ละอาย มิได้เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ อาจเป็นทฤษฎีสมคบคิดกัน มิยึดถือผลประโยชน์ประเทศเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ไม่รักษาเกียรติภูมิและผลประโยชน์ชาติ อันเป็นมาตรฐานทางจริยธรรม ในวันที่ 2 ต.ค.จะไปยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนว่า เข้าข่ายฉ้อฉลหรือนิติกรรมอำพราง ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ หาก ป.ป.ช.มีความเห็นตามคำร้อง ต้องส่งศาลฎีกาพิพากษาเอาผิดทั้งคณะกรรมการบริหารพรรค ก.ก. รวมถึงนายปดิพัทธ์ และหากไปสังกัดพรรคการเมืองใดจะถูกลากเข้าไปร่วมรับผิดด้วย ในฐานะตัวการร่วมในนิติกรรมอำพราง

ก.ก.ยืนกรานขับพ้นพรรคตาม ก.ม.

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ก.ก.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายศรีสุวรรณ เตรียมร้อง ป.ป.ช.กรณีขับนายปดิพัทธ์ว่า ถือเป็นสิทธิของนายศรีสุวรรณ ยินดีรับกระบวนการตรวจสอบ ขอยืนยันกระบวนการตรงไปตรงมา ผ่านการแสดงความคิดเห็นและที่ประชุมของ สส.ร่วมกับ กก.บห.ตามข้อบังคับพรรคทุกประการ คิดว่าถ้าใครที่อ่านกฎหมายเป็น ติดตามความเคลื่อนไหวในทางการเมืองมาโดยตลอด จะเห็นได้ว่านี่คือจุดยืนสำคัญที่พรรค ก.ก.ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ไม่ใช่นิติกรรมอำพรางไม่ใช่นิติกรรมซ่อนเร้น แต่คือการทำนิติกรรมอย่างตรงไปตรงมา ตามบทบัญญัติทางกฎหมายและเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสมบูรณ์แบบ

ตอก “นักร้อง” อย่าสองมาตรฐาน

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า พรรค ก.ก.ไม่กังวล ต้องถามกลับไปด้วยซ้ำว่า หากจะยื่นต่อองค์กรใดตรวจสอบจริง ในสถานะขององค์กรต่างๆจะก้าวล่วงมาวินิจฉัยเจตนารมณ์ หรือดุลพินิจการทำหน้าที่ภายในของพรรคการเมืองได้อย่างไร ไม่ใช่ว่า กก.บห.คนใดคนหนึ่งดำเนินการ ไม่ใช่ว่าตัวพรรคดำเนินการเอง แต่เป็นความเห็นร่วมกันผ่านที่ประชุมสส.และ กก.บห. ในเรื่องของพรรคอื่นๆที่ทำก่อนนี้เราไม่เคยก้าวล่วงไป แต่อยากให้นายศรีสุวรรณ พิจารณาและดำเนินการเช่นเดียวกัน อยากรู้ว่าบรรทัดฐานดำเนินการขององค์กรอิสระ ถ้าต้องตรวจสอบจะดำเนินการอย่างไร ในส่วนของพรรคก.ก.เมื่อเราดำเนินการจุดนี้ไปแล้ว หวังแต่เพียงว่าประธานสภาฯจะรีบดำเนินการในส่วนของการเสนอรายชื่อนายชัยธวัช ตุลาธน ในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้านที่มี สส.มากที่สุดให้เป็นผู้นำฝ่ายค้านโดยเร็ว เราหวังตรงนี้มากกว่า เพื่อจะทำงานไม่มีข้อกังวลต่อข้อร้องเรียนใดๆทั้งสิ้น

“หมอพรทิพย์” เที่ยวไอซ์แลนด์โดนไล่

อีกเรื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 29 ก.ย. มีการแชร์คลิปวิดีโอในโลกโซเชียล เป็นเหตุการณ์ที่เจ้าของร้านอาหารที่เป็นชายไทยในประเทศไอซ์แลนด์ ขับไล่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันทน์ สว. ออกจากร้าน ระหว่างที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์เดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศไอซ์แลนด์ ในคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวคนไทยที่เป็นเจ้าของร้านอาหาร ได้ใช้คำพูดรุนแรงทั้งที่เป็นภาษาอังกฤษ และภาษาไทยตะโกนไล่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ออกจากร้านว่า ขอให้มึงออกไปจากร้าน ไม่ต้องมาร้านกู ออกไปเลย ที่นี่ไม่ใช่ที่ของคุณ แม้ น.ส.มัลลิการ์ จิระพันธ์วานิช สส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย สส.ที่ร่วมทริปไปเที่ยวด้วยจะพยายามสอบถามเหตุผล และบอกให้รู้จักแยกแยะ เพราะมาท่องเที่ยว แต่ชายคนไทยเจ้าของร้านบอกว่า ไม่ได้ไล่ทุกคน แต่รับไม่ได้กับคนแบบนี้ ในสิ่งที่ทำกับประเทศไทย โดย พญ.คุณหญิงพรทิพย์พยายามสอบถามว่า ได้ทำอะไร แต่ชายคนดังกล่าวตอบว่าไม่อยากคุย ผมเกลียดคุณ สว.ขยะผมไม่เอา ก่อนที่ น.ส.มัลลิการ์จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกเหตุการณ์ จากนั้น พญ.คุณหญิงพรทิพย์ และกลุ่มเพื่อนๆพากันเดินออกจากร้านไป

ด้อมส้มร่อนคลิปก่อนปิดเฟซฯหนี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไปในวงกว้างทำให้แฮชแท็ก #หมอพรทิพย์ พุ่งติดเทรนด์ ต่อมามีผู้ใช้เฟซบุ๊กระบุชื่อ “Ari Alexander” ที่ใช้สัญลักษณ์พรรคก้าวไกล เป็นพื้นหลังในเฟซบุ๊ก ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ผมเป็นเจ้าของคลิปนี้แหละครับ และไม่สนับสนุนความรุนแรงทุกรูปแบบนะครับ แต่ สว.ขยะ เราไม่เอาเข้าร้านนะครับ เจอที่ไหนช่วยกันขับไล่” ขณะที่ก่อนหน้านั้นผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวได้ไลฟ์ขณะขับรถมายังร้านอาหาร หลังจากทราบว่า พญ.คุณหญิงพรทิพย์ จะมารับประทานอาหารที่ร้าน โดยระบุว่า “ตอนนี้ขับรถอยู่ กะเจอปุ๊บจะขับรถชนเลยก็ได้ กูแค้นและเกลียดมึงมาก ตอนเด็กๆเคยชอบและซื้อหนังสือมึงอ่าน แต่พอแก่ตัวลง ปัญญาและหัวสมองมึงกลับหรือเดี๋ยวพอกูไปถึงร้านกู ถ้ากูเห็นมึงในร้านเมื่อไรมึงตาย เดี๋ยวรอดูกัน” หลังจากคลิปไล่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ออกจากร้านอาหารแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การกระทำดังกล่าวไม่มีความเหมาะสม ทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Ari Alexander” รีบปิดเฟซบุ๊กหนีไปทันที

แฟนคลับชวนเบนเข็มไปเบลเยียม

ขณะที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ไม่ได้ชี้แจงในช่องทางใดต่อกรณีดังกล่าว เพียงแต่อัปรูปขณะไปเที่ยวระบุข้อความว่า “ในที่สุดก็ได้เห็นแสงเหนือด้วยตาเปล่า วันเดินทางกลับแล้ว มันมาแวบๆ แป๊บเดียวเรียกว่าตั้งกล้องไม่ทัน ขอบคุณน้องเย็นถ่ายภาพทัน ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ มิน่าเขาถึงเรียกว่าตามล่าแสงเหนือ เดินทางไปหลายเมืองมาเห็นเอาคืนสุดท้ายที่ที่พักนี่เอง” เพียงต่อมา พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ได้เข้าไปตอบคอมเมนต์แฟนคลับที่โพสต์แสดงความเห็นบนเพจเฟซบุ๊กรายหนึ่งในทำนองชวนไปเที่ยวที่ร้านอาหารในประเทศเบลเยียมของตนยินดีต้อนรับ โดย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ว่า “ขอบคุณค่ะ ไม่รับมันมา ทุกสิ่งที่ทำไปก็กลับเข้าตัวค่ะ”

สว.ออกโรงป้องงัด ก.ม.เฉ่งคนไล่

นายสมชาย แสวงการ สว.และประธานกรรมาธิการ สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า สว.ได้เห็นคลิปเหตุการณ์ขับไล่ พญ. คุณหญิงพรทิพย์ออกจากร้านอาหารแล้ว เห็นว่าเป็นเรื่องรุนแรง สว.หลายคนรวมถึงตนได้ไลน์ไปให้กำลังใจ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ หลังจากเกิดเหตุ สว.ได้ช่วยกัน ตรวจสอบข้อกฎหมายไอซ์แลนด์ ให้คำแนะนำว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการทำผิดกฎหมายอาญาไอซ์แลนด์ ข้อหาการควบคุมการแสดงออกด้วยวาจา หรือข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเกลียดชังของผู้คน ในสังคม สามารถแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ไอซ์แลนด์ดำเนินคดีได้ แต่ไม่รู้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์จะไปแจ้งความหรือไม่ เพราะตอบไลน์กลับมาสั้นๆว่า “ขอบคุณ จะกลับวันนี้แล้ว ขอให้กรรมจัดการ” คาดว่า คงไม่แจ้งความ อย่างไรก็ตาม สว.จะประสานงานไปยัง กมธ.ต่างประเทศ วุฒิสภา ให้ติดต่อไปยังเขตอาณาที่เป็นสถานทูตผู้รับผิดชอบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจ้าของร้าน ชุมชนไทยในไอซ์แลนด์ รับทราบถึงพฤติกรรมคนที่อ้างชื่อ Ari Alexander ว่า มีพฤติกรรม ข่มขู่คุกคามสมาชิกรัฐสภาไทย และเท่าที่ตรวจสอบชาย คนดังกล่าวไม่ใช่เจ้าของร้าน เป็นแค่หัวหน้าเชฟเท่านั้น

กาง พ.ร.บ.คอมฯดักเล่นงานในไทย

นายสมชายกล่าวว่า ส่วนกฎหมายประเทศไทยสามารถเอาผิดได้ ในข้อหาหมิ่นประมาท และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เพราะมีพฤติกรรมกล่าวหาชัดเจน แล้วยังนำไปลงในช่องทางโซเชียลมีเดีย แม้เรื่องจะเกิดที่ต่างประเทศ หาก พญ.คุณหญิงพรทิพย์ต้องการเอาผิดเมื่อกลับมาถึงประเทศไทยสามารถแจ้งความได้เลย คณะกรรมการ สว.ที่ตั้งขึ้น มาดูแลเรื่องการข่มขู่บูลลี่ สว.จะรับดำเนินการให้ ถ้านายAri Alexander กลับเมืองไทย จะโดนแจ้ง ข้อหา 2 ข้อนี้ เรื่องนี้เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรเกิดขึ้นไม่ว่ากับใคร ไม่ใช่แค่หมอพรทิพย์ แม้แต่นายพิธา หรือนายเศรษฐา ก็ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครทั้งสิ้น ถ้าไม่ชอบแค่เดินหนีไปไม่ควรแสดงออกแบบนี้

จี้ค่ายส้มเช็กให้ชัดสมาชิกหรือไม่

นายสมชายกล่าวว่า ฝากไปยังพรรคก้าวไกล ให้ช่วยตรวจสอบนาย Ari Alexander เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลจริงหรือไม่ เพราะถือว่ามีพฤติกรรมสร้างความเสียหาย ถ้าเป็นสมาชิกพรรคจริงควรเอาออก จากพรรค แต่ถ้าไม่ใช่ก็แล้วไป อีกอย่างควรออกมาให้ ความรู้แก่ประชาชนว่า การคลั่งการเมืองเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

“พิธา” ติงให้สังคมอดกลั้นใช้วุฒิภาวะ

บ่ายวันเดียวกัน ที่ The Racquet Club สุขุมวิท 49 กทม. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ก.ก.ให้สัมภาษณ์กรณี แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สว. ถูกไล่ออก จากร้านอาหารที่ไอซ์เเลนด์ ว่า อยากเชิญชวนทุกคน สร้างสังคมอดทน อดกลั้น มีวุฒิภาวะ สร้างระบบพรรค การเมืองที่ตรงไปตรงมา มีรูระบาย ขจัดความขัดแย้ง ตาต่อตาฟันต่อฟันไม่ได้ช่วยอะไร ในฐานะนักการเมืองเข้าใจเวลาที่ลงพื้นที่ต่างจังหวัด หรือไปกับครอบครัว ไปวัดเจอการแสดงออกของประชาชนที่คล้ายๆกัน ตนเข้าใจเป็นบุคคลสาธารณะเป็นส่วนหนึ่งที่รับได้ แต่ขณะเดียวกันเราจะอนุญาตให้การแสดงออกแบบนั้น โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงระบบ เป็นเรื่องส่วนตัวไปหมดมันก็น่าเสียดาย ที่ได้ตามข่าวมา เข้าใจว่า คู่กรณีที่เกิดขึ้นที่ไอซ์แลนด์เป็นคนที่ชื่นชอบคุณหญิงพรทิพย์ เป็นการส่วนตัว แต่ด้วยระบบที่มันไม่ตรงไปตรงมา และระบบที่ทำให้เกิดความขัดแย้งจากเสียงประชาชนที่มาจากเลือกตั้ง กับการออกเสียงในสภาที่มาจากการ แต่งตั้งที่มันไม่ตรงไปตรงมา ทำให้เกิดความอึดอัดที่ต้องระบายออก เห็นใจทั้งคุณหญิงพรทิพย์และ ประชาชนที่อดทนอดกลั้นไม่สบายใจ กับการเข้าสู่อำนาจของการเมือง ถ้าระบบมันดีเรื่องลักษณะแบบนี้ จะน้อยลง แต่ถ้าในส่วนของบุคคล ความมืดไล่ความมืด ไม่ได้ ต้องเป็นความสว่างไล่ อยากให้ช่วยกันสร้าง สังคมที่อดทนอดกลั้นและมีวุฒิภาวะ

นายกฯส่งกำลังใจให้ชาวปากีฯ

สำหรับความเคลื่อนไหวของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ที่ตัดสินใจนอนพักค้างคืนที่ จ.ภูเก็ต 1 คืน หลังนำคณะลงพื้นที่ติดตาม งานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามันในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และ จ.พังงา นายเศรษฐาได้ใช้เวลา วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ พักผ่อนไปในตัว แต่ยังคงติดตามงาน สั่งการและมอบหมายงานรัฐมนตรีในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วม โดยจะเดินทางกลับ กทม.ในวันที่ 1 ต.ค. ขณะที่นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐารู้สึกเสียใจ ต่อกรณีเหตุระเบิดที่เมืองมาสตุง แคว้นบาลูชิสถาน ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ทำให้เป็นผล สูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งผู้คนได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก นายกฯแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อรัฐบาล และประชาชนชาวปากีสถานและครอบครัวของผู้สูญเสีย ให้กำลังใจ และขอให้ผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ ไปได้ด้วยดี

ขอบคุณ นทท.จีนตอบรับวีซ่าฟรี

นายชัยเผยอีกว่า นายกฯยังขอขอบคุณกระแสตอบรับวีซ่าฟรีชั่วคราว โดยนายกฯได้ทวีตกรณี รายงานของ CNN ล่าสุด เรื่องชาวจีนตอบรับนโยบายวีซ่าฟรีชั่วคราวของรัฐบาลไทย นายกฯรู้สึกดีใจแทน ประชาชนและผู้ประกอบการไทยเป็นอย่างยิ่ง เพราะชาวจีนตัดสินใจมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น ข้อมูลจากเว็บไซต์ให้บริการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของจีน (CTrip) รายงานว่า ช่วงสัปดาห์วันหยุดยาวของจีน ปีนี้นักท่องเที่ยวจีนจองทัวร์ไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น ถึง 20 เท่า เมื่อเทียบกับปี 65 หนึ่งในจุดหมายปลายทาง ยอดนิยมคือ ไทย และยอดจองโรงแรมเพิ่มมากขึ้น ถึง 6,220% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยนายกฯระบุว่า ประเทศไทยยินดีมากที่ได้ต้อนรับชาวจีนทุกคน ประเทศเรา มีทะเลที่สวยงาม อาหารไทยที่หลายหลาก หวังว่า ทุกท่านจะท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและประทับใจ

มท.ปลื้มยอดขายโอทอปกระฉูด

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการพัฒนาชุมชนได้จัดงาน OTOP Midyear 2023 ระหว่าง วันที่ 23 ก.ย. ถึง 1 ต.ค. ที่อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภาพรวมตั้งแต่เปิดจำหน่ายจนถึงเมื่อวันที่ 29 ก.ย. รวม 7 วัน มีผู้เข้าเยี่ยมชมและเลือกซื้อสินค้าภายในงาน แล้วกว่า 111,286 คน มียอดจำหน่ายกว่า 319,006,768 บาท โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมเลือกซื้อ 5 อันดับแรก 1.กลุ่มผ้าและเครื่องแต่งกาย มียอดจำหน่าย 100,399,210 บาท 2.โซนศิลปิน OTOP มียอดจำหน่าย 44,791,745 บาท 3.OTOP ชวนชิม ผักและผลไม้ 31,230,309 บาท 4.ของใช้ของตกแต่ง 29,890,422 บาท และ 5.โซน OTOP ขึ้นเครื่อง 27,860,490 บาท

“อานนท์” อยู่คุกศาลไม่ให้ประกันตัว

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 12.18 น. ศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งไม่ให้ประกันนายอานนท์ นำภา ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน จำเลยฐานดูหมิ่น สถาบันเบื้องสูง ร่วมกันมั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ที่ศาลอาญา มีคำพิพากษา ลงโทษจำคุก 4 ปี ไปเมื่อวันที่ 26 ก.ย. โดยศาลพิเคราะห์ ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีประกอบพยานหลักฐานในสำนวนแล้ว การกระทำของจำเลยกระทบกระเทือนและสร้างความเสียหายต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมีเหตุเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่