“ศรีสุวรรณ” ร้อง ป.ป.ช. สอบ “เศรษฐา” และผู้เกี่ยวข้อง ฐานทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการโดยมิชอบ และฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีพาลูกสาว และคนนอก บินเช่าเหมาลำร่วมคณะไปนิวยอร์ก ประชุม UNGA 78
วันที่ 27 กันยายน 2566 นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เดินทางไปยื่นคำร้องต่อสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ เดินทางไปเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (UNGA 78) ระหว่างวันที่ 19-23 กันยายน ด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำของสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 8832 โดยใช้งบประมาณจากภาษีของประชาชนกว่า 30 ล้านบาท โดยมีลูกสาว และคนนอกที่ไม่ใช่ข้าราชการขึ้นเครื่องไปด้วย เป็นการทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ และถือเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
นายศรีสุวรรณ ระบุต่อไปว่า สืบเนื่องจากการเดินทางด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำดังกล่าวมีชื่อบุคคลที่ร่วมเดินทางกับนายกรัฐมนตรีที่ไม่ใช่ข้าราชการ และไม่เป็นข้าราชการการเมืองไปด้วย อาทิ นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ นักธุรกิจเอกชน, นางสาวชนัญดา ทวีสิน บุตรสาวนายกรัฐมนตรี รวมทั้งนำผู้สื่อข่าวที่เป็นเอกชน ที่มิใช่ผู้สื่อข่าวของทางราชการร่วมขบวนไปด้วย ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ซึ่งต้องห้ามตามมาตรา 186 ประกอบมาตรา 184 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
...
ทั้งนี้แม้ นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่า ในส่วนของลูกสาวนายเศรษฐา เป็นการออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางเองทั้งหมด แต่สังคมยังสงสัยว่าเครื่องบินเช่าเหมาลำของทางราชการ ไม่ใช่เครื่องบินส่วนตัว เก็บเงินคนนอกได้ด้วยหรือ ใครเป็นคนอนุมัติ และออกใบเสร็จในนามใคร แล้วการลงบัญชีงบดุล (งบแสดงฐานะการเงิน) จะต้องแสดงในส่วนใด และเป็นไปตามพระราชกฤษฎีกา ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ.2526 (แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ 8 พ.ศ.2553) อย่างไร
ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เผยอีกว่า กรณีนี้มีผู้ท้วงติงก่อนเดินทางแล้ว แต่กลับยังคงเดินหน้าไปจนได้ ดังนั้นเมื่อนายกรัฐมนตรีและคณะกลับมา ก็ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ซึ่งเรื่องทำนองนี้ ป.ป.ช.เคยมีคำวินิจฉัยไว้แล้ว ไม่ต่างอะไรกับนำรถราชการไปใช้ในภารกิจที่ไม่ใช่ราชการ ที่มีบทลงโทษมามากต่อมากแล้ว
ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และนำความมายื่นร้องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวน และวินิจฉัยเอาผิดนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าคณะ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจดังกล่าว ฐานทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการโดยมิชอบ และฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง.