รัฐบาลใหม่ต้องเร่งลุยนโยบาย ที่หาเสียงไว้ให้สุดลิ่มทิ่มประตู

เพื่อโชว์ให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยคิดใหญ่ ทำเป็น

เริ่มลุยคิวแรกคือ ลดราคาดีเซล-ลดค่าไฟฟ้า ตุนคะแนนนิยม

ก็มาถึงคิวต่อไปคือนโยบายพักหนี้เกษตรกร

พักหนี้เกษตรกร 2.7 ล้านราย ที่เป็นหนี้ ธ.ก.ส.ไม่เกิน 3 แสนบาท สามารถลงทะเบียนพักหนี้ทั้งดอกทั้งต้นเป็นเวลา 3 ปี

เริ่มนับหนึ่ง...ตั้งแต่เดือนหน้า เป็นต้นไป!!

โดยรัฐบาลเศรษฐายอมควักกระเป๋าจ่ายดอกเบี้ยแทนเกษตรกรปีละ 11,096 ล้านบาท

รวมพักหนี้ 3 ปี รัฐบาลต้องจ่ายดอกเบี้ย ธ.ก.ส.เป็นเงิน 33,000 ล้านบาทโดยประมาณ

ข้อดี ของมาตรการพักหนี้ 3 ปี คือช่วยพี่น้องเกษตรกรให้มีเวลาตั้งหลักพักหายใจ

พูดง่ายๆคือยืดความเป็นลูกหนี้ ธ.ก.ส.ให้ยาวขึ้นอีก 36 เดือน

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า มาตรการพักหนี้เกษตรกรเป็นแค่ฉีดยาชาบรรเทาอาการซึมเศร้าชั่วครู่ชั่วคราว

แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน

การพักหนี้เกษตรกร 13 ครั้งที่ผ่านมา เมื่อพ้นระยะพักหนี้แล้วพบว่าเกษตรกรกลับเป็นหนี้มากกว่าเดิม

เป็นเช่นนี้มาแล้วทุกครั้งและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป

นี่คือเหตุผลที่รัฐบาล “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” ต้องออกนโยบายเพิ่มรายได้เกษตรกร

ตั้งเป้าจะเพิ่มรายได้เกษตรกรสูงขึ้น 3 เท่า ภายใน 4 ปี

เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรไทยหลุดพ้นจากหลุมดำของการเป็นหนี้ซ้ำซากชั่วนิจนิรันดร

แต่จะทำได้จริงหรือไม่...บอกตามตรงว่ายาก...นะคุณ

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่า พักหนี้เกษตรกรแล้ว คิวต่อไปจะเป็นมาตรการพักหนี้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี)

...

หลังจากนั้นจะลุยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ หนี้สินครู หนี้สินตำรวจ หนี้สินเงินกู้ผ่อนซื้อรถยนต์–รถมอเตอร์ไซค์ ฯลฯ ให้ครบวงจร

แต่ปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลหมดปัญญา...คือการแก้ปัญหาหนี้สินรัฐบาลเอง

รัฐบาลจะพักหนี้ตัวเองก็ทำไม่ได้ เพราะดอกเบี้ยเงินกู้ยังเดินทุกนาที

รัฐบาลจะหยุดกู้เงินก็ทำไม่ได้ เพราะงบประมาณรัฐบาลขาดดุลติดลบตัวแดง รายจ่ายสูงกว่ารายรับทุกปี

ทำให้รัฐบาลต้องแบกหนี้หลังแอ่นอย่างที่เห็นกัน

ล่าสุด ยอดหนี้เก่าบานเบอะไปถึง 1.6 ล้านล้านบาท

มีภาระต้องผ่อนชำระหนี้สูงถึง 3.9 แสนล้านบาทต่อปี

แถมยังมีหนี้ใหม่เพิ่มมาอีก 1.9 แสนล้านบาท

กว่าจะใช้หนี้หมดก็ชาติหน้าตอนบ่ายละคุณโยม.

“แม่ลูกจันทร์”

คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม