"สมศักดิ์" ลงพื้นที่ "ยะลา-ปัตตานี" มอบนโยบาย ศอ.บต. พัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ เล็งสร้างอาชีพ "เลี้ยงไก่-โคบาลชายแดนใต้-วัวกีฬา" พร้อมต่อยอด "ครัวอาหารฮาลาลโลก" หวังสร้างความยั่งยืนให้ประชาชน หนุนสร้างคมนาคมในพื้นที่ แย้ม จ่อไปมาเลย์ เจรจาสร้างถนนร่วมกัน

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 66 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี เพื่อตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายด้านการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ โดยได้ร่วมหารือและมอบนโยบายการดำเนินงานกับผู้บริหาร และข้าราชการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ หรือ ศอ.บต. นำโดย นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต. นายศรัทธา คชพลายุกต์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต ที่มาจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กรมประชาสัมพันธ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี จังหวัดปัตตานี ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ ยังมีแกนนำชุมชนรวมถึงผู้นำศาสนา เข้าร่วมพูดคุยถ่ายทอดปัญหาต่างๆ ให้แก่รองนายกรัฐมนตรีรับทราบอีกด้วย

...

โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ตนได้รับทราบปัญหาเป็นจำนวนมาก ทั้งในเรื่องการดำรงชีวิต การศึกษา การสร้างอาชีพ การคมนาคม โดยเรื่องเหล่านี้ต้องได้รับการสนับสนุนและแก้ไข เพื่อให้พี่น้องประชาชนอยู่ได้ ซึ่งจากนี้ต้องทำในเรื่องของการพัฒนาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงไก่ กิจกรรมโคบาลชายแดนภาคใต้ โดยจะต้องผลักดันให้พี่น้องประชาชน สามารถยืนได้อย่างยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมาใช้วิธีการเลี้ยงแบบเป็นกลุ่ม จึงอาจจะเกิดปัญหาว่าใครทำมากทำน้อย จนเกิดการถกเถียงกัน แต่ที่ จ.สุโขทัย มีการสนับสนุนให้เป็นบุคคลเลี้ยง โดยใช้เวลา 3 ปี 7 เดือน จากวัว 2 ตัว กลายเป็น 9 ตัว ทำให้คนเหล่านั้นมีทุนเป็นหลักแสนบาท

"เราต้องมองที่ความต้องการของประชาชนเป็นหลักว่า สิ่งใดที่เขาเหมาะสม อย่างเช่น หากอยากเลี้ยงวัวกีฬาก็ควรสนับสนุน เพราะวัวชนิดนี้ หากได้สายพันธุ์ที่ดี จะมีราคาสูงกว่าวัวเนื้อเป็น 10 เท่า รวมถึงยังมีการขายน้ำเชื้อ ซึ่งสร้างรายได้มากกว่าการเลี้ยงโคเนื้อ ส่วนการเลี้ยงไก่เวลานี้ ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศอาหรับต้องการไก่จากกลุ่มจังหวัดชายแดน แต่เราก็ยังไม่สามารถที่จะพัฒนาจนถึงนำไปส่งออกได้ โดยเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องมาวางแผนกันใหม่ เพราะสิ่งที่ตนจะนำไปผลักดันต่อ นั่นคือครัวอาหารฮาลาลโลก ที่มีการวางแผนงานไว้ก่อนหน้าที่ตนจะมาดำเนินงานตรงนี้" นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ตนเป็นห่วงอีก 1 เรื่อง จากการประชุมในครั้งนี้ คือตัวเลขจำนวนครัวเรือนประชากร ซึ่งรายงานไม่ตรงกัน ดังนั้น ตนจึงมีการสั่งการให้มีการพูดคุย แล้วสรุปตัวเลขให้ตรงกัน เพราะบางหน่วยงานสรุปว่ามี 1 หมื่น บางหน่วยงานสรุปว่ามี 5 หมื่น ทำให้ไม่สามารถวางแผนการทำงานได้ ส่วนเรื่องการสร้างคมนาคมนั้น ตนเห็นด้วย แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะต้องดูว่าเราจะสร้างตรงจุดไหน แล้วสามารถทำให้มีการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ และต้องเข้าใจว่า งบประมาณประเทศของเรานั้น ไม่ได้มีมาก จึงต้องคอยศึกษา แต่เรื่องนี้เชื่อว่า รัฐบาลต้องผลักดัน รวมถึงรถไฟทางคู่ที่เชื่อมโยงไปได้อีกหลายประเทศด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งสำคัญ ที่ต้องเจรจาหารือกับประเทศมาเลเซีย โดยตนก็ทราบว่า มีถนนบางเส้นของทางมาเลเซีย ก็พร้อมที่จะออกเงินคนละครึ่งกับประเทศไทย เพื่อพัฒนาร่วมกันตรงส่วนนี้ หากมีโอกาสตนจะต้องเดินทางไป เพื่อพูดคุยเจรจาให้เกิดประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศ

"ผมรู้สึกดีใจในวันนี้ ที่ได้เดินทางลงมาศึกษารับฟังปัญหา ผมคือคนชนบท ไม่ได้เติบโตในตลาด ดังนั้นสิ่งที่ผมจะทำงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะยึดประโยชน์ ของพี่น้องเป็นหลัก โดยวันนี้อาจจะยังลงรายละเอียดอะไรมากไม่ได้ แต่ผมจะศึกษาและทำให้ทุกอย่างนั้นดีขึ้น ทั้งในเรื่องของความเป็นอยู่และอาชีพ รวมถึงขอให้เข้าถึงและเข้าใจประชาชนในความต้องการ แล้วนำไปพัฒนาตามศาสตร์ของพระราชา ผมเชื่อว่าเราจะทำงานได้ลุล่วงและสำเร็จอย่างแน่นอน" นายสมศักดิ์ กล่าว.